ใครที่ชื่นชอบกล้องแนว action camera พลาดไม่ได้ เมื่อ GoPro เปิดตัวกล้อง 2 รุ่นใหม่ ในชื่อ GoPro Hero 5 Black และ GoPro Hero 5 Session ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้
ทั้ง GoPro Hero 5 Black และ Hero 5 Session จะมีความคล้ายกันในเรื่องการกันน้ำได้ลึกถึง 10 เมตร แบบไม่ต้องเคสรองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 4K / 30 fps, สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ ช่วงเริ่มแรกรองรับ 7 ภาษา ความเหมือนกันของ GoPro 5 ทั้งสองรุ่น ยังมาพร้อมกับ GoPro Plus บริการฝากภาพบนคลาวด์ จัดเก็บภาพจากกล้องผ่าน Wi-Fi อัตโนมัติเมื่อชาร์จแบตเตอรี่ สามารถเชื่อมต่อกับแอพ Quik จาก GoPro สำหรับแก้ไข ตกแต่งรูปภาพ หรือตัดต่อวีดีโอสั้น ใช้ได้ทั้งบน iPhone และ Android รวมถึงคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ GoPro ยังเปิดตัว Quick Key แอพที่ช่วยโอนภาพถ่ายจากล้องมายังสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
GoPro Hero 5 Black
มาถึงเรื่องที่แตกต่างกันบ้าง GoPro Hero 5 Black จะมีหน้าจอ LCD ทัชสกรีน ขนาด 2 นิ้ว ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว กล้องมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ มีระบบกันสั่นไหว (GoPro เรียกว่า Professional-grade electronic image stabilization), มี GPS ในตัว และบันทึกเสียงสเตอริโอด้วยไมโครโฟน built-in ถึง 3 ตัว
GoPro Hero 5 Session
ส่วน GoPro Hero 5 Session จะมีขนาดเล็กกว่า Hero 5 Black มาพร้อมกล้องความละเอียด 10 ล้านพิกเซล หน้าจอไม่รองรับทัชสกรีน, ไม่มี GPS และไม่รองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW
GoPro Hero 5 Black เปิดราคาอยู่ที่ 399 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นไทยประมาณ 14,400 บาท
GoPro Hero 5 Session เปิดราคาอยู่ที่ 299.99 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นไทยประมาณ 10,800 บาท
เริ่มขาย 2 ตุลาคม 2016
อ้างอิงจาก pocket-lint
