เผยรายละเอียดส่วนลึกของเทคโนโลยีสุดแปลกใหม่จากทาง Samsung หลังเปิดตัวกันไปในงาน Samsung Unpacked 2014 Episode 2 เมื่อวันที่ 4 กันยา ที่ผ่านมา
ตอนเปิดตัว Galaxy Note 4 ก็ว่าฮือฮาแล้ว จนหลายคนคิดไปแล้วว่า “สมกับที่รอคอย” ยัง ยังไม่หมด ซัมซุงยังงัดของเด็ดมาปล่อยอีกนั้นก็คือ Galaxy Note Edge มือถือจอข้างตัวแรกของโลก เรียกเสียงฮือฮาได้อีก (สมกับที่เป็นคู่กัดคู่ซี้ และคู่แข่งคนสำคัญของ Apple จริงๆ ) แต่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ยังไม่สร้างความแปลกใจได้เท่าเจ้าสิ่งแปลกใหม่ตัวนี้ นั้นก็คือ Samsung Gear VR หรือที่เรียกกันว่า “แว่นตาสู่โลกเสมือนจริง” (VR ย่อมาจาก virtual reality แปลว่า ภาพจำลองเสมือนจริง) มีชื่อเต็มว่า “Samsung Gear VR Innovator Edition” ร่วมพัฒนาโดยบริษัท Oculus (เป็นบริษัทที่จุดประกายเทคโนโลยี VR ให้โด่งดังมาทุกวันนี้ ปัจจุบันถูกซื้อกิจการโดย Facebook)
มันคืออะไร
Samsung Gear VR เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับแปลงร่างหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 ของ Note 4 ให้กลายเป็นประตูสู่โลกเสมือนจริง คือ สามารถดูภาพยนตร์ได้แบบเต็มลูกตา หรือเล่นเกมได้อย่างสมจริง เพราะแสดงผลแบบ 360 องศา เป็นตัวเพิ่มอรรถรสในความบันเทิงสูงสุด อย่างแท้จริง
มันทำงานยังไง
ตอนนี้ทุกคนคงน่าจะทราบแล้วว่า “มันคืออะไร” ต่อไปคือ “มันทำงานยังไง” เรามาดูกันต่อนะครับ สำหรับเจ้า Gear VR จะมีส่วนประกอบหลักๆ 2 ส่วนคือ ตัวแว่น กับ ตัว Note 4 แลดูง่ายๆดีนะครับ ในส่วนของการทำงานนั้น Note 4 จะรับบทเป็นตัวประมวลผลหลัก ทั้งแสดงภาพและเสียง ส่วนควบคุมก็จะเป็นตัว Gear VR ที่จะมีตัวสำหรับทัชแพด อยู่ด้านข้าง (ภาพบน) เอาไว้ควบคุม มีปุ่มย้อนหลัง(ปุ่มBack) ตัวควบคุมเสียง และเรายังสามารถควบคุมได้แบบ accelerometer อารมณ์ก็คงเหมือน ปุ่มอนาล็อกบนจอยเกม play ผสมกับตัวทัชแพดบนโน็ตบุ๊ค นอกจากตัวทัชแพดแล้ว ก็จะมีจอยสติกเป็นอุปกรณ์เสริมมาด้วย เอาไว้สำหรับเพิ่มอรรถรสในการควบคุมและการเล่น สำหรับตัว Note 4 กับ Gear VR นั้น ทั้งสองจะเชื่อมต่อกันโดยผ่านพอร์ต micro USB 1.1 (ภาพล่าง)
ภาพที่เห็นภายในตัว Gear VR เป็นยังไง ดูตามภาพด้านล่างเลยครับ
มันดียังไง
ในส่วนนี้จะพูดถึงความบันเทิงที่ได้จากเจ้าแว่น VR ตัวนี้บ้างว่ามันเจ๋งแค่ไหนกัน สำหรับตัว Gear VR นั้น จะมีเซ็นเซอร์ที่คอยจับการเคลื่อนไหวของศีรษะเรา ในขณะกำลังสวม ซึ่ง มันทำงานออกมาได้ดีมาก ถ้าเราเล่นเกมประเภท Shooting หรือเกมยิงยาน เราจะได้เล่นมันในมุมมองสามมิติ แบบ 360 องศา ประมาณว่า เป้าจะเคลื่อนตามหัวของเรา เราหัวไปทางไหน เป้าก็จะไปตามนั้น ฟังแล้วคิดว่า ไม่เวียนหัวแย่หรือ เปล่าเลย อย่างที่บอกไปมันทำงานออกมาได้ดีมาก คือ มันสมูทมาก ไม่มีการแลค หรือ ประมวลผลไม่ทันแต่อย่างใด เลยทำเรามัวแต่เพลินมากกว่าเวียนหัวไปเลย
สำหรับการชมภาพยนตร์นั้น ด้วยหน้าจอที่สามารถแสดงผลวิดีโอสามมิติได้ในรอบทิศทาง กับเลนส์ในตัวที่ให้มุมมองกว้างถึง 96 องศา บวกกับพลังประมวลผลที่เหลือเฟือ ทำให้การทำงานตอนเวลาเรามองไปรอบๆ (ในมุมมองสามมิติภายในแว่น) ออกมาดีมาก ไม่กระตุกเหมือนตอนเล่นเกม ต่อให้เราหันหัวแบบเร็วๆก็ตาม
ตัวของ Gear VR จะทำด้วยพลาสติกซะส่วนใหญ่ กับขนาดที่ไม่ใหญ่มาก (198 x 116 x 90 mm)ทำให้มันมีน้ำหนักไม่มาก เวลาใส่แล้วไม่รู้สึกอัดอัด หรือ เวียนหัวแต่อย่างใด
ข้อสังเกตุเล็กน้อย
ในส่วนของชื่อ “Innovator Edition” ที่ตามท้ายนั้น หมายความได้ว่า “รุ่นบุกเบิก” พูดง่ายๆ ก็คือ เจ้า Gear VR ยังเป็นรุ่นต้นแบบ และ มันก็ยังเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของทาง Oculus เลยก็ว่าได้ (Oculus ยังไม่เคยส่งผลิตภัณฑ์ออกมาขายซักชิ้น) เพราะงั้นเราคงต้องรอไปอีกสักพัก คาดว่าจะใหญ่ๆเลยละ เพราะยังต้องมีการพัฒนาต่ออีกในบางส่วน โดยเฉพาะจากคำบอกเล่าของทีมงานเว็บไซต์ engadget ที่ได้ไปสัมผัสมาแล้วว่า ถ้าเราถอด note 4 ออกจาก Gear VR โดยที่เรายังเปิดโปรแกรมสำหรับควบคุมอยู่ละก็ มีโอกาศพังได้ง่ายๆ แถมยังมีความรู้สึกว่า การเชื่อมต่อของ Gear VR ที่ผ่าน Micro USB นั้น เหมือนมันถูก “jam” ยังไงยังงั้น
สรุปโดยรวมทั้งหมดของเจ้า Samsung Gear VR โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ยุคของ virtual reality มันกำลังมาแล้ว พิสูจน์แล้วโดยซัมซุง ที่ถือได้ว่ามันพัฒนาขึ้นมากจริงๆ ถึงจะยังมีบางส่วนยังต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย ทั้งนี้เจ้า Gear VR ตัวนี้มันยังเป็นรุ่นบุกเบิกอยู่เลย มันยังคงสามารถพัฒนาต่อไปอีก เชื่อว่าถ้ามีพัฒนาจนได้เป็นรุ่นถัดไปละก็ ยุคทองของเทคโนโลยี VR ต้องมาอย่างแน่นอน
ที่มา(รวมทั้งภาพประกอบ) : engadget.com