เปิดตัวไปแล้วตามความคาดหมายสำหรับ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ภายในงาน Mobile World Congress 2017 ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน หลายคนคงเห็นสเปคกันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่า 2 สมาร์ทโฟนเรือธงนี้ยังมีเรื่องอะไรบ้างที่น่าสนใจไปชมกันครับ
1.ดีไซน์
หากมองดูเผินๆ Huawei P10 / P10 Plus ดีไซน์อาจไม่ต่างจาก Huawei P9 / P9 Plus เท่าไหร่ แต่ความจริงแล้ว Huawei มีการตัดปุ่มสแกนลายนิ้วด้านหลังออก แล้วหันมาใช้ปุ่ม home ทรงวงรีด้านหน้าแทน ขณะที่ตัวเครื่องยังใช้โลหะเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมขึ้นมา คือ การใช้เทคโนโลยีที่ทาง Huawei เรียกว่า “hyper diamond cut” จะมีเฉพาะตัวเครื่องที่เป็นสีฟ้า (Dazzling Blue) และสีทอง (Dazzling Gold) เป็นการฝังลวดลายเพชรเข้าที่ฝาหลัง เพื่อสร้างผิวสัมผัสที่ดีเวลาหยิบจับ
2. มีให้เลือกถึง 7 สี
นอกจากเรื่องของดีไซน์ Huawei ยังมีการร่วมมือกับ Pantone บริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านสี เข้ามีแต่งแต้มสีสันให้กับ Huawei P10 / P10 Plus เพิ่มเอกลักษณ์ของความเป็นแฟชั่นมากขึ้น จึงทำให้ในปีนี้เรือธงของ Huawei จึงมีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ Greenery, Dazzling Blue, Rose Gold, Ceramic White, Graphite Black, Mystic Silver และ Prestige Gold
3. ปุ่ม home ทำอะไรได้มากขึ้น
อย่างที่เกริ่นไปในข้อแรกว่า Huawei P10 / P10 Plus ตัดปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านหลังออก แล้วเพิ่มปุ่ม home ทรงวงรีเข้ามาที่ด้านหน้า ซึ่งปุ่ม home นี้เองยังแฝงไปด้วยลูกเล่นเล็กๆ น้อย เรียกว่า “Smart Touch” แบ่งการทำงานออกได้ ดังนี้ 1. ใช้เป็นสแกนลายนิ้วมือ 2. แตะครั้งเดียวเพื่อย้อนกลับ ใช้แทนปุ่มย้อนกลับ 3. กดเพื่อกลับสู่หน้า home และ 4. เลื่อนไปทางซ้ายเพื่อปิดแอพที่เปิดค้างไว้
4. ซอฟต์แวร์ที่มีระบบจัดการที่ดีขึ้น
Huawei P10 / P10 Plus มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ครอบด้วย EMUI 5.1 โดย Huawei กล่าวว่ามีการปรับปรุงคุณภาพในส่วน Android kernel, หน่วยความจำ, ระบบการจัดการไฟล์ขยะ รวมถึงการตอบสนองต่อการสัมผัส ซึ่งทำให้ภาพรวมช่วยให้เรียกใช้แอพเร็วขึ้นถึง 30% พร้อมกันนี้ EMUI 5.1 ยังมีคุณสมบัติของเรียนรู้แอพที่ใช้บ่อย เป็นจัดลำดับความสำคัญของแอพให้อัตโนมัติ เพื่อการเรียกใช้งานที่สะดวกมากขึ้น และสุดท้าย Huawei ยังร่วมมือกับ GoPro ในการสร้างสไลด์ภาพและจัดการวีดีโอจากแอพแกลลอรี่
5. กล้องหน้าและกล้องหลังใช้ Leica ด้วย
เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ถูกให้จับตามองเป็นอย่างยิ่ง เริ่มกันที่กล้องหลังที่ครั้งนี้ยังมาในแบบเลนส์คู่พร้อมเทคโนโลยี Leica 2.0 Pro Edition SUMMILUX-H Lens (f/1.8) เลนส์ตัวแรกให้ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (สำหรับเก็บสีขาวดำ), เลนส์ตัวที่สอง 12 ล้านพิกเซล (สำหรับเก็บภาพสี RGB), มีระบบกันสั่น OIS, มีระบบ Huawei Hybrid Zoom (2X) และระบบถ่ายภาพ 4-in-1 hybrid auto-focus
และในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ Huawei ใช้เทคโนโลยี Leica เข้ามาเสริมให้กับกล้องหน้าด้วย โดยความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9 เพิ่มเติมด้วยโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait mode) และ Bokeh mode เป็นสองตัวช่วยที่ทำให้การเซลฟี่มีความโดดเด่นและให้ภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ นอกจากนี้การถ่ายภาพแบบขาวดำยังเป็นโหมดที่มีมาให้ใช้กับกล้องหน้าเช่นเดียวกับกล้องหลังด้วย
6. แบตเตอรี่ความจุเพิ่มขึ้น
เพื่อตอบสนองการใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบไม่ต้องชาร์จ Huawei P10 มากับแบตเตอรี่ความจุ 3200mAh (Huawei P9 แบตเตอรี่ความจุ 3000) ส่วน Huawei P10 Plus แบตเตอรี่ความจุ 3750mAh (Huawei P9 Plus แบตเตอรี่ความจุ 3400mAh) และหากต้องการชาร์จแบบเร่งด่วนยังมีเทคโนโลยี Super Charge ที่ช่วยชาร์จแบตเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้นานหลายชั่วโมง
7. Huawei P10 Plus สมาร์ทโฟนที่รองรับ 4.5G
ในเรื่องของการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย Huawei ยังให้ความสำคัญไม่น้อยหน้าไม่กว่าเรื่องอื่นๆ โดย Huawei P10 Plus เป็นรุ่นที่มาพร้อมการเชื่อมต่อ 4.5G LTE ความเร็วสูงถึง 600Mbps ด้วยเทคโนโลยี 4×4 MIMO antenna ตอบสนองต่อการใช้งานสตรีมมิ่งด้านความบันเทิงและรองรับคลื่นความถี่ทุกคลื่นทั่วโลก
8. วางขายในไทยเดือนมีนาคมนี้
เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยสำหรับการรอคอย เพราะไทยเป็นประเทศในกลุ่มแรกที่ได้สิทธิ์วางขาย Huawei P10 / P10 Plus โดยมีกำหนดเข้ามาทำตลาดในช่วงเดือนมีนาคม (ส่วนเวลาที่แน่ชัดจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง) และราคาเบื้องต้นของ Huawei P10 ราคา 649 ยูโร หรือประมาณ 24,xxx บาท ส่วน Huawei P10 Plus ราคารุ่นแรม 4GB + หน่วยความจำภายใน 64GB อยู่ที่ 699 ยูโร หรือประมาณ 25,900 บาท ส่วนรุ่นแรม 6GB + หน่วยความจำภายใน 128GB อยู่ที่ 799 ยูโร หรือประมาณ 29,xxx บาท
https://www.youtube.com/watch?v=u9PORwYZSCo