ไม่รอดเงื้อมมือของทีมงาน iFixit อีกเช่นเคย สำหรับ iPhone SE ที่ต้องถูกชำแหละให้เห็นถึงชิ้นส่วนภายในว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปจาก iPhone รุ่นก่อน ซึ่งผลจากการชำแหละทำให้ทราบว่า Apple มีการใช้ส่วนประกอบที่คล้ายกับ iPhone 5s, iPhone 6 และ iPhone 6s มาผสมผสานกัน และคะแนนความสามารถในการซ่อมมือถือรุ่นใหม่อยู่ 6 คะแนน (จาก 1 – 10 คะแนน) หมายความว่า iPhone SE จัดเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างซ่อมง่าย
ในการแกะถอด iPhone SE ทางทีมงาน iFixit จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการไขสกรูเพื่อเปิดฝาเครื่อง หลังจากนั้นจึงใช้อุปกรณ์เฉพาะอื่นๆ ทยอยดึงแต่ละชิ้นส่วนออกมา โดยพบว่าแบตเตอรี่ของ iPhone SE มีความจุอยู่ที่ 1,624 mAh มากกว่า iPhone 5s ที่ใช้แบตเตอรี่ความจุเพียง 1,560 mAh และเมื่อทีมงาน iFixit ได้ทดลองเอ๊กซ์เรย์ตัวเครื่องไปพร้อมๆ กับ iPhone 5 และ 5s ทำให้พบว่าการจัดเรียงตำแหน่งชิ้นส่วนแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันแม้แต่น้อย
จากการงัดแงะอย่างต่อเนื่อง ยังทำให้พบอีกว่าบางชิ้นส่วนใน iPhone SE เช่น Qualcomm MDM9625M LTE Modem เป็นชิ้นส่วนที่ Apple ใช้ใน iPhone 6 และ 6 Plus หรือจะเป็น Qualcomm QFE1100 Envelope Tracking IC ก็เป็นชิ้นส่วนที่ติดตั้งอยู่ภายใน iPhone 6, 6s, 6 Plus และ 6s Plus ด้วย เป็นต้น
iPhone SE ได้รับคะแนนความสามารถในการซ่อมหากมีปัญหาจาก iFixit อยู่ที่ 6 คะแนน จาก 10 คะแนน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างซ่อมง่ายพอสมควร โดยทาง iFixit ให้ข้อสรุปว่า จอแสดงผลที่ไม่ได้มีความซับซ้อน สามารถเปลี่ยนหน้าจอได้ง่ายหากเกิดปัญหา เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ ที่ต้องระวังเป็นชิ้นส่วนของ Touch ID ที่อาจเกิดความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร และในการไขสกรูเพื่อเปิดฝาก็ไม่ง่ายนักที่จะเปิดมันออกมาด้วย
อ้างอิงจาก iFixit