10 วิธีเลือกซื้อเครื่องไฟฟ้า จาก 10 ชนิดเครื่องไฟฟ้ายอดนิยม ก่อนถึงงาน HomePro Home Electric Super Sale วันที่ 17 – 26 สิงหาคม 61 นี้ ณ ไบเทคบางนา ลองมาดูวิธีเลือกซื้อกันก่อนครับ
นอกจากจะต้องจัดหาเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านแล้ว อีกสิ่งที่ต้องไปเดินเลือกซื้ออีก ก็ไม่พ้นเหล่า ‘เครื่องใช้ไฟฟ้า’ นี้เอง คงไม่ต้องบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าไฟฟ้ามีกี่ชนิด มีกี่แบรนด์ หลายคนคงลิสต์เอาไว้แล้ว แต่สิ่งที่น่าจะยังไม่ทราบคือ ในแต่ละชนิดควรซื้อยังไงดี แบบไหนถึงจะเหมาะกับเราจริง ๆ ตรงกับที่ต้องการมากที่สุด เพราะถึงอย่างไรก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้า จัดเป็นของที่มีราคาอยู่เหมือนกัน หากซื้อมาผิดก็คงเสียดายเงินไม่น้อย ดังนั้นลองมาดูวิธีเลือกซื้อจาก 10 ชนิดเครื่องไฟฟ้ายอดนิยมกัน แต่ละตัวจะมีวิธีเลือกซื้อยังไงบ้าง
ทีวี
เริ่มจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่น่าจะเป็นที่นิยมมากที่สุดอย่าง ‘ทีวี’ สำหรับทีวี สิ่งแรกที่ต้องดูก่อนเลยคือ ภาพเป็นไง สวยไหม เหมาะกับสายตาเราหรือไม่ แนะนำให้ลองไปดูนาน ๆ หรือให้ดีคือ ลองไปขอดูโหมดปรับภาพต่าง ๆ ของทีวีรุ่นนั้น ๆ จนรู้ว่าทีวีตัวนี้แสดงภาพได้ขนาดไหน ต่อมาคือ ขนาดหน้าจอที่ต้องใช้ ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับบ้านของแต่ละคน บางบ้านเป็นคอนโดหรือห้องเช่าเล็ก ๆ ก็คงเลือกขนาดแค่ 32 – 40 นิ้วพอแล้ว ถ้าบ้านมีพื้นที่กว้าง ก็เอาขนาด 40 นิ้วขึ้นไป ตามสภาพงบและพื้นที่วางที่ว่างอยู่ ถัดมาคือความละเอียด เมื่อก่อนความละเอียดระดับ 4K ถือว่าเกินเอื้อมมาก แต่เดี๋ยวนี้มีบางแบรนด์ก็ปรับให้มีราคาพอเอื้อมถึงได้แล้ว แต่แลกกับการลดสเปกบางอย่างลงไปพอควร ส่วนตัวจึงแนะนำความละเอียดพื้นฐานอย่าง 1080P หรือ Full HD ก็พอแล้ว เพราะถือเป็นความละเอียดยอดนิยมของ Content ในปัจจุบัน
ตู้เย็น
ในบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ตู้เย็นถือเป็นอันดับต้น ๆ ในเรื่องการกินไฟ ดังนั้นจึงควรมองหาอัตราการใช้พลังงานหรือการกินไฟของตู้เย็นก่อนอันดับแรก ซึ่งจะมีวิธีคำนวนอยู่ แต่ถ้าเอาแบบ Basic เลย ก็เลือกซื้อตัวที่มีฉลาก “เบอร์ 5” แปะอยู่ แนะนำนิดหน่อย จะมีตู้เย็นบางรุ่นที่มาพร้อม ‘ตัวกดน้ำ’ หน้าตู้ ซึ่งก็สะดวกเวลาหิวน้ำ สามารถไปกดเอาที่หน้าตู้เย็นได้ทันที แต่ขอแนะนำว่า เอาแบบธรรมดาดีกว่า จากประสบการณ์ตรงเคยมีตู้เย็นแบบนี้แล้ว ผลคือต้องคอยล้างตัวถังน้ำเกือบทุกอาทิตย์ เปลืองแรงโดยใช้เหตุ แถมเสียง่ายด้วย แนะนำให้ซื้อตัวกดน้ำแบบแยกต่างหากไปเลยดีกว่าครับ
เครื่องซักผ้า
ก่อนจะซื้อเครื่องซักผ้า อันดับเลือกให้ดูลักษณะการใช้งานของเราก่อนว่า เรามีความถี่ในการซักผ้าขนาดไหน และชอบซักผ้าชนิดไหนเป็นพิเศษ เมื่อทราบแล้ว ก็หน้าเดินไปยังร้าน มองหาเครื่องซักผ้าที่สามารถซักผ้าได้ตามที่เราต้องการ หรือจะสอบถามคนขายให้ช่วยแนะนำก็ได้
แอร์
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล ก็คือ ‘แอร์’ นี้เอง เช่นเดียวกับตอนเลือกซื้อตู้เย็น มองหาตัวที่กินไฟน้อย ๆ ก่อนอย่างแรก จากนั้นก็ลองดูฟีเจอร์อัจฉริยะ ที่แอร์บางตัวจะมีเซ็นเซอร์ช่วยประหยัดไฟติดมาให้ด้วย อย่างเช่น เซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับคนในบ้าน สภาพอากาศ และอื่น ๆ ที่ทำให้ตัวแอร์เอง สามารถเลือกใช้กำลังไฟได้อย่างเหมาะสม เชื่อว่ามีเกือบทุกรุ่นแล้วในปัจจุบัน แต่ตัวไหนจะถูกชะตาเรามากที่สุดนั้น ลองไปดูกันนะครับ
พัดลม
รองจากทีวีก็คงเป็นพัดลม ที่นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมไม่แพ้กัน สำหรับพัดลม หากเป็นไปได้ ควรเลือกแบบตั้งโต๊ะจะดีสุด เพราะกินไฟน้อยสุด เมื่อเทียบกับพัดลมแบบตั้งพื้นกับแบบติดเพดาน ทั้งนี้แนะนำให้ใช้พัดลมแบบธรรมดา ไม่จำเป็นต้องมีรีโมตกดเปิดปิดจากระยะไกลจะดีกว่า เพราะจะได้ช่วยเรื่องประหยัดไฟได้อีก สุดท้ายคือมีตรารองรับหรือมาตรฐานความปลอดภัยเวลาใช้งาน พยายามดูรุ่นที่มีมอเตอร์ทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับการใช้งานเป็นเวลานาน
เครื่องดูดฝุ่น
ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นมีหลายแบบมาก ทั้งแบบมีหัวแปรงหมุนติดตรงปลาย แบบพกพกใช้งานแบบไร้สายได้ และแบบดูดเองอัตโนมัติ (หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั้งหลาย) แต่ถ้าเราใช้เอง มั่นใจมือตัวเองมากกว่า ก็ลองมองหาตัวที่มีกำลังวัตต์ประมาณ 1,200 หรือมากกว่านี้นิดหน่อยพอแล้ว เพื่อไม่ให้ได้ตัวที่ทำงานเสียงดังจนเกินไป และกินไฟจนเกินจำเป็น และไม่ว่าจะชนิดไหน หากได้ตัวที่มีขนาดพอดีมือจะดีมาก โดยเฉพาะพวกใช้งานแบบไร้สายได้ ที่อาจต้องแลกกับราคาที่แพงขึ้นไม่ใช่เล่น แต่เพื่อความสะดวกสบายแล้วก็จัดไป ทว่าถ้าสู้ราคาไม่ไหว ก็เลือกรุ่นแบบมีสาย แต่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักไม่เยอะ และเสียงไม่ดังมากแทนก็ได้ครับ
หม้อหุงข้าว
นับเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ีมีติดแทบทุกครัวเรือน หากเป็นโสดอยู่คนเดียว ก็คงชอบไปกินข้าวข้างนอกหรือซื้อมาใส่จานกินเองมากกว่า ไม่จำเป็นต้องมีหม้อหุงข้าวแต่อย่างใด แต่ถ้าอยู่กันหลายคน มันคือของจำเป็นแน่ ๆ สำหรับการเลือกซื้อ อย่างแรกให้ดูจำนวนคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันก่อน ยิ่งอยู่กันเยอะ ก็ยิ่งต้องใช้หม้อหุงใบใหญ่ ๆ ตาม ถ้าไม่มาก ก็ใบ ๆ เล็กแบบพอเหมาะ ถัดมาคือดูประเภท บางหม้อก็หุงข้าวได้อย่างเดียว อุ่นข้าวไม่ได้ แต่ราคาถูกมาก ถ้าให้แนะนำ ก็ซื้อแบบหุงข้าวพร้อมอุ่นข้าวได้ดีกว่า น่าจะคุ้มงบสุดแล้ว หรือถ้างบเยอะ ก็มีแบบดิจิตอล สามารถตั้งเวลาหุง เลือกประเภทข้าวที่หุงก็ได้ บางรุ่นมีฟีเจอร์สำหรับอุ่นแกงโดยเฉพาะด้วย แต่แน่นอนว่าแพงกว่า 2 แบบแรกเยอะ และอาจใช้เวลาหุงข้าวนานกว่า
ไมโครเวฟ
หากหม้อหุงข้าวไม่จำเป็นสำหรับชาวโสด (ย้ำจริงคนเขียน – -) แล้วอะไรละที่จำเป็น ผมเชื่อว่ามันคือ ‘ไมโครเวฟ’ บางครั้งเราอาจต้องซื้อข้าวกล่อง 7-11 มาอุ่นเอง ดังนั้นไมโครเวฟคือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ควรขาด โดยเฉพาะครัวเรือนทั้งหลาย ส่วนการเลือกซื้อนั้น จากประสบการณ์ตรง ควรเลือกซื้อรุ่นที่มีแบรนด์กับมีราคาไปเลย อย่าซื้อรุ่นถูก ๆ จะดีกว่า เพราะที่บ้านเคยพังไปหลายตัวแล้วกับรุ่นถูก ๆ ทั้งหลาย ทั้งนี้ถึงจะแนะนำให้ซื้อรุ่นที่มีราคา ก็ใช่ว่าจะเอารุ่นหรู ๆ แพง ๆ อย่างรุ่นที่มีทั้งระบบย่างกับมีปุ่มกดแบบสวิตซ์ซะทีเดียว แบบอุ่นอย่างเดียวพร้อมลูกบิดหมุนก็โอเคเหมือนกัน (แอบกระซิบว่าแบบปุ่มหมุนทนกว่าปุ่มกดและใช้งานง่ายกว่าด้วย) ราคาไม่แรงมากด้วย แต่ขอตัวที่มีแบรนด์มีชื่อหน่อยนั้นเองครับ
เตารีด
แบบไอน้ำคือดีงาม ขอแนะนำจากใจเลย (เพราะโดนแม่ใช้ให้รีดชุดนักเรียนกับชุดนศ.เองมานาน…) เพราะช่วยให้รีดได้ง่ายขึ้นมาก และรีดเสร็จไวด้วย ทั้งนี้ควรใช้เตารีดแบบแสตนเลสหรืออะลูมิเนียม ผ้าจะได้ไม่ติดเวลารีด ที่เหลือก็แนะนำรุ่นที่มีขนาดพอดีมือ ไม่หนักมาก มีช่องใส่น้ำแบบใสให้สังเกตง่ายเวลาน้้ำใกลหมด
หลอดไฟ
ปิดท้ายด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว ซึ่งมีหมดทุกบ้านอย่างหลอดไฟ เนื่องจากเป็นของที่ต้องใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานมาก ดังนั้นวิธีการเลือกซื้อ อย่างแรกให้พิจารณาคุณสมบัติของหลอดไฟก่อนเลย ซึ่งหลอดไฟจะมีแยกย่อยหลายชนิด ตามความเหมาะสมในการใช้งานมากมาย ดังนั้นเวลาซื้อ ให้ดูก่อนว่าหลอดไฟนี้เหมาะสำหรับใช้งานอะไร ถามพนักงานขายก็ได้ ถ้าเมื่อก่อนคงแนะนำพวกหลอดไฟแบบ ‘คอมแพคต์ฟลูออเรสเซนต์’ หรือหลอด