วันนี้ (26 มิถุนายน 2562) ณ หอประชุมเพชรรัตน ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ร่วมกัน ระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์เอเอสแอล จำกัด และ ธนาคารออมสิน โดยมี นายชาญชัย กุลถาวรากร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเอสแอล จำกัด และ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมลงนาม เพื่อความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ และร่วมกันให้บริการดูแลลูกค้าทั้งในด้านหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกกรูปแบบ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกบน Platform ที่เชื่อมต่อกันระหว่างธนาคารออมสินและบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้กำหนดแผนการลงทุนปี 2561-2562 (Strategic Investment) เน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสสร้างผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม และไม่เป็นการแข่งขันกับธุรกิจของธนาคาร โดยได้พิจารณาถือหุ้นสัดส่วนที่เหมาะสมในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนเพิ่มในการลงทุน (Synergy) เป็นการพัฒนาธุรกิจร่วมกันในระยะยาว รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้น และเพิ่มช่องทางในการให้บริการแก่ลูกค้า ธนาคารฯ จึงได้ลงทุนถือหุ้นใน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด หรือ ASL ในสัดส่วน 25% ส่งผลให้ธนาคารออมสินสามารถร่วมกำหนดนโยบายในการดำเนินธุรกิจของ ASL ให้สอดคล้องกับทิศทางของธนาคารออมสินได้ในอนาคต โดยได้จัดทำแผนดำเนินธุรกิจร่วมกันตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือ “การดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ร่วมกัน”
“ปี 2562 ธนาคารออมสินมียุทธศาสตร์การพัฒนาและยกระดับสู่การเป็น Digital Banking ซึ่งมีแผนสร้างและพัฒนา New Business Model ร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล ดังนั้นการลงทุนและร่วมมือกับ ASL จะทำให้สามารถนำระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของ ASL มาผนวกกับ Digital Platform ของธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนการเป็น Digital Banking ได้ในอนาคต” นายชาติชาย กล่าว
สำหรับ MOU ฉบับดังกล่าว ได้กำหนดขอบเขตความร่วมมือ โดยธนาคารฯ และ ASL จะร่วมกันศึกษาแนวทาง และความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจ เพิ่มช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่าน Platform ของธนาคาร เพื่อให้ลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้ารายใหญ่ และลูกค้าสถาบัน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าของทั้งธนาคารออมสินและ ASL นั้น เป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน (ASL เน้นลูกค้ากลุ่ม Medium to Low) จึงทำให้ธนาคารฯ สามารถขยายผลิตภัณฑ์ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ไปยังกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้ โดยจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์ประเภทเงินฝาก สลากออมสิน และกองทุนรวมที่ประชาชนคุ้นเคย โดยนำเสนอผ่านช่องทาง Online ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดทุนของนักลงทุนรายย่อย อันจะเป็นส่วนช่วยพัฒนาการเติบโตของตลาดทุนไทยต่อไป ขณะที่พนักงานของทั้ง 2 หน่วยงานจะได้รับการพัฒนาจากการอบรมความรู้ในธุรกิจ โดยธนาคารออมสินกำหนดเป้าหมาย Banker to Broker ให้พนักงานธนาคารออมสินสามารถนำเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนในหลักทรัพย์ให้ลูกค้าได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมอีกช่องทางหนึ่ง
นายชาญชัย กุลถาวรากร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภท ก ซึ่งบริษัทสามารถที่จะขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้ครบทุกผลิตภัณฑ์ โดยเป้าหมายของบริษัทนั้น มุ่งเน้นการบริการซื้อขายหลักทรัพย์บนออนไลน์
ปัจจุบันบริษัทมีธนาคารออมสินเข้ามาถือหุ้นร้อยละ 25 ซึ่งจากการเข้าร่วมทุนในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนออนไลน์ร่วมกัน ทั้งด้านการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นของทั้งฝ่าย รวมถึงฟังก์ชั่นในการบริการด้านหลักทรัพย์ต่างๆ ที่ครบวงจร ซึ่งในอนาคตลูกค้าที่มาใช้บริการผ่านธนาคารออมสินสามารถเข้าถึงธุรกรรมหลักทรัพย์บนแอปพลิเคชั่นของธนาคารฯ ได้ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเปิดบัญชีออนไลน์ รวมทั้งเครื่องมือในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ไว้ในที่เดียวกันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ เป็นการส่งเสริมองค์ความรู้ และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งการพัฒนาบริการที่มีประสิทธิภาพ และบริการทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้นจากการสนับสนุนทางการเงินของธนาคารออมสิน เช่น ธุรกรรมสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ โดยการขยายธุรกรรมทั้งหมดจะอยู่บนระบบออนไลน์ เพื่อจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสในการเข้าถึงช่องทางการทำธุรกรรมหลักทรัพย์จากระบบที่ได้พัฒนาขึ้น
อีกทั้ง การขยายตัวผ่านธนาคารออมสินเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเนื่องจาก ปัจจุบันธนาคารออมสินมีสาขาถึง 1,116 สาขา และมีพนักงานที่มีใบอนุญาตมากกว่า 1,500 คน ซึ่งหากขยายตัวผ่านทางสาขาของธนาคาร จะทำให้บริษัทนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2015 ที่เอเอสแอลเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ตัวเลขของนักลงทุนที่ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 6 แสนบัญชี สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่ซื้อขายผ่านบนออนไลน์เติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ด้วยความร่วมมือกับธนาคารออมสินจะช่วยให้เป้าหมายมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และถือเป็นช่องทางที่ผู้ลงทุนที่มีความต้องการจะใช้บริการทางการเงินแบบครบวงจรผ่านระบบออนไลน์ที่ดีที่สุด.