หากพูดถึงดราม่า ทุกวันนี้มีเรื่องให้เราดราม่ากันเยอะ ก็ไม่รุ้มันจะดราม่ากันทำไม ในเมื่อทุกอย่างมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เหมือนอย่างเรื่องที่ชอบดราม่ากันตั้งแต่ก่อน สุโขทัย มาลพบุรี อยุธยา ธนบุรี ยุคสมัยนี้เป็น กทม. ก็คือ Android กับ IOS
แน่นอนว่า ในยุคเทคโนโลยีค่านิยมของมันก็คงไม่พ้น Android กับ IOS ซึ่งเป็นสิ่งบันเทิงทุกครั้ง ที่ได้อ่าน แต่ไม่ใช่ในตัวคอลั่มนะ แต่เป็นการอ่านคอมเม้นที่ด่ากันไปด่ากันมา จนผมมีอารมณ์ร่วมด้วย อย่างการบัพกันอย่างเป็นสเต็ปในเรื่องข้อเสียของ IOS ที่พอทราบมาบ้าง
สเต็ปแรก: สำคัญมาก สำคัญกว่าระบบปฏิบัติการคือ แพงมาก แพงมหาศาล ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้พบว่า มีสมาทโฟนที่แพงอย่างนี้ ผมว่าที่มันแพง คงเพราะเคลือปทองฝังเพชรไว้หละซื้อทีทำเอาตัวเบาขึ้นเยอะ
สเต็ปที่สอง: มือถืออะไรไม่รู้โคตรยุ่งยากเลย คือสิ่งที่คนเราต้องการก็คือความรวดเร็วเพราะบางทีก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นปะ แต่นี้พอจะเอาเพลง ภาพเข้าที ต้องทำผ่าน ITunes และถ้าจะนำรูปจากคอมพิวเตอร์กลับมาลง IPhone ก็ต้อง syn ผ่าน ITunes ณ จุดๆนี้คงต้องมีเวลาราวๆ 3 ชั่วโคตรเห็นจะได้ กับความยากลำบากในการเอา เข้าๆ ออกๆ
สเต็ปสาม: รูปภาพและเพลงจะลบได้ต้องผ่าน Itunes เท่านั้นด้วย! งั้นชีวิตนี้เราจะไม่ขาดนาย Itunes ต้อง Love มากเลยเพราะถ้าขาดนายเราคงลบอะไรไปจากชีวิตไม่ได้อะ เปรียบเสมือนความทรงจำที่มีต่อแฟนเก่าที่ลบไม่ออก ยิ่งลืมกลับจำ เป็นเรื่องที่ทะเทือนใจอย่างแรงเลยเน้อ
สเต็ปสี่: การโหลดโปรแกรมใน App store วุ่นวายมากคือต้องมานั่งใส่ ID ทุกครั้งๆเมื่อโหลดโปรแกรม บางทีก็อยากให้มันจดจำได้บ้างเพราะเราก็ไม่ได้โหลด Appทุกวันไง นานๆทีมี App น่าสนใจมาเราก็โหลด แล้ว! คืออะไร? ต้องมาใส่ทุกครั้ง บอกได้คำเดียวว่าบางทีก็มีลืมเหมือนกันนะ
วันนี้เอาไป 4 สเต็ปก่อนเพราะถ้าขึ้นสเต็ป 5 เดี๊ยวจะรับกันไม่ไหวจนต้องมาดราม่าหยั่งกับละครน้ำเน่าหลังข่าวอีก ก็แหม มีการ อิจฉา ริษยา ด่าทอ งอลง้อ ขอแต่งงาน อวสาน จบ! ด้วย คอนเซ็บง่ายๆของละครไทยและลองมาเทียบกับเรื่อง Android และ IOS มันก็คงจะใกล้ถึงจุดไคลแมกซ์แล้วหละเพราะตอนนี้ก็กำลังด่าทอกันอยู่ แต่เดี๊ยวสักพักอีกสเต็บก็แต่งงานจนสุดท้ายก็อวสานและ จบไป แต่ยอมได้ที่ไหน เรื่องมหากาฬแบบนี้ยังต้องมีภาค 2 3 4 5 ถึง 100 กันแน่นอน แต่ไม่ว่าจะมีกี่ภาคผมก็อวยคู่นี้…ให้ได้กัน มันก็คงไม่พ้นคำโบราณที่ว่า “เกลียดอย่างไรได้อย่างนั้น” หรือ “ทะเลาะกันมากๆเดี๊ยวก็ได้(แต่ง)กัน” แน่นอน
จริงๆการทะเลาะกัน มันไม่ได้มีแค่การด่าทอกันอย่างเดียวหรอก มันต้องมีการโชว์ภูมิกันด้วย โชว์ว่าข้านี่หละรู้ดีที่สุดแล้ว พูดง่ายๆทำตัวเป็นผู้ผลิต เนี่ยนะเครื่องนี้มันเป็นอย่างงี้ๆนะ จนผมเหมือนจะเริ่มเห็นล่างๆแล้วหละ เหมือนเห็น Steven Jobs หรือ Andy Rubin มานั่งอธิบายสรรพคุณด้วยตัวเอง คนอะไรจะรู้ดีขนาดนั้น เนี่ยนะ IOS เป็นแบบนั้น นั้น นั้น Android เป็นแบบนี้ๆ โคตรเจ๋งเบยยย แต่พอมาดูในเว็บขายมือถือหรือไปถามพนักงานขายในร้านเพราะจะซื้อ อุ้ย!ไม่ใช่อย่างที่คนเม้นคนนั้นบอกหรอหน้าแตกเลย เพราะก่อนหน้านี้โชว์ภูมิเหมือนคนที่มาเม้นไว้เยอะเลย “ผมนี่ง่อยเลย”
แต่ไม่ว่ายังไงผมว่าการที่ Android กับ IOS เป็นคู่รักคู่แค้นกันก็คงจะดีแล้วเพราะหาก Android ไม่มี IOS หรือ IOS ไม่มี Android ที่เป็นของคู่กันตั้งแต่สมัยกรุงศรี….ก็คงไม่นานขนาดนั้น มันก็คงไม่มีการพัฒนาอะไรให้เราใช้เลย แต่หากใครไม่พอใจเรามีวิธีวัดความเจ๋งของ Android กับ IOS ที่เถียงกันละว่าใครเจ๋งกว่า นั่นคือ เอาทั้ง 2 อันเนี่ยไปปลูกสะระแหน่ที่หลังบ้าน อันไหนขึ้นก่อน ชนะ I’m winner