ปกติเรามักจะได้ยินคำแนะนำเกี่ยวกับ Ransomware หรือ ‘ไวรัสเรียกค่าไถ’ อยู่เสมอว่า หากโดนเล่นงานเมื่อไร อย่าไปจ่ายเงินให้เด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการถูกเบี้ยวไม่ปลดล็อคไฟล์ให้ตามสัญญา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้มีรายงานว่า ทางสภาเมืองแห่งหนึ่งในรัฐ Florida ได้มีมติตกลงจ่ายค่าไถแก่ผู้พัฒนา Ransomware โดยเป็นเงินสูงถึง 600,000 เหรียญฯ หรือประมาณ 18 ล้านบาท !!
The Palm Beach Post หรือสื่อท้องถิ่นของรัฐ Florida รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา พบเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในตอนใต้ของรัฐ Florida แถว West Palm Beach ถูกไวรัสเรียกค่าไถ่เล่นงาน โดยสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่กรมตำรวจนายหนึ่ง ได้เผลอเปิดอีเมล์ที่แนบไฟล์ Ransomware มาด้วย ส่งผลให้ระบบไอทีของเมืองล้มเหลวทันที ทั้งเว็บไซต์ของเมือง ระบบการเงิน กระทั้งระบบสายด่วน 911 (เบอร์เรียกตำรวจของสหรัฐฯ) ถูกบล็อกไปด้วย
จากนั้นวันที่ 3 มิ.ย ทางเจ้าหน้าที่ของเมืองได้ควักเงิน 941,000 เหรียญฯ หรือประมาณ 29 ล้านบาท ซื้อคอมฯ ตั้งโต๊ะใหม่ 310 เครื่อง และโน้ตบุ๊กอีก 90 เครื่อง เพื่อสร้างระบบไอทีใหม่ยกชุดกันเลย อย่างไรก็ตาม ไฟล์สำคัญของเมืองยังถูกไวรัสเรียกค่าไถ่ล็อกเอาไว้ และไม่ได้มีการสำรองไฟล์ก่อนหน้าด้วย ทำให้ทางสภาเมืองได้มีมติตกลงจ่ายเงินผ่าน Bitcoin เป็นจำนวน 65 Bitcoin หรือประมาณ 592,000 เหรียญฯ ให้กับผู้พัฒนา Ransomware อย่างไม่มีทางเลือก
เหตุการณ์นี้อาจเรียกได้ว่า “จนปัญญา” คือทางสภาเมืองในตอนนั้นคงมืด 8 ด้านแล้วจริง ๆ เพราะไฟล์ที่โดนจับเรียกค่าไถ่เป็นถึงไฟล์สำคัญของระบบเมือง แถมเลวร้ายถึงขนาดโทรเบอร์ 911 ไม่ได้ วินาทีนั้นคงต้องรีบแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน จึงยอมจ่ายเงินตามที่คนร้ายต้องการ ซึ่งในข่าวไม่ได้รายงานว่า ทางคนร้ายที่พัฒนา Ransomware ได้ยอมปลดล็อคไฟล์ตามสัญญาหรือไม่…
บทเรียนจากข่าวนี้ ทำให้เราได้เห็นเลยว่า ความเลวร้ายของ Ransomware หรือ ไวรัสเรียกค่าไถ มันน่ากลัวขนาดไหน สิ่งเดียวที่ควรจำไว้ให้มั่นเลยคือ อย่าทำให้เครื่องติด Ransomware เด็ดขาด ส่วนวิธีป้องกัน ลองย้อนดูบทความ 7 วิธีรับมือและบรรเทา Ransomware มัลแวร์เรียกค่าไถ่ นี้ได้ครับ
ที่มา : Techspot