จากคำสั่งคุมเข้มคนเข้าเมืองและการประกาศแบน 7 ประเทศมุสลิมของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนและสร้างความไม่พอใจต่อหลายฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานจากในบริษัทไอทีจำนวนมากที่มีเชื้อสายมุสลิม 1 ใน 7 ประเทศที่มีการประกาศแบนได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
ล่าสุดพนักงานของ Google กว่า 2,000 คน ได้ออกมารวมตัวประท้วง ณ สำนักงานใหญ่ Google, Mountain View, California แสดงจุดยืนไม่สนับสนุนนโยบายคุมเข้มคนเข้าเมืองและการประกาศแบน 7 ประเทศมุสลิม พร้อมติดข้อความแฮชแท็กบนทวิตเตอร์ด้วยว่า #GooglersUnite ที่สำคัญในการรวมตัวประท้วงครั้งนี้ยังมีสองผู้บริหารคนสำคัญอย่าง Sundar Pichai ซีอีโอ และ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เข้าร่วมด้วย
Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google กล่าวกับ Forbes ว่า เขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นการรวมพลังในวันนี้ และเป็นการแสดงออกให้โลกรู้ว่ามีประชาชนที่ยืนยัดต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
นอกจากนี้หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบายแบน 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เข้าประเทศ ทาง Sundar Pichai ซีอีโอ Google ได้เร่งตั้งกองทุนกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบ โดยเป็นการกระจายเม็ดเงินไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการดูแลผู้อพยพ พร้อมเรียกพนักงานที่อยู่ในต่างประเทศเดินทางกลับเข้าสหรัฐฯ ทันที และจากนโยบายดังกล่าว Google รายงานว่ามีพนักงานที่ได้รับกระทบจากนโยบายดังกล่าวจำนวน 187 คน
จากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นไม่เพียงส่งผลกระทบต่อบริษัทไอทีในซิลิคอนวัลเลย์เท่านั้น แต่ยังสะเทือนไปถึงบริษัทและอุตสาหกรรมต่างๆ ในสหรัฐฯ จำนวนมาก และยิ่งเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ที่มา CNET