ปัจจุบันมือถือหรือสมาร์ทโฟนระดับ Hi-End หลายรุ่น มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นเกือบหมดแล้ว แต่คำถามคือ มันกันได้ถึงระดับไหน ? ในรุ่นเรือธงบางตัวก็มีจะรุ่นย่อยรองลงมาอีก อีกทั้งมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นไม่เหมือนกันด้วย
เช่น Huawei P30 Pro รองรับมาตรฐาน IP68 ส่วน Huawei P30 รองรับมาตรฐาน IP53 แม้จะเป็นเรือธงเหมือนกัน แต่คุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นต่างกันโดยสิ้นเชิง สุดท้ายเข้าใจผิดเอา P30 ไปลุยสงกรานต์จนน้ำเข้าเครื่องในที่สุด
ดังนั้นในบทความนี้ เรามารู้จักกับมาตรฐาน IP หรือคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นในสมาร์ทโฟนกัน ว่าดูยังไง และแบบไหนถึงเหมาะที่จะเอาไปเล่นสงกรานต์ได้ โดยมั่นใจว่าน้ำไม่เข้าเครื่องแน่นอน
คำว่า IP ย่อมาจาก International Protection Standard มาตรฐานที่บอกถึงระดับการป้องฝุ่นและน้ำของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้านี้เอง โดยค่านี้เรามักจะเห็นเป็นคำที่คุ้นเคยอย่าง IP67, IP68 และ IP53 หรืออะไรก็ตามที่มีคำว่า IP และตัวเลขสองตัวตามท้าย ส่วนความหมายของตัวเลข ตัวนำหน้าจะบ่งบอกถึง ระดับความคงทนต่อของแข็งหรือฝุ่น ส่วนตัวหลังจะบ่งบอกถึง ระดับความคงทนต่อของเหลวหรือน้ำ นั้นเอง ส่วนตัวเลข IPXX สองตัวหลังหมายถึงอะไรนั้น ลองดูข้อมูลจากตารางนี้เลย
จากตารางนี้จะเห็นเลยว่า อุปกรณ์อะไรที่มีค่า IP67 หรือ IP68 สามารถกันน้ำได้ดีสุด หากเป็น IP53 หรือ IP54 ก็คงกันน้ำได้ระดับหนึ่ง เช่นน้ำฝนหรือละอองน้ำในอากาศ แต่ไม่สามารถเอาไปล้างน้ำหรือจุมน้ำได้ ยกเว้นตัวที่มีค่า ระดับความคงทนต่อของเหลวหรือน้ำ ระดับ 7-8 ขึ้นไป ถึงจะสามารถทำได้
สรุปหากอยากเอาสมาร์ทโฟนไปลุยสงกรานต์ แนะนำให้ดูค่า IPXX ของตัวเครื่องกันก่อน โดยดูได้จากสเปกของตัวเครื่องผ่านกล่องแพ็คเก็จหรือเว็บไซต์ ส่วนค่า IPXX ที่ควรมี ต้องเป็นระดับ IP67 หรือ IP68 ขึ้นไปเท่านั้น แต่หากใครอยากเอาสมาร์ทโฟนติดตัวตอนเล่นสงการณ์จริง ๆ ลองดูบทความ 9 วิธีป้องกันน้ำเข้าสมาร์ทโฟน นี้ดูได้ครับ
ข้อแนะนำ ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนจะมีค่ากันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ก็จริง แต่ก็ไม่ควรเอาไปจุมน้ำเป็นเวลานาน (หรือไม่ควรประมาท เพราะน้ำเข้าคือจบ) เนื่องจากบางรุ่นมีเวลากันน้ำเข้าอย่างจำกัด และสุดท้ายต่อให้กันน้ำดีแค่ไหน ก็ไม่น่ากลัวเท่าทำตกน้ำจนว่ายลงไปเอาคืนไม่ได้….