FBI ประสบความสำเร็จในการปลดล็อค iPhone 5c อุปกรณ์สื่อสารของผู้ต้องหาในเหตุการณ์กราดยิงใน San Bernardino เขตของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2015 จนมีผู้เสียชีวิตถึง 14 ราย โดยวิธีการเข้าถึงข้อมูลไม่ได้เกิดจากความช่วยเหลือจาก Apple แต่อย่างใด
ความสำเร็จของ FBI ในการปลดล็อค iPhone 5c ครั้งนี้ เป็นการออกมาชี้แจงโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ นับเป็นการยุติข้อขัดแย้งกับ Apple ผู้พัฒนา iPhone ที่ยืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่ข้อทำตามข้อเรียกร้องของ FBI และ กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ Apple มีต่อผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม FBI และกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีการเปิดเผยถึงขั้นตอนหรือรายละเอียดของการปลดล็อค iPhone 5c ในครั้งนี้แต่อย่างใด
การประกาศถึงความสำเร็จในครั้งนี้ ย่อมมีคำถามตามมาแน่นอนว่าเมื่อมีการปลดล็อค iPhone ได้เองเช่นนี้ โดยไม่ต้องพึ่งพา Apple ผู้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ อาจนำไปสู่การเข้าถึงหรือดักฟังข้อมูลส่วนของผู้ใช้ตามที่รัฐบาลต้องการโดยที่ผู้ใช้ไม่มีทางรู้ตัวหรือไม่ ? หากเป็นเช่นนั้นนับว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลของ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ของซีไอเอ ที่เคยออกมาเปิดโปงว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ หรือ NSA ได้กระทำการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ดักฟังการสื่อสารของประชาชนในสหรัฐฯ โดยที่เจ้าตัวไม่มีทางรู้ตัวได้ นอกจากนี้ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ยังได้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องระหว่าง FBI และ Apple ว่าตัวเขาไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของ FBI ที่ไม่สามารถปลดล็อค iPhone 5c ของผู้ต้องหาได้
ทางฝั่ง Apple เมื่อได้เห็นประกาศจากกระทรวงยุติธรรมคงไม่สามารถอยู่เฉยได้ เนื่องจากมีผลกระทบไม่น้อยต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่า Apple จะยังคงพัฒนารูปแบบการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกค้าทั่วโลกอย่างดีที่สุดต่อไป ไม่แน่เหมือนกันว่าใน iOS 10 ที่กำลังจะมาถึงในงาน WWDC 2016 เราอาจได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ก็เป็นได้ครับ