เปิดพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือทางด้านการกำกับการปฏิบัติงาน การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ระหว่าง ธนาคารออมสิน กับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2561) ได้มีพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือทางด้านการกำกับการปฏิบัติงาน การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ระหว่าง ธนาคารออมสิน กับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยมี นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ นายวิทัย รัตนากร กรรมการและรักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง ณ ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ข้อตกลงฉบับนี้จัดทำขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างสถาบันการเงินรัฐ โดยธนาคารออมสินจะส่งเสริมและสนับสนุนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาการดำเนินงานด้านการกำกับการปฏิบัติงาน การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้ตกลงร่วมกันในการกำหนดรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติของการให้ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นบรรลุวัตถุประสงค์การทำบันทึกข้อตกลงต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้ให้ความสำคัญกับระบบการควบคุมภายในและการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของธนาคารฯ ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ทางการ และกฎเกณฑ์ของธนาคารฯ สำหรับการกำกับการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ธนาคารฯได้กำหนดให้มีส่วนกำกับการฟอกเงินโดยเฉพาะ มีการปฏิบัติงานเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้าน AML/CFT/CPF โดยมีนโยบายการปฏิบัติงานเพื่อป้องกัน ยับยั้ง มิให้ธนาคารฯถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีกรอบการดำเนินงานในด้านดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน และถือเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบธนาคารออมสิน ซึ่งกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของธนาคารออมสินทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
สำหรับการปฏิบัติงานเพื่อสร้างความโปร่งใสของธนาคารออมสิน เกิดจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจำนวน 55 แห่ง นับตั้งแต่ปี 2557 เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยสนับสนุนและดำเนินการให้รัฐวิสาหกิจ มีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยธนาคารออมสินได้เข้าร่วมประเมินผลตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินมีคะแนน ITA อยู่ที่ 95.79 จาก 87.24 เมื่อปี 2557 เป็นอันดับที่ 3 จากรัฐวิสาหกิจ 54 แห่ง และเป็นอันดับที่ 6 จากหน่วยงานทั่วประเทศ 442 แห่ง
“ความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อยกระดับการปฏิบัติงานด้านการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน และมีการกำกับดูแลการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือในสายตาของนานาชาติ” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
ลด้าน นายวิทัย รัตนากร กรรมการและรักษาการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ กล่าวว่า ไอแบงก์ ตระหนักดีว่า ธนาคารออมสิน เป็นสถาบันการเงินของรัฐขนาดใหญ่ เป็นผู้นำด้านการกำกับการปฏิบัติงานที่ดี ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในวันนี้ที่ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารออมสิน โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาการดำเนินงานในด้านการกำกับการปฏิบัติงาน ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)
ลทั้งนี้การดำเนินการทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การกำกับการปฏิบัติงาน การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ล้วนแต่เป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานที่สถาบันการเงินพึงต้องมีการพัฒนาและยกระดับอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เท่าทันต่อสภาพแวดล้อมในอุตสาหกรรมการเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงให้เป็นไปตามมาตรฐานการปฎิบัติในระดับนานาชาติอันเป็นการสร้างความมั่นใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมตลอดถึงหน่วยงานทางการว่าไอแบงก์เป็นสถาบันการเงินที่ให้ความสำคัญต่อความโปร่งใส ภายใต้นโยบายที่คำนึงถึงความรับผิดชอบสูงสุดต่อทุกภาคส่วน
ล“ความร่วมมือในครั้งนี้ ระหว่าง ธนาคารออมสินและไอแบงก์ เป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างสถาบันการเงินภาครัฐ เพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและความโปร่งใสสูงสุดต่อการให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง” นายวิทัย กล่าวทิ้งท้าย