กระแสของเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech (Financial Technology) ที่มาแรงทั่วโลก เริ่มกดดันให้กลุ่มธนาคารออกมารักษาสถานะทางการครอบครองและกุมอำนาจทางการเงินของตนเองกันอย่างเต็มที่ โดยหลังจากสมาร์ตโฟนและอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่กระทุ้งให้เกิดระบบธุรกรรมทางการเงินในกลุ่มนอนแบงก์ และ Startup เกิดใหม่เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของธนาคารกันอย่างครึกโครม จนน่าเป็นห่วงว่าหากธนาคารไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีจนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ล้ำสมัยมาตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลได้ อนาคตเราคงได้เห็นธนาคารรายใหญ่ล้มหายและรายเล็กเติบใหญ่กันบ้าง
สอดคล้องกับความเห็นของ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย ที่กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังเปิดบริษัทลูกขึ้นมาในชื่อ กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG ซึ่งรับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายในอนาคต จึงต้องคิดให้ออก คิดให้ทะลุว่าจะทำอย่างไรถึงจะสนองความต้องการมนุษย์ในโลกอนาคต โดยปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีหมายเลขมือถือกว่า 80 ล้านเลขหมาย มากกว่าจำนวนประชากร และใน 80 กว่าล้านเลขหมายนี้เป็นมือถือแบบ Data Function ประมาณ 30 ล้านเลขหมาย พฤติกรรมของคนเริ่มใช้หูฟังและใช้นิ้วปัดหน้าจอสมาร์ตโฟนไปพร้อมกันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนั่นคือลักษณะของมนุษย์ที่ทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน โดยอนาคตวิถีชีวิตของมนุษย์จะอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตทางการเงินและอื่น ๆ ที่รวมกันเป็นระบบเศรษฐกิจจะต้องมีวิธีการที่แตกต่างจากเดิม
ขณะที่นโยบายรัฐบาลต้องการให้เกิด e-Platform, e-Payment ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายที่รัฐบาลโยนโจทย์มาให้รัฐกับเอกชนได้ร่วมมือกันในการหาทางออก นำมาสู่ความมีคุณภาพและประสิทธิภาพของการทำงานของคน หลีกเลี่ยงการต้องใช้เงินสด เหรียญ ซึ่งพูดง่ายแต่ไม่ใช่ทำกันได้ง่าย ๆ เพราะเงินสดเป็นสิ่งที่เราใช้มาโดยตลอด คนยังติดใช้เหรียญและธนบัตรต่าง ๆ แต่ถ้าสามารถเลิกใช้ได้จริงก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยกันได้ทุกฝ่าย ทั้งยังทำธุรกรรมได้เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า ซึ่งนับเป็นสัญญาณความท้าทายที่ผ่านมาทางกระทรวงการคลัง ผ่านทางธนาคารแห่งประเทศไทย มาที่สมาคมธนาคารไทย ว่าต้องดันประเทศไทยให้ไปสู่โลกธุรกรรมทางการเงินทุกด้าน หนีจากธนบัตรกับเหรียญให้มากที่สุด เพื่อความมีประสิทธิภาพและคุณภาพมากขึ้นต่อชีวิตโดยรวมของทุกคนและของเศรษฐกิจของประเทศด้วย
“เราพยายามเดินไปในทิศทางที่เป็นอนาคตบนโลกของการเงิน อนาคตของวิธีการทำงานสำหรับคนยุคใหม่ และอนาคตเศรษฐกิจของประเทศไทย KBTG รวมบริษัทต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อคิดหาอะไรที่วันนี้ยังไม่เกิด หาให้ได้ก่อนที่จะอุ้ยอ้ายเกินไปและทำงานไม่ได้”
นี่คือโจทย์ที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ หารูปแบบใหม่ ฐานใหม่ ทิ้งวิธีการแบบเดิม ๆ วิธีคิดแบบเดิม ๆ หาวิธีการแบบใหม่ ๆ ที่จะทำให้เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เกิดธุรกรรมที่อยู่บนฐานที่ทันสมัย รวดเร็ว ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุนได้ และเพื่อความเจริญก้าวหน้าของระบบเศรษฐกิจโดยรวม
และเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain ก็เป็นเทคโนโลยีที่มีคนพูดถึงมากว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนโลกเหมือนที่อินเทอร์เน็ตเปลี่ยนโลกในยุค 1990 ซึ่งมีการเปรียบเทียบว่า Blockchain ตอนนี้สภาพเหมือนอินเทอร์เน็ตตอนเริ่มต้น ซึ่งภาคการเงินจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ ต้องมีคนศึกษาเรื่องนี้ เพื่อเป็นการลองทำดูว่า เอา Blockchain มาใช้กับเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างไร แม้ว่าวันนี้อาจจะยังไม่มีการประยุกต์ใช้ในลักษณะที่เห็นเป็นรูปธรรมก็ตาม
บทความจากนิตยสาร Eleader ฉบับเดือน พฤษภาคม 2559
สามารถนับ bitcoin เป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ blockchain ได้รึเปล่าครับ