อย่างที่หลายคนพอทราบกันไปแล้วว่า Nokia 3, 5, และ 6 เป็นรุ่นบุกเบิกของ Nokia สำหรับการกลับเข้าสู่ตลาดมือถืออีกครั้ง ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android อย่างเต็มรูปแบบ และแน่นอนว่าย่อมมีคำถามตามมามากมายจากทั้งคนที่เคยใช้ Nokia มาก่อน และผู้ที่สนใจแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งในโอกาสนี้ทาง aripfan มีโอกาสเข้าร่วมพูดคุยกับ Pekka Rantala ตำแหน่ง Chief Market Officer ผู้บริหารจาก HMD Global บริษัทแม่ของ Nokia ในประเทศฟินแลนด์ ที่เดินทางมากับผู้บริหารอีกหลายท่านเพื่อให้ข้อมูลและตอกย้ำการทำตลาดของ Nokia ในประเทศไทย
คุณ Pekka เกริ่นให้ฟังเรื่องการทำงานของเขาว่า เดิมทีเขาเองเคยทำงานกับ Nokia มาก่อนกว่า 20 ปี ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ Rovio บริษัทผู้พัฒนาเกม Angry Birds ก่อนจะย้ายกลับเข้ามาทำงานที่ HMD Global บ้านหลังใหม่ของ Nokia ซึ่งเขายอมรับว่ามีความผูกพันธ์กับแบรนด์ Nokia มาก ดังนั้นเขาจึงมีความตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะทำให้ชื่อของ Nokia กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะเห็นได้จากการเปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2017 มีการเปิดตัว Nokia 3, 5 และ 6 โดยหลังเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือนก็เริ่มทยอยวางจำหน่ายใน 120 ประเทศทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการผลิตที่ Nokia ได้ร่วมมือกับโรงงานผลิตชั้นนำอย่าง Foxconn
เป้าหมายของ Nokia ในครั้งนี้ทางคุณ Pekka ย้ำว่าต้องการให้ Nokia เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับทุกคน มีหลายระดับราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันจนถึงเกือบหลักหมื่น นอกจากสเปกที่ดีแล้ว ทุกคนที่ใช้ Nokia ต้องสัมผัสได้ว่ามันใช้ง่าย
สำหรับในเรื่องข่าวต่างๆ ที่กระจายอยู่ตามโลกออนไลน์ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Nokia และการร่วมมือกับ Zeiss ในการผลิตกล้องสมาร์ทโฟนให้กับ Nokia ทางคุณ Pekka ยังไม่มีการเปิดเผยหรือให้คำตอบใดๆ เพียงแต่ตอบสั้นๆ ว่าเร็วๆ นี้ให้รอติดตาม ในส่วนของแท็บเล็ตทาง Nokia มี license ในการพัฒนาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอมุ่งมั่นกับตลาดสมาร์ทโฟนเป็นหลักก่อน
คำถามที่หลายคนสงสัยว่าทำไม Nokia ถึงเลือกใช้ Android แบบเพียวๆ โดยไม่มี User Interface มาครอบทับ คุณ Pekka ให้เหตุผลว่าจากความร่วมมือกับ Google เห็นได้ชัดว่าระบบปฏิบัติการ Android มีพัฒนาที่ก้าวหน้าและดีขึ้นอย่างมาก ฉะนั้นการเลือกใช้ Pure Android จึงเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ การันตีการอัพเดทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยและระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสด ใหม่ในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
เรื่องสำคัญด้านบริการหลังการขายในประเทศไทย ในตอนนี้หากลูกค้าซื้อสมาร์ทโฟน Nokia ที่ช้อปสาขาใด สามารถส่งซ่อมหรือรับบริการหลังการขายได้ที่นั่นเลย ขณะที่ศูนย์ซ่อมในช่วงแรกนี้มีความร่วมมือกับ SVOA และ IT CITY ส่วนช้อปของ Nokia เองเลยนั้นยังเป็นแผนการในอนาคต
รุ่น 3310 ที่หลายคนตั้งคำถามว่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่นั้น ทางทีมผู้บริหารจาก Nokia ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจาก 2G ไปเป็น 3G / 4G แต่ Nokia 3310 ที่เปิดตัวออกมาเมื่อ Mobile World Congress 2017 รองรับได้แค่ 2G เท่านั้น อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารเกริ่นกับผมในเรื่องนี้สั้นๆ ว่า คนตามต่างจังหวัดยังมีอีกจำนวนมากที่นิยมใช้มือถือแบบปุ่มกดอยู่ ฉะนั้นให้รอติดตามว่าความพิเศษของ Nokia ภายในปีนี้ครับ
สุดท้ายนี้กับสิ่งที่หลายคนกังวัลว่า Nokia จะจริงจังกับการกลับครั้งนี้แค่นี้ ทางคุณ Pekka และทีมผู้บริหารยืนยันว่า Nokia มีความชัดเจนทั้งการเข้ามาทำตลาดและการอัพเดทซอฟต์แวร์ แถมชื่อของ Nokia ที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นแรงกดดันที่ทำให้ Nokia คงทำอะไรเล่นๆ ไม่ได้แล้ว