อินเทลจึงวางแผนสนับสนุนด้านการลงทุนเพื่อจัดการแข่งขันเกมในลีกต่างๆในประเทศ, วางแผนการสร้างระบบนิเวศคู่ค้า (ecosystem partnerships) เพื่อสร้างความร่วมมือกับบริษัทพาร์ทเนอร์ และเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำหน้าขึ้นไปอีกระดับให้แก่เกมเมอร์
มร.ซานโตช วิศวะนาธาน กรรมการผู้จัดการ, ธุรกิจ Global Markets & Partners, Sales & Marketing Group ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น อินเทล คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเกมมิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งในเกมประเภทอีสปอร์ต และพีซี เกมมิ่ง อินเทลจึงวางแผนสนับสนุนด้านการลงทุนเพื่อจัดการแข่งขันเกมในลีกต่างๆในประเทศ, วางแผนการสร้างระบบนิเวศคู่ค้า (ecosystem partnerships) เพื่อสร้างความร่วมมือกับบริษัทพาร์ทเนอร์ และเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำหน้าขึ้นไปอีกระดับให้แก่เกมเมอร์”
สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
- เป็นอีกหนึ่งปีที่หน้าตื่นเต้นสำหรับอินเทลกับการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการงานเกมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง Thailand Game Show ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 120,000 คน อินเทลมีการสนับสนุน Thailand Game Show มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนในปัจจุบันรายการดังกล่าวได้มีการเติบโตและสร้างโอกาสและอาชีพใหม่ๆให้กับหลายๆคน
- และเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกม (gaming ecosystem )ในประเทศไทย อินเทลได้ร่วมมือกับ FPS Thailand และ Bitrep เปิดตัวการแข่งขัน PUBG ในซีรีย์ใหม่ที่มีชื่อว่า Game of Wars ซึ่งเป็นการนำ Influencers และเกมสตรีมเมอร์ชื่อดังของเมืองไทยมาประชันฝีมือกันผ่านสื่อกลางความบันเทิงยอดนิยมอย่าง YouTube Gaming, Facebook, และ Twitch เพื่อให้แฟนเกมเกือบ 2 ล้านคนสามารถติดตามเกมไอดอลตนเองได้ผ่านทางช่องทางดังกล่าว การแข่งขันนี้จัดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคมนี้ โดยมีเงินรางวัลรวมมากกว่า 3 ล้านบาทสำหรับผู้ชนะ
- อินเทลมีการลงทุนด้านอีสปอร์ต และพีซี เกมมิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์พีซี
- ผลสำรวจโดยบริษัทวิจัยการตลาดนิวซู (Newzoo) ประจำปีพ.ศ. 2561 รายงานว่า ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2561 จะมีผู้เล่นเกมทั่วโลกราว 394.6 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นไปที่ 518.3 ล้านคนภายในปีพ.ศ. 2563
- อินเทลให้การสนับสนุนอีสปอร์ตมากว่า 15 ปี โดยจากรูปแบบความบันเทิงเฉพาะกลุ่ม ปัจจุบันอีสปอร์ตเติบโตขึ้นจนกลายเป็นมากกว่าการเล่นเกมทั่วไป โดยเป็นทั้งการแข่งขัน การรวมกลุ่มเพื่อนเพื่อสร้างทีมและอีกมากมาย โดยจากข้อมูลพบว่าจำนวนผู้รับชมอีสปอร์ตทั่วโลกในปัจจุบันมีมากกว่าจำนวนผู้ชมการแข่งขันกีฬาลีกดังๆระดับโลกอย่าง NHL, MLB และ NBA
- โดยจากการคาดการณ์ อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของผู้ชมอีสปอร์ตในประเทศไทยจากปีพ.ศ. 2560 – 2564 จะเพิ่มขึ้นราว 30% โดยจากเกมเมอร์จำนวน 27.47 ล้านคน (จากแพลตฟอร์มพีซี, มือถือ และเครื่องเกมคอนโซล) จะกลายเป็นเกมเมอร์บนพีซีมากถึง 16.30 ล้านคนในปีพ.ศ. 2561 และหากกล่าวถึงรายได้จากอุตสาหกรรมเกม ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 20 ประเทศที่มีรายได้จากเกมมากที่สุดในโลก
- อินเทลสนับสนุนการเติบโตของอีสปอร์ต และพีซี เกมมิ่ง อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ โปรเซสเซอร์ Intel Core X-series , พีซีที่มาพร้อมเทคโนโลยี Intel Optane และล่าสุดมินิ พีซี Hades Canyon NUC ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การเล่นเกมที่เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น
50 ปีแห่งนวัตกรรม
- อินเทลฉลองครบรอบ 50 ปี ในปีนี้
- อินเทลมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนาเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา อินเทลได้พัฒนาจากบริษัทผลิตชิปหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ จนกลายเป็นบริษัทผู้นำด้านคอมพิวเตอร์อย่างเต็มรูปแบบ
- ชื่อเสียงของอินเทลเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มอุตสาหกรรมพีซี แต่ประวัติศาสตร์ของ
อินเทลมีมากกว่านั้น ก่อนที่อุตสาหกรรมพีซีจะเติบโตอย่างในปัจจุบัน อินเทลเคยผลิตชิปซึ่งถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในทุกๆสิ่งตั้งแต่เครื่องสูบเชื้อเพลิงจนไปถึงสายการบิน
- ตั้งแต่ไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกอย่าง Intel 4004 อินเทลพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Intel Centrino ที่ช่วยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายได้, การนำเอาพอร์ต USB มาใช้งาน หรือเป็นต้นกำเนิดของเครื่อง Ultrabooks และคอมพิวเตอร์แบบ 2 อิน 1
- อินเทลมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พีซีรุ่นใหม่สามารถใช้งานแบตเตอร์รี่ได้ทั้งวัน , สามารถรองรับสัญญาณ 5G และมีการติดตั้ง AI เทคโนโลยี
มร.ซานโตช กล่าวเสริมว่า “อินเทลกำลังอยู่ระหว่างการทรานสฟอร์มเมชั่นจากธุรกิจที่เกี่ยวกับพีซี (PC-Centric) เพื่อเป็นกลุ่มธุรกิจที่เน้นการนำเอาข้อมูลมาประยุกต์ใช้ (Data-Centric) อินเทลได้มองข้ามไปอีกขั้นเพื่อนำเอาข้อมูลที่มีอยู่มาปลดล็อคและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยให้รถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นได้จริง, เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริง, สื่อสารกันผ่านเครือข่ายมือถือความเร็วสูง, และการใช้งานคอมพิวเตอร์อัจฉริยะในแบบที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน”
มร.ซานโตช วิศวะนาธาน กรรมการผู้จัดการ, ธุรกิจ Global Markets & Partners, Sales & Marketing Group ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น อินเทล คอร์ปอเรชัน