เอชพี ชี้ไทยเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูกลยุทธ์ Core, Growth, Future ตอกย้ำ Reinvention สร้างสิ่งใหม่ สร้างนวัตกรรม
บริษัท เอชพี อิงค์ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีและพรินเตอร์ล่าสุด พร้อมแสดงศักยภาพด้าน VR เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงเพื่อการพาณิชย์ เน้น Reinvention สร้างสิ่งใหม่ สร้างนวัตกรรม ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกที่จะมาวางกรอบอนาคตของภาคอุตสากรรม และเน้นความสำคัญของตลาดประเทศไทยต่อการเติบโตของเอชพีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความหลากหลายและเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีอีกแห่งหนึ่งของโลก
มร. โก๊ะ คง เม็ง กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า 2 ปีที่ผ่านมา เอชพี ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสร้างพอร์ทผลิตภัณฑ์สินค้าที่แข็งแรงตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยภายใต้นวัตกรรม เอชพี มีความเชื่อมั่นอย่างสูงต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความหลากหลายและเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีอีกแห่งหนึ่งของโลก
รายงานล่าสุดของ เอ.ที. เคียร์เน่ และอาเซียตา ระบุว่า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างโอกาสให้อาเซียนก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 5 ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลของโลก ภายในปีพ.ศ. 2568 และในอีก 10 ปีข้างหน้า การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล อาจทำให้ GDP ในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หลายปัจจัยสำคัญของความสำเร็จได้ปรากฏให้เห็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง อัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรวัยหนุ่มสาว และไอซีทีคลัสเตอร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี รวมถึงการเข้าถึงสมาร์ทโฟนในอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่า 35%
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ประกาศแผนระยะยาวในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการสร้างการเติบโตด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ภายใต้โมเดลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ในฐานะที่เอชพีเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่มีพอร์ทผลิตภัณฑ์ที่มีระบบความปลอดภัยและโซลูชั่นส์ที่หลากหลาย เอชพีย่อมจะมีบทบาทที่เพิ่มขึ้น ในการสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย
นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เอชพี ใช้กลยุทธ์ Core, Growth และ Future ในการกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำนโยบาย Reinvention เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สร้างนวัตกรรมรองรับความต้องการในประเทศไทยและทั้งภูมิภาค โดย เอชพีจะยังเดินหน้าสร้างสรรค์เครื่องพิมพ์เคลื่อนที่คุณภาพเยี่ยม พัฒนาเครื่องพีซีที่ตอบสนองความต้องการของวิถีชีวิตยุคใหม่ One Life ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง การงานและการดำเนินชีวิต อีกทั้งเพิ่มความคล่องตัว สะดวยสบายของการทำงานที่ต้องเคลื่อนที่ไปในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และมั่นใจในเรื่องการส่งมอบผลงานที่มีความปลอดภัยสูงสุดทั้งด้านการประมวลผลและการพิมพ์
จากตัวเลขของไอดีซี ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 (IDC Q2 2017) แสดงว่า เอชพี สามารถรั้งตำแหน่งอันดับที่ 1 ตลาดพีซีตั้งโต๊ะ กลุ่มคอมเมอร์เชียลในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเกาหลี (SEAK) โดยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 21.2% และยังครองอันดับ 1 ทั้งหมวดพีซีเชิงพาณิชย์ โดยมีส่วนแบ่งตลาด 22.4% เติบโต 7.2% YoY และตลาดการพิมพ์ สำนักงาน โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 23.3% เพิ่มขึ้น 5 .1 จุด YoY
ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของเอชพีได้รับการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์และการพิมพ์เพื่อการทำงาน การเรียนรู้ และความสนุกในการใช้งาน เป็นอุปกรณ์การทำงานที่ให้ความอิสระต่อลูกค้าในการสร้างสรรค์ความคิด และผลงานช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่น และเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน
โน้ตบุ๊ค HP EliteBook รุ่น x360 1020 G2 และ HP EliteBook 1040 G4 ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานในองค์กรที่ผสมผสานระหว่างงานและวิถีชีวิตของคนทำงาน เป็นโน้ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมของเอชพีที่ให้ทั้งประสิทธิภาพการผลิต เสริมสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดที่ไม่เกิดขึ้นในสำนักงานแบบดั้งเดิม กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ถูกออกแบบให้มีขนาดบาง น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และทนทานต่อสภาพการใช้งานในสภาพ แวดล้อมที่ลำบากที่สุด แต่ให้ประสิทธิผลของงานอย่างน่าทึ่ง มีระบบความปลอดภัยระดับองค์กรมองหา พร้อมฟีเจอร์การปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อกัน
เอชพี ยังเดินหน้าผลักดันการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีระดับพรีเมี่ยมในตระกูล HP Spectre 13 และ HP Spectre x360 13 ซึ่งมีโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม มีการออกแบบสุดเท่ มีเชิงมุมมากขึ้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะของการทำงาน
เครื่องพีซีที่สามารถแยกส่วนได้ของ HP คือ ZBook x2 ซึ่งเป็นเวิร์คสเตชันสมรรถภาพสูงสุดรุ่นบุกเบิกแบบถอดแยกได้ ซึ่งตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพการใช้งานและความคล่องตัวของนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพด้าน digital imaging ด้วยโปรแกรม Adobe Creative Cloud® และแอพพลิเคชันการปฏิบัติงานที่ประกอบอย่างพร้อมมูลในเครื่องพีซี เป็นสิ่งที่กลุ่มมืออาชีพด้านออกแบบมองหาที่ช่วยแปลงงานจินตนาการของเขาให้กลายเป็นจริงได้
เอชพี ได้เปิดตัวโซลูชันเทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อเชิงพาณิชย์ เพื่อช่วยลดเวลาให้ภาคธุรกิจที่ต้องใช้ในขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่การวางแนวคอนเซ็ปต์ไปจนถึงขั้นผลิต อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ยังทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาล สำหรับการออกแบบนวัตกรรมและการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์เวิร์ค สเตชั่นเดสก์ท็อป HP Z8, Z6 และ Z4 ที่ได้เปิดตัวในครั้งนี้ เป็นอุปกรณ์ที่มีพลังและความปลอดภัยที่เหนือชั้น เครื่อง HP Z VR Backpack เป็นเครื่อง VR PC แบบกระเป๋าเป้สะพายหลัง ที่ใช้งานสำหรับมืออาชีพและมีความปลอดภัยสูงสุดชิ้นแรกของโลก ที่มีศักยภาพสูงในการแปลงโลกเสมือนจริงมาสู่ชีวิตจริง
การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการทำงานในยุค digital transformation ก่อให้เกิดความต้องการใหม่ๆ ในภาค อุตสาหกรรมการพิมพ์ให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ความร่วมมือทางธุรกิจมากขึ้น และการใช้งานแบบเคลื่อนที่ สายผลิตภัณฑ์ A3 มีการขยายตัวพร้อมแพลตฟอร์มการใช้งาน 2 แบบ ทั้งแบบการซื้อเครื่องและสัญญาเช่าใช้บริการเครื่องพรินเตอร์ มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ไม่เหมือนใครในท้องตลาด เช่น HP Connection Inspector ที่ติดตั้งมากับเครื่อง เป็นฟีเจอร์ระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะใหม่ ที่พัฒนาโดย HP Labs เพื่อป้องกันการโจมตีของมัลแวร์ และมีสมรรถภาพในการฟื้นฟูระบบความปลอดภัยด้วยตัวเองขั้นสูง
แนวทางพัฒนานวัตกรรมของเอชพี ในด้านการพิมพ์ผ่านมือถือ ยึดการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ที่ทำให้การพิมพ์เป็นสื่อกลางที่เชื่อมการจับภาพความประทับใจที่พบและแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่สำคัญนั้น ส่งผลให้เครื่องพิมพ์ภาพถ่าย Sprocket ที่เป็นที่นิยม และรุ่นล่าสุด Sprocket 2-in-1 ได้รับการพัฒนาซึ่งมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปในตัว
“เอชพี จะยังเดินหน้าสร้างสรรค์เครื่องพิมพ์เคลื่อนที่มีคุณภาพเยี่ยม พัฒนาเครื่องพีซีที่ตอบสนองความต้องการของวิถีชีวิตยุคใหม่ One Life ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการงานและการดำเนินชีวิต อีกทั้งเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานนอกสถานที่ภายใต้สภาพแวดล้อมหลากหลาย แต่ยังต้องคงประสิทธิภาพของผลงานที่มีความปลอดภัยสูงสุดทั้งด้านการประมวลผลและการพิมพ์ เอชพี ยังมีการวิจัย ติดตามประเมินตลาดและสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตของลูกค้าของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ในภาคอุตสาหกรรม หรือการพัฒนาเทคโนโลยี VR เพื่อการพาณิชย์อีกด้วย” นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) กล่าวสรุป