ตัดสินใจพลาด Intel เคยปฏิเสธหุ้น OpenAI ไม่เชื่อว่าสร้างกำไรได้ในอนาคต

[ชวดโอกาส] ไม่มีใครรู้อนาคต คงมีแต่ไม่คาดคิด สื่อดังเผย Intel เคยได้รับข้อเสนอให้ลงทุนกับ OpenAI ในการซื้อหุ้น 15% ที่ราคา 1 พันล้านดอลลาร์ฯ เมื่อ 7 ก่อน ทว่าบริษัทได้ปฏิเสธข้อเสนอไป เพราะยังไม่เชื่อมั่นใน Generative AI ว่าจะสร้างกำไรได้ในสมัยนั้น

ย้อนกลับไปสมัย Bob Swan อดีตซีอีโอของ Intel ซึ่งได้เลื่อนขั้นจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินหรือ CFO มาเป็นซีอีโอในช่วงปี 2018 ถึง 2021 ทว่าตลอดช่วงที่ดำรงตำแหน่งนั้น ก็ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีพื้นฐานทางเทคนิคที่แข็งแกร่งพอ และขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีเชิงลึก จนเป็นปัจจัยให้ Intel พลาดโอกาสในภาคส่วน AI จนทุกวันนี้

รายงานจากทาง Reuters เผยได้สัมภาษณ์บุคคลภายใน (ไม่เปิดเผยชื่อ) ของ Intel พบช่วงปี 2017 – 2018 ทางบริษัทเคยได้รับข้อเสนอจาก OpenAI ในการซื้อหุ้น 15% ที่ราคา 1 พันล้านดอลลาร์ฯ พร้อมตัวเลือกในการเพิ่มหุ้นเป็นสองเท่า หากจัดหาฮาร์ดแวร์ในราคาต้นทุนได้ เพื่อช่วยพัฒนาบริการ Generative AI

ทว่า Bob Swan อดีตซีอีโอของ Intel ได้ปฏิเสธข้อเสนอไป เนื่องจากไม่เชื่อมั่นว่า Generative AI จะทำกำไรได้ในระยะสั้น ทั้งยังไม่ได้รับการยอมรับศักยภาพเชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวาง อาจผนวกกับ OpenAI ที่ช่วงนั้นยังเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้วย จึงปฏิเสธที่จะทุ่มงบมหาศาลในครั้งนั้นเอง

แต่หลังจากนั้นในปี 2022 ทาง OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT กลายเป็นบริการ AI เปลี่ยนโลกจนทุกวันนี้ และส่งผลบริษัทมีมูลค่ามากถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ในปัจจุบัน

ทางสื่อ Techspot ยังมองว่า การตัดสินใจของ Intel ที่จะไม่ลงทุนใน OpenAI นั้น ถือเป็นความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะความท้าทายในตลาด AI ทั้งยังทำให้เสียโอกาสในการลดการพึ่งพาชิป Nvidia ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจช่วยให้ได้เปรียบคู่แข่งในด้านฮาร์ดแวร์และการฝึกอบรมด้าน AI ได้มากกว่านี้

ความเชื่อมั่นในเรื่อง AI ของ Intel ก็สะท้อนผ่านมูลค่าการตลาดของบริษัท ที่ลดลงกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งหายไปถึง 1 ใน 4 นับเป็นเรื่องร้ายแรงครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตามทาง Intel ได้วางแผนพัฒนาชิป AI ใหม่ เช่น Gaudi 3 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันนี้อีกครั้ง พร้อม ๆ กับขยายขีดความสามารถในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐอเมริกาฯ เพิ่มเติม

ท้ายนี้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI นั้น พบชิปกราฟฟิกหรือ GPU มีความเหมาะสมมากกว่าชิป CPU โดยโดดเด่นในการคำนวณแบบขนาน ที่จำเป็นสำหรับการฝึกอบรมและรันโมเดล AI ซึ่งพิสูจน์แล้วกับทาง Nvidia ที่ปัจจุบันกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI ในตอนนี้เอง

ที่มา : Techspot