หากใครที่กำลังมองหาเครื่องปริ้นหากต้องการมองหาเครื่องพิมพ์หรือเครื่องปริ้นเลเซอร์สี ที่มีราคาไม่แพงมาก และมีฟีเจอร์ที่เพียงพอต่อการใช้งาน DocuPrint CP225w จาก Fuji Xerox ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งจะมีอะไรเด็ดๆบ้าง ลองไปดูกันครับ
เครื่องปริ้นเลเซอร์คุณภาพสูงแบบขนาดย่อม ที่มาพร้อมกับหัวพิมพ์อัจฉริยะ S-LED ที่ช่วยทำให้การพิมพ์มีความรวดเร็ว เงียบ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตัวนี้ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานพิมพ์อย่างเดียวจริงๆ จึงไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรยัดมาให้มากนัก แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เครื่องปริ้นในยุคปัจจุบันคือ ระบบปริ้นงานผ่านอินเทอร์เน็ต หรือไร้สายนั้นเอง
รายละเอียดสเปก Fuji Xerox DocuPrint CP225w
Model |
DocuPrint CP225w |
Special Feature |
Toner Save Mode, Manual Duplex, Print Cancel (from panel), N-up, Poster, Watermarks, Collate, Image Rotation (180degree), USB Direct Print, Secure Print |
|
Print Speed: 18ppm Color, 18ppm Monochrome First Page Out : 15.0 seconds Color, 12.5 seconds Monochrome Memory Standard/Maximum : 256MB Print Language or PDL : PCL5e, PCL6, PostScript® 3™ Compatible Duty Cycle : 20,000 pages / month Print Resolution (dpi) : 1200 x 2400 dpi (Fuji Xerox Imaging Technology) Image Processing : 525MHz |
Paper Handling | Auto 2-sided Printing (Duplex) : Manual Paper Tray : A4, B5, A5, Letter, Executive, Folio (215.9 mm x 330.2 mm), Legal, Envelope (Com-10/Monarch /DL /C5 ) Custom size width 76.2 to 215.9mm Length 127 to 355.6mm 60-163 gsm Paper Input Capability : 150 sheets Paper Output Capability : 100 sheets face-down Media Types Main Tray : Plain, Plain-thick, Recycled, Labels, Covers, Coated, Envelope Input Media Weight : 60-163gsm Engine Life : 30,000 pages or 5 years |
Network / Software | Connectivity : 10/100BaseT,USB2.0(Hi-speed), IEEE802.11b/g/n Compliant Standard : IEEE802.11b/g/n Security Protocol : WEP (64/128bits), WPA-PSK (TKIP,AES), WPA2-PSK (AES), WPA / WPA2-PSK Mixed Certifications : Mode Wi-Fi, WPA2.0 (Personal) Wi-Fi Protected Setup (WPS)2.0 : Push Button Configuration (PBC), Personal Identification Number (PIN) Mobile Print Features: AirPrint, Google Cloud Print |
Operation | Operating: Windows Server 2003 (32 bit/ 64bit), Vista (32bit/ 64bit), Server 2008 (32bit/64bit), Server 2008R2 (64bit), Win7 (32bit/64bit), Win8(32bit/64bit),Win8.1(32bit/64bit), Server 2012(64bit). Mac OS X Version 10.5.x, 10.6.x 10.7.x ,10.8.x and 10.9.x |
Others | Usage Environment Temperature/ Humidity : 10º to 32º C, 10% to 85%RH Electrical Power : AC220–240V±10%, 5A or less; both50/60 Hz or AC110–127±10%, 7A or less; both50/60 Hz Power consumption: Maximum: 790W(115V)/810(230V) W Deep Sleep : 3W or less Standby : 42W or less During continuous printing : 340W(115V)/320W(230V) |
Dimension | 397 x 398 x 246 mm |
Weight | 12.4 kg |
หน้าตาโดยรวม
ตัวเครื่องมีลักษณะเรียบง่าย มีสีขาวเกือบทั้งตัว ด้านบนเป็นสีดำอ่อน ส่วนรูปร่างไม่ใหญ่มาก ขนาดอยู่ที่ 397x398x246 mm เท่านั้น ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 12 kg ซึ่งพาขนย้ายไปไหนมาไหนได้ง่ายอยู่ เจ้า CP225w จะตัดฟีเจอร์ การสแกน การส่งแฟกซ์ ออกไป จึงทำให้ดูกะทัดรัดมากขึ้น ซึ่งจะมีเพียงถาดใส่แผ่นกระดาษด้านล่าง และ ช่องปริ้นงานอยู่ด้านบน
คุณสมบัติ
ส่วนที่เป็นช่องใส่กระดาษนั้น สามารถใส่กระดาษได้ถึง 150 แผ่น ซึ่งช่องใส่ลักษณะนี้ ทำให้หมดปัญหาเรื่องกระดาษไม่ตรง เบี้ยว หรือ Jam ไปเลย จากการที่ทดลองปริ้นหลายๆแผ่น ก็ไปเกิดปัญหาติดขัดแต่อย่างใด
ตอนช่วงที่ปริ้นออกมา ก็มีความรวดเร็วมาก และค่อนข้างเงียบเลยทีเดียว ตรงตามที่โฆษณาไว้เลย ส่วนงานที่
ปริ้นก็มีความคมชัดอยู่ไม่น้อย ด้วยหัวปริ้นสีแบบเลเซอร์ ที่มีความละเอียดของเม็ดสีกว่า 1200×2400 dpi และ
พร้อมหัวพิมพ์อัจฉริยะ S-LED ที่ช่วยคุมงานได้ดีเยี่ยม
แผงควบคุม มีการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และบวกกับตัว CP225w ที่ตัดฟีเจอร์สแกน-ส่งแฟกซ์ จึงทำให้เหลือแต่หน้าเมนู กับปุ่มสำหรับควบงานปริ้นอย่างเดียว โดยผ่านหน้าจอโมโนโครมขนาดเพียง 1.5 นิ้วเท่านั้น ซึ่งก็ค่อนข้างดูลำบอกเล็กน้อย เพราะมันแสดงผลตัวอักษรได้แค่ 2 บรรทัดเท่านั้น เวลากดหาเมนูก็จะต้องกดซ้ำอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่ลำบากกว่าที่คิด เพราะมันมีเมนูไม่กี่แบบ จะมีแค่ช่วงใส่รหัส Wi-Fi เท่านั้นที่จะต้องรัวปุ่มกดกันหน่อย
ตรงไฟบอกสถานะ หากมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi อยู่ มันก็จะขึ้นไฟตรงสัญลักษณ์ให้เห็น ตอนเครื่องอยู่ในสถานะพร้อมทำงาน ก็จะมีไฟสีเขียวเป็นเส้นเล็กๆให้เห็นเช่นกัน ส่วนปุ่มกดทั้งหมด หลักๆที่ใช้บ่อยๆคือ ปุ่มลูกศรสี่ทิศกับปุ่มลูกศรย้อนกลับ และปุ่ม OK ที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น นอกนั้นแทบไม่ได้แตะ
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ตัว CP225w จะมีฟีเจอร์สั่งปริ้นผ่าน AirPrint , Google Cloud Print ได้ด้วย และเมื่อเราเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่าน Router ของเราเองแล้ว ต่อไป คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเน็ตเวิร์กเดียวกัน จะสามารถสั่งงานตัว CP225w ผ่านอินเทอร์เน็ตได้เลย ซึ่งช่วยลดการใช้สายเชื่อมต่อที่วุ่นวายไปได้มากเลยทีเดียว แต่ถ้าชอบแบบมีสาย ด้านหลังก็จะมีสาย Lan และ สาย USB สำหรับต่อเข้าคอมฯโดยตรงเช่นกัน
การระบายความร้อน
แน่นอนว่า การปริ้นแบบเลเซอร์ย่อมต้องใช้การระบายความร้อนของพัดลมที่ทรงประสิทธิภาพ ในด้านหลังนี้จะช่องระบายความร้อนถึง 4 จุดรอบด้าน ซึ่งในขณะที่ปริ้นอยู๋นั้น ความร้อนที่ออกมานั้น ถือว่าพอสมควรเลย ซึ่งนั้นหมายความว่า ประสิทธิในการระบายความร้อนจัดว่าโอเคเลยทีเดียว
ปิดท้ายกันที่ ลักษณะตลับหมึกที่ใช้จะเป็นผงหมึกพิมพ์รุ่นใหม่ EA ECO ที่มีจุดเด่นในด้านการประหยัดพลังงานเป็นหลัก สามารถดึงสลักที่ล๊อคตลับหมึกออกมาก็เปลี่ยนอันใหม่ใส่เข้าไปได้ทันที และมีตัวตลับก็มีขนาดที่เล็ก เนื่องจากมีแต่ผงหมึกพิมพ์อยู่ภายในเท่านั้น จึงทำให้ตัวตลับเสียยากแน่นอน เพราะมันไม่มีพวกกลไกอะไรที่เวลาเสียแล้ว ต้องซ่อมใหม่หมดนั้นเอง
สรุป จากการใช้งานเจ้า DocuPrint CP225w จาก Fuji Xerox มาพักหนึ่ง อย่างแรกที่ควรพูดถึงคือ ความเร็วในการพิมพ์ที่รวดเร็วพอสมควร ซึ่งถ้าเป็นภาพขาวดำ ความเร็วก็แทบจะพอๆกับเครื่องถ่ายเอกสารเลย ส่วนภาพสีก็ขึ้นอยู่ความละเอียดของสีที่ใช้ในภาพ แต่ก็ยังถือว่าเร็วอยู่ และด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์อัจฉริยะอย่าง S-LED ที่ช่วยทำให้การพิมพ์เป็นไปอย่างราบรื่น หมดปัญหาเรื่องกระดาษ Jam ไปได้เลย ส่วนฟีเจอร์ Wi-Fi ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสั่งใช้งานเป็นอย่างมาก ลดความเกะกะของการต่อสาย กับช่วยให้สามารถใช้พร้อมๆกันหลายๆคนได้สบายๆ และด้วย CP225w มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย ทำให้การตั้งค่าไม่ยุ่งยากอะไร สุดท้ายเรื่องการออกแบบที่เรียบๆ ดูสมส่วน และสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ไม่ยาก ตั้งที่ไหนก็ดูกลมกลืนไปกับสถานที่เลย สนนราคาที่ประมาณ 7,980 บาท ก็นับว่าไม่แพงเลยกับประสิทธิภาพของมัน จึงถือว่าเป็นเครื่องปริ้นเลเซอร์สีที่เหมาะสำหรับคนใช้งานทั่วไป ในระดับเริ่มต้น