ในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันปัญหาในเรื่องของความปลอดภัยมีอยู่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบการเงิน การลงทุนและเรื่องของสินค้าคงคลัง พนักงานและบัตรเครดิต การถูกแฮกอีเมล์อาจดูเป็นเรื่องเรื่องเล็กน้อย แต่ FBI ของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทางอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IC3) ได้แจ้งเตือนสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับธุรกิจผ่านทางอีเมล์ ที่ไม่ใช่แค่ความเดือดร้อนที่ทำให้ใช้งานไม่สะดวกเพียงอย่างเดียว แต่กลับถูกแพร่กระจายออกไปทั่วโลกอีกด้วย
ในเวลากว่าหนึ่งปี IC3 ได้ทำการติดตามผู้ที่ถูกคุกคามกว่า 2000 ราย ที่เกิดการสูญเสียมากกว่า 215 ล้านดอลลาร์ ด้วยการหลอกลวงที่เรียกว่า “man-in-the-mail” โดยเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจในกลุ่มของซัพพลายเออร์ต่างประเทศและบริษัทที่ใช้การโอนเงินผ่านทางธนาคาร ซึ่งเป็นการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต มีด้วยกันหลายรูปแบบ โดยที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นการใช้เงินเป็นตัวล่อ (money mules) โดยที่ IC# ได้ติดตามจะเป็นการทุจริตด้วยการหาเหยื่อด้วยการทำหน้าที่เป็นคนกลางในการโอนเงิน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมาย โดยเฉพาะที่มีการสั่งซื้อในปริมาณมากๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ อาหารและยา หลายครั้งที่การทุจริตส่งผลให้เกิดการสูญเสียทั้งเงินและสินค้าจำนวนมาก แต่ผู้คนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าตกเป็นเหยื่อ
นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวัง 3 เรื่องหลักด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การร้องขอให้เปลี่ยนบัญชีหรือแอคเคาต์ ส่วนใหญ่จะมาทางอีเมล์ลวง แต่ผู้ใช้สามารถติดต่อผ่านทางโทรศัพท์หรือแฟกซ์ได้โดยตรงหรือแจ้งบัญชีอีเมล์เป็นปัญหาหรือว่าถูกแฮก และอีเมลืพนักงานถูกคุกคาม รวมถึงการร้องขอให้ชำระเงินไปยังบัญชีปลอม สิ่งที่ต่างจากอีเมล์ฟิชชิ่ง ที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะเป็นการให้ชำระเงินแบบที่ยากจะตรวจสอบ โดยเมื่อเงินเข้าไปสู่ระบบมักจะถูกแยกไปยังธนาคารต่างประเทศและกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเอเซียหรือที่ต่างๆ ภายในโลก ดังนั้นการหลักเลี่ยงบริการอีเมล์ที่ไม่น่าไว้วางใจและการตรวจสอบข้อมูลบริษัท ผ่านโลกโซเชียลและระวังเรื่องของการทำธุรกรรมที่้เร่งด่วน ขาดการตรวจสอบที่เป็นระบบ
ที่มา : msn
