หนึ่งในนโยบายของ Facebook ที่ได้รับการคัดค้านพอสมควร นั่นคือ การบังคับให้ผู้ใช้ “เปลี่ยนมาใช้ชื่อจริง” ห้ามตั้งชื่อด้วยนามแฝง เพื่อสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ให้มีความน่าเชื่อถือ และหากเกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าจะด้วยกรณีใด ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าบัญชีนั้นใครเป็นเจ้าของ แต่นโยบายดังกล่าวกลับถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ทำให้ Facebook จำเป็นต้องปรับนโยบายดังกล่าวใหม่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้งาน Facebook ทุกคน
จากนโยบายบังคับเปลี่ยนชื่อจริงของ Facebook ก่อให้เกิดเสียงคัดค้านจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน และผู้ใช้ Facebook จำนวนหนึ่ง ที่ระบุว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ Facebook ได้กำหนดนโยบายใหม่ เป็นการผ่อนปรนการใช้ชื่อจริง แต่ผู้ใช้ต้องระบุสาเหตุว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เปลี่ยนมาใช้ชื่อจริง แล้วทำไมถึงต้องใช้นามแฝง ขณะเดียวกันในนโยบายผ่อนปรนดังกล่าวยังมีตัวเลือกที่ให้ผู้ใช้ระบุสาเหตุว่า ที่ไม่ใช้ชื่อจริงเพราะอาจถูกคุกคามหรือข่มขู่, ไม่ต้องการให้มีการล่วงรู้ถึงรสนิยมทางเพศ, เนื่องจากเป็นชนกลุ่มน้อย หรือสาเหตุอื่นๆ ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้ Facebook สามารถตรวจสอบและเข้าใจสถานการณ์ของผู้ใช้ที่ไม่เปลี่ยนมาใช้ชื่อจริงได้
ด้วยนโยบายผ่อนปรนดังกล่าว จะเริ่มทดลองใช้งานในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกต่อไป
อ้างอิงจาก Fastcompany
