ปลดล็อคการรอคอย ! Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 7 และ 7 Plus อย่างเป็นทางการ การออกแบบยังคล้ายกับ iPhone 6s มาพร้อมการกันน้ำ กล้องหลังเลนส์คู่ (เฉพาะรุ่น iPhone 7 Plus) และเป็นไปตามคาดตัดแจ็คหูฟังทิ้ง มีหูฟังไร้สายตัวใหม่เรียกว่า Apple AirPods
iPhone 7 สเปคมีดังนี้
– หน้าจอ Retina HD Display ขนาด 4.7 นิ้ว
– กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS, ค่ารูรับแสง f/1.8 และ Quad-LED True Tone flash, ถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ พร้อมบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 4K 30 fps ได้
– กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Retina Flash (เพิ่มความสว่างสูงให้กับหน้าจอ)
– มีปุ่ม Home แบบใหม่
– กันน้ำ กันฝุ่น ในมาตรฐาน IP67
– ลำโพงคู่ ระบบเสียงสเตอริโอ
– ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A10
– รัน iOS 10
iPhone 7 Plus สเปคมีดังนี้
– หน้าจอ Retina HD display ขนาด 5.5 นิ้ว
– กล้องหลังเลนส์คู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ตัวแรกเป็นแบบ widw-angle (ค่ารูรับแสง f/1.8), เลนส์ตัวที่สองเป็นแบบ telephoto (ค่ารูรับแสง f/2.8), มี optical zoom 2x ซูมได้สูงสุด 10 เท่า, มีระบบกันสั่น OIS และ Quad-LED True Tone flash, ถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ พร้อมบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 4K 30 fps ได้
– กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Retina Flash (เพิ่มความสว่างสูงให้กับหน้าจอ)
– มีปุ่ม Home แบบใหม่
– กันน้ำ กันฝุ่น ในมาตรฐาน IP67
– ลำโพงคู่ ระบบเสียงสเตอริโอ
– ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A10
– รัน iOS 10
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ iPhone 7 และ 7 Plus แน่นอนว่าเป็นไปตามข่าวลือเป๊ะๆ ด้วยการตัดเส้นรับสัญญาณที่พาดขวางด้านหลังออก และขยับมาอยู่ขอบท้ายตัวเครื่องแทน พร้อมกับมีสีใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 สี ได้แก่ สีดำ Jet Black (โดนใจแอดมิน และน่าจะโดนใจหลายๆ คนด้วย) ที่ใช้ดีไซน์ Unibody แบบใหม่ มีส่วนผสมระหว่างอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 และกระจก ประกอบกันได้อย่างไร้รอยต่อ และให้ความทนทาน อีกสีใหม่จะเป็นสีดำแบบผิวด้านใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักเช่นเดียวกับสีเงิน, สีทอง และสีโรสโกลด์
(ซ้าย) สีดำ Jet Black (ขวา) สีดำแบบผิวด้าน
ส่วนต่อมาเป็นปุ่ม Home ที่ต้องเรียกว่าอัพเกรดขึ้นมา ด้วยการใช้ Taptic Engine เข้ามาเสริม เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ Quick Action, Message, Notifications และ Ringtones เป็นต้น นอกจากนี้ยังตอบสนองการใช้งาน 3D Touch ได้ด้วย
ไฮไลท์สำคัญอีกหนึ่งอย่างใน iPhone 7 และ 7 Plus คือ การออกแบบให้สามารถกันน้ำ กันฝุ่น ได้ภายใต้มาตรฐาน IP67 สามารถแช่น้ำได้ลึกไม่เกิน 1 เมตร และไม่เกิน 30 นาที กันน้ำกระเด็น หรือฝนสาดได้สบายๆ
กล้องถ่ายภาพ ระหว่าง iPhone 7 และ 7 Plus มีความเหมือนกันในเรื่องของความละเอียด ในส่วนกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS, ค่ารูรับแสง f/1.8, Quad-LED True Tone flash, ถ่ายวีดีโอ 4K 30 fps ได้ รวมถึงถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Retina Flash
สำหรับกล้องหลังเลนส์คู่ จุดเด่นใน iPhone 7 Plus เลนส์ตัวแรกเป็นแบบ widw-angle (ค่ารูรับแสง f/1.8), เลนส์ตัวที่สองเป็นแบบ telephoto (ค่ารูรับแสง f/2.8), มี optical zoom 2x ซูมได้สูงสุด 10 เท่า โดยไม่สูญเสียความละเอียดสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ และภาพแบบโบเก้ได้ มีโหมดถ่ายภาพ Portrait มาด้วย
ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A10 Fusion แบบ 4 คอร์ เร็วขึ้นกว่าชิป A9 ถึง 40% และมีชิปประมวลผลกราฟิกที่เร็วขึ้นกว่ารุ่น A9 ถึง 50%
ลำโพงจะเป็นแบบ Stereo Speaker มี 2 ตัว ให้ความละเอียดและคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น ดังมากขึ้น 2 เท่า
ขณะที่สิ่งที่มีการคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มงานอย่างการตัดแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ทิ้งไป ก็เป็นตามอย่างที่คาดจริงๆ ซึ่ง Apple ทดแทนด้วย dongle lightning เพื่อใช้ต่อกับสายหูฟังปกติได้ และตัวเลือกอย่าง Apple AirPods หูฟังไร้สายแบบใหม่ มีชิป Apple W1 ในตัว ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ เรียกใช้ Siri ได้ ใช้ร่วมกับ iPhone และ Apple Watch ได้ด้วย ซึ่ง Apple ให้เหตุผลในการทิ้งรูปแบบเดิมๆ เนื่องจากต้องการเปลี่ยนแปลงการใช้งานที่เราคุ้นเคย เพื่อก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
dongle lightning
Apple AirPods
ส่วนของแบตเตอรี่ Apple ไม่ได้มีการพูดถึงว่ามีความจุเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนเท่าใด แต่เคลมว่า iPhone 7 สามารถใช้ได้นานกว่า iPhone 6s ประมาณ 2 ชั่วโมง iPhone 7 Plus ใช้งานได้นานกว่า iPhone 6 Plus ประมาณ 1 ชั่วโมง และเช่นเดียวกับแรม ที่ Apple ไม่ได้กล่าวถึงเช่นกัน
iPhone 7 และ 7 Plus จะมี 3 ความจุให้เลือก ได้แก่ 32, 128 และ 256GB
ราคา iPhone 7 มีดังนี้
– iPhone 7 รุ่น 32GB ราคา 649 เหรียญสหรัฐ
– iPhone 7 รุ่น 128GB ราคา 749 เหรียญสหรัฐ
– iPhone 7 รุ่น 256GB ราคา 849 เหรียญสหรัฐ
ราคา iPhone 7 Plus มีดังนี้
– iPhone 7 Plus รุ่น 32GB ราคา 769 เหรียญสหรัฐ
– iPhone 7 Plus รุ่น 128GB ราคา 869 เหรียญสหรัฐ
– iPhone 7 Plus รุ่น 256GB ราคา 969 เหรียญสหรัฐ
เปิดสั่งจองล่วงหน้า 9 กันยายน และเปิดขายในกลุ่มประเทศแรก 16 กันยายน นี้ ยังไม่มีชื่อของประเทศไทยเช่นเคย
*** สีดำ Jet Black จะมีเฉพาะรุ่น 128 และ 256 GB เท่านั้น ***
กลุ่มประเทศแรกที่เตรียมขาย iPhone 7 และ 7 Plus
[…] A Boos นับตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPhone 7/ 7 Plus ที่ได้ช่องหูฟัง 3.5 mm […]
[…] Goodbye Jack (3.5mm) เป็นที่แน่นอนแล้ว สำหรับการตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ใน iPhone 7/7Plus ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากนี้เหล่าสาวกจะต้องหันมาใช้ทางเลือกใหม่ 2 ทางคือ 1.หัวแปลงหูฟัง 3.5 มม. เป็น Lighting ซึ่งจะมีแถมใน iPhone 7 ทั้งสองรุ่น (หมดยุคเสียบแบตฯ ไปด้วย ฟังเพลงไปด้วยแล้วครัซ) และ 2. ควักตังคซื้อ “AirPods” หูฟังไร้สายสุดพรีเมี่ยมจาก Apple […]