รีวิว Huawei P9 ไม่ต้องมืออาชีพ ก็ถ่ายรูปให้สวยได้

ขึ้นต้นหัวข้อไว้คงทำให้ผู้อ่านหลายท่านที่อาจบอกตัวเองว่า “ฉันถ่ายรูปไม่สวย” ได้มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ Huawei P9 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ผนึกกำลังกับไลก้า (Leica) แบรนด์ผู้ผลิตกล้องสุดคลาสสิค เพื่อยกระดับการถ่ายภาพที่จะทำให้เราไม่เชื่อว่านี่คือ ภาพที่ถ่ายจากสมาร์ทโฟน ซึ่งกระแสของ Huawei P9 รุ่นนี้ ค่อนข้างมาแรงมาก เพราะในงานเปิดตัวที่แอดมินได้ไปร่วมงาน ทางผู้บริหารของหัวเว่ยเอ่ยปากบอกเลยว่ายอดจองทะลุเกินเป้าหมายจากที่คาดไว้ถึง 2 เท่า ด้วยกระแสที่กำลังถูกจับตามองในขณะนี้ arip มีรีวิวมาฝากทุกคนครับ

รีวิว Huawei P9

สเปค Huawei P9

– ขนาดและน้ำหนัก 145 x 70.9 x 6.95 มิลลิเมตร 144 กรัม

– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) 423 ppi

– รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย EMUI 4.1

– ใช้ชิปประมวลผล Huawei Kirin 955 แบบ 64-bit Octa-Core

– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T880

– แรม 3GB, พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 32GB, รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB

– กล้องหลัง เลนส์ Leica ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Monochrome (ถ่ายภาพขาวดำ) และแฟลชคู่ Dual-Tone

– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– การเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G/5G, a/b/g/n/ac with Wi-Fi Direct, Bluetooth 4.2 และรองรับพอร์ต USB Type-C

– รองรับการสแกนลายนิ้วมือ ที่ปุ่มด้านหลัง

– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh

– ราคา 16,990 บาท

การออกแบบ

p9-002

สัมผัสแรกของ Huawei P9 รู้สึกได้ถึงความเบา ถือมือเดียวได้สบายๆ ใช้อะลูมิเนียม (Unibody) เป็นวัสดุหลักทั้งตัวเครื่อง มีความมันวาว รู้สึกได้ถึงความลื่นในขณะหยิบถือ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หน้าจอแสดงผลครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 4 ที่ให้ความทนทานต่อรอยขีดข่วน ส่วนบริเวณแถบกล้องหลังจะมีกระจกครอบทับอยู่ ช่วยกันรอย ขณะที่กล้องหลังไม่มีนูนออกมา ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลว่าเวลาวางกับพื้นแล้วกล้องจะเป็นรอย

จากขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว บวกกับความบาง 6.95 มิลลิเมตร ช่วยให้การหยิบจับและใช้งานง่ายด้วยมือเดียว สามารถใช้นิ้วชี้เพื่อใช้งานสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังได้อย่างสะดวก

โดยรวมของการออกแบบดูมีความเรียบง่าย สวยงาม บางเบา แฝงด้วยความแข็งแกร่ง แสดงออกถึงความพรีเมียม นับเป็นแนวทางที่ Huawei เลือกใช้ และทำได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีทั้งคู่มือ หูฟัง เคส แท่งเหล็กสำหรับถาดซิม USB Type-C และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาดใหญ่ ที่พัฒนามาเพื่อการชาร์จแบตที่เร็วขึ้น

p9-006

แผงควบคุม พอร์ตเชื่อมต่อ

ปุุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่มปิดแอพที่ไม่ได้ใช้งาน อยู่ในรูปแบบ On-Screen แต่หากไม่พอใจอยากสลับตำแหน่งปุ่ม หรือเพิ่มปุ่มแผงการแจ้งเตือน (ปุ่มที่มีลูกศร) เป็น 4 ปุ่ม ก็ทำได้ เพียงเข้าไปที่เมนูความช่วยเหลืออัจฉริยะ > ปุ่มนำทาง

p9-007

ตัวเครื่องด้านขวาประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มพาวเวอร์เปิด-ปิดหน้าจอและเครื่อง ซึ่งได้รับการดีไซน์ให้แสดงความชัดเจนมากขึ้น

p9-008

ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นถาดสำหรับใส่ NANO SIM สามารถใส่ได้ 2 ซิม หรือจะเลือกใช้ซิมเดียว และเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย microSD card สูงสุด 128GB ก็ได้

p9-009

ส่วนท้ายสุดมีพอร์ตต่อหูฟัง ลำโพง และพอร์ต USB Type-C สะดวกต่อการต่อสายชาร์จที่ไม่ต้องกังวลว่าจะต่อผิดด้าน แต่หากต้องใช้พาวเวอร์แบงค์ คงต้องพกสายชาร์จไปเองนะครับ

p9-0010

การแสดงผล

ขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว แสดงผลในความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล หรือเรียกง่ายๆ ว่า Full HD ให้ความชัดเจนในทุกมุมมอง ทั้งแอพ ตัวหนังสือ สามารถปรับความสว่างได้ตามที่ต้อง รวมไปถึงการปรับอุณหภูมิสีของการแสดงผล ซึ่งเราสามารถกำหนดให้เป็นค่าเริ่มต้นตามที่ตั้งมาก่อนแล้วหรือจะเลือกปรับโทนสีให้เป็นแบบโทนอุ่นหรือโทนเย็น หรือเลือกโทนสีได้ตามที่เราคิดว่ามองแล้วสบายตาที่สุดได้ โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่เมนูการตั้งค่าการแสดงผล > อุณหภูมิสี

p9-0011

อินเทอร์เฟซ และฟีเจอร์ใช้งาน

Huawei P9 มากับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบด้วย EMUI 4.1 อินเทอร์เฟซของ Huawei ที่พัฒนาขึ้นเองและใช้กับสมาร์ทโฟนมาหลายต่อหลายรุ่นแล้ว โดย UI ที่สร้างความเป็นตัวของตัวเองแล้ว ยังช่วยในการเข้าถึงแอพต่างๆ ได้ง่าย ปราศจาก App Drawer หรือหน้าต่างที่รวบรวมแอพทั้งหมดที่ติดตั้งกับเครื่อง ซึ่งแอพที่มากับเครื่องหรือเราโหลดเพิ่มในภายหลังจะถูกนำออกมาโชว์ในหน้าแรก และหน้าถัดๆ ไป เมื่อเราเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ

อีกหนึ่งจุดเด่นสำหรับคนเบื่อง่าย กับหน้าล็อคสกรีนที่จะปรับเปลี่ยนวอลเปเปอร์ไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละภาพล้วนมีความสวยงามมากทีเดียวครับ หรือหากเราต้องการใช้ภาพส่วนตัวตั้งเป็นวอลเปเปอร์ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ในหน้าล็อคสกรีนยังสามารถเข้าเมนูอื่นๆได้ เพียงทัชหน้าจอด้านล่างขึ้นบนเล็กน้อย ก็จะสามารถเลือกเล่นเพลงได้ เลือกภาพล็อคสกรีนที่ถูกใจ เข้าถึงเมนูตั้งค่าเมนูบันทึกเสียง เครื่องคิดเลข ไฟฉาย และกล้องถ่ายภาพ

เรื่องแบตเตอรี่ แม้ Huawei P9 จะให้ความจุมาถึง 3000 mAh แต่ด้วยปริมาณการใช้งานของผู้คนที่แตกต่างกัน ตัวจัดการแบตเตอรี่ที่อยู่ในเมนูการตั้งค่าขั้นสูง จึงเป็นตัวช่วยที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ใช้งานยาวนานมากขึ้น สามารถเลือกดูระดับการใช้พลังงานในส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้ มีโหมดพลังงานที่สามารถปรับระดับการใช้พลังงานได้ 3 แบบ ได้แก่ โหมดประสิทธิภาพ : ที่จะช่วยลดการใช้ซีพียูในขณะเล่นเกมหรือดูวีดีโอ, โหมดอัจฉริยะ : ปรับการใช้พลังงานอย่างสมดุล, โหมดขั้นสูง : เหมาะสำหรับใช้ในกรณีที่แบตเหลือน้อยแล้วเราไม่ได้พกพาวเวอร์แบงค์ โหมดนี้จะปรับการแสดงผลให้เป็นขาวดำ และจำกัดการใช้งานให้เหลือเพียงโทร ส่งข้อความ พร้อมยืดเวลาการใช้งานได้อีกหลายชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูที่คอยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้งานได้อย่างง่ายดาย

มากกว่าสแกนลายนิ้วมือ

p9-0027

นับเป็นอีกความล้ำสมัยของปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ที่ไม่เพียงแค่สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว แต่สำหรับหัวเว่ยแล้วปุ่มสแกนลายนิ้วมือยังใช้เป็นชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ใช้เป็นปุ่มรับสาย ปิดนาฬิกาปลุก หรือปัดเพื่อเลื่อนดูรูปภาพก็ได้เช่นกัน

การควบคุมการเคลื่อนไหว จะอยู่ในเมนูความช่วยเหลือแบบอัจฉริยะ เป็นอีกฟีเจอร์ที่ใช้การขยับท่าทางเพื่อเรียกใช้งานต่างๆ เช่น การคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียงสายเรียกเข้า หรือปิดเสียงนาฬิกาปลุก, การยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อลดระดับเสียงของสายเรียกเข้า หรือลดระดับเสียงนาฬิกาปลุก, การยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเพื่อรับสายทันที โทรออก หรือเปิดลำโพงเพื่อสนทนา เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การวาดตัวอักษรภาษาอังกฤษด้วยข้อนิ้วสำหรับเข้าถึงแอพ ซึ่งจะมีให้เลือกวาดทั้งหมด 4 ตัวอักษร เช่น การวาดตัว c เพื่อเปิดกล้อง, วาดตัว e เข้าแอพ Chrome, ตัว m เข้าแอพเพลง, ตัว w เข้าแอพพยากรณ์อากาศ โดยเราสามารถกำหนดได้ว่าหากวาดตัวอักษรเหล่านี้จะให้เข้าถึงแอพใดได้บ้างตามที่เราสะดวก

และสำหรับการจับภาพหน้าจอยังสามารถใช้ข้อนิ้วมือเคาะที่หน้าจอ 2 ครั้ง หรือวาดเป็นวงกลมในจุดที่ต้องการจับภาพ

สำหรับคนออกกำลังกายด้วยแอพสุขภาพ การใช้งานไม่ยากเพียงกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ เพศ ความสูง น้ำหนัก ปีเกิด โดยตัวแอพจะคอยตรวจจับการเดิน ระยะทางในการวิ่ง ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมไปถึงสามารถกำหนดเป้าหมายของการออกกำลังกายได้ด้วย

มาถึงไฮไลท์สำคัญที่เรื่องของกล้อง Huawei P9 ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ด้วยกล้องหลังเลนส์คู่ที่ร่วมมือพัฒนากับไลก้า ให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (ขนาดภาพ 3968 x 2976 อัตราส่วนภาพ 4:3) ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX286 รูรับแสง f/2.2 พร้อม Laser auto focus สำหรับช่วยจับภาพที่แม่นยำ รวดเร็ว และ IMAGEsmart 5.0 เทคโนโลยีประมวลผลภาพ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ร่วมกันส่งมอบความพิเศษให้กับ Huawei P9

p9-0038

ความพิเศษอีกหนึ่งรูปแบบของกล้องเลนส์คู่ Huawei P9 เอาใจผู้ชอบถ่ายภาพโทนขาวดำ ด้วยโหมด Monochrome ที่สะท้อนความเรียบง่าย บ่งบอกอารมณ์ ความรู้สึกทั้งในแง่บวกและลบได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งการเรียกใช้งานนั้นง่ายมาก เพียงเปิดกล้อง แล้วปัดหน้าจอไปทางขวา ก็จะพบกับโหมด Monochrome พร้อมทั้งโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ที่สามารถเรียนรู้และใช้งานได้อย่างง่ายด้วยตัวเอง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ในโหมด Monochrome (ภาพขาวดำ) ในความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4 : 3 แต่จะลดไซส์ของภาพลงจากเดิม 3968 x 2976 พิกเซล เหลือเพียง 1280 x 960 พิกเซล ครับ

p9-0043
ถ่ายด้วยโหมด Pro ISO 1250, Speed 1/400, AF-C
p9-0044
ถ่ายด้วยโหมด Pro ISO 50, Speed 1/1250, AF-C
p9-0045
ถ่ายด้วยโหมด Auto
p9-0046
ถ่ายด้วยโหมด Auto
p9-0047
ถ่ายด้วยโหมด Auto

ตัวอย่างภาพสีจากกล้องหลังในโหมด Auto ในความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4 : 3 แต่จะลดไซส์ของภาพลงจากเดิม 3968 x 2976 พิกเซล เหลือเพียง 1280 x 960 พิกเซล ครับ

p9-0054

การใช้สมาร์ทโฟน Huawei P9 เพื่อถ่ายภาพ การจัดองค์ประกอบของภาพ ระยะห่างระหว่างกล้องกับวัตถุ ถือเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้มือสมัครเล่นสามารถสร้างภาพที่มีความสวยงามขึ้นมาได้ โดยเราสามารถเปิดตารางสี่เหลี่ยม 9 ช่อง ตัวช่วยสำหรับการจัดวางวัตถุหรือจุดเด่นของภาพที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด สามารถใช้ได้ทั้งการถ่ายวิว ภาพบุคคล อาหาร หรือสิ่งของอื่นๆ เพราะบางครั้งวัตถุที่เราโฟกัสไม่จำเป็นต้องอยู่กลางภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนใครที่ชอบปรับแต่งค่าก่อนถ่ายภาพก็จะมีโหมด Pro มาให้ใช้เช่นกัน สามารถตั้งค่า ISO ได้สูงสุด 3200 ปรับสปีดชัตเตอร์ และอื่นๆเรียกใช้งานง่ายเพียงเปิดกล้องและเลื่อนแถบที่มีลูกศรชี้ขึ้นมา

p9-0042

สำหรับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหลังใน Huawei P9 จะมีโหมดที่เรียกว่า “Wide-aperture” เป็นไอคอนรูปวงกลม (ไอคอนรูรับแสง นั่นเอง) อยู่แถบด้านบนเมื่อเปิดกล้อง เมื่อแตะเปิดใช้งานจะมีคำแนะนำให้เรารู้ว่า ใช้เพื่อถ่ายภาพที่ระยะชัดลึกแบบตื้นๆ สำหรับการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุในระยะ 2 เมตรจากตัวคุณ ทันทีที่วัดระยะและลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพเรียบร้อย เมื่อเปิดดูภาพที่ถ่ายไว้จะมีไอคอนรูรับแสงแสดงอยู่ในภาพด้วย เราสามารถปรับขนาดความแคบ ความกว้างของรูรับแสง เพื่อให้เกิดภาพแบบปกติหรือแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ นอกจากนี้เรายังสามารถย้ายตำแหน่งของไอคอนรูรับแสงเพื่อกำหนดจุดโฟกัส พร้อมสร้างภาพในแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือหน้าเบลอหลังชัดก็ได้

สรุปภาพรวม รีวิว Huawei P9

ด้วยกล้องหลังที่มาแบบเลนส์คู่ย่อมเป็นจุดด่นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็นอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยตัวเลขความละเอียดเพียง 12 ล้านพิกเซล ในความรู้สึกของบางท่านอาจดูน้อย แต่หากท่านได้ลองใช้งานเหมือนแอดมินแล้วล่ะก็ จะค้นพบว่าความละเอียดเท่านี้ก็สามารถสร้างภาพที่มีความชัดเจนได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับมือสมัครเล่นที่ไม่ต้องการปรับแต่งอะไรใดๆ การใช้โหมด Auto ก็เพียงพอที่จะทำให้ภาพออกมาคมชัด ส่วนใครที่อยากถ่ายภาพในแบบฉบับของตัวเอง อยากให้ภาพสะท้อนความเรียบง่าย บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกทั้งในแง่บวกและลบได้ในเวลาเดียวกัน การมีโหมด Monochrome หรือภาพขาวดำ ที่ Huawei ร่วมพัฒนากับ Leica นับเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความพิเศษให้กับ Huawei P9 ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของตัวเครื่องให้ทั้งความสวยงาม บางเบา หยิบถือและใช้งานได้ด้วยมือเดียว การสแกนลายนิ้วมือก็นับว่ามีความรวดเร็ว แถมยังมากับการใช้งานที่หลากหลายด้วย สิ่งที่อาจจะต้องติเล็กน้อยคงเป็นเรื่องของ USB Type-C ที่หากต้องใช้พาวเวอร์แบงค์ คงต้องพกสายชาร์จของ P9 ไปใช้เอง ขณะที่ฟีเจอร์ตามเมนูต่างๆ ดูเยอะเกินไปนิด การใช้งานจริงอาจมีเพียงไม่กี่ฟีเจอร์เท่านั้น

อัพเดตราคา Huawei P9 เปิดขายในไทยแล้ว ในราคา 16,990 บาท มีสีเทา, สีทอง และสีเงินให้เลือก พร้อมกันนี้ยังมีรุ่น Huawei P9 Plus ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว วางขายแล้วเช่นกันในราคา 21,990 บาท และ Huawei P9 Lite ในราคา 8,990 บาท ครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here