ปัญหาใหญ่ของ รถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นข่าวดังไม่แพ้อุบัติเหตุจากระบบขับขี่อัตโนมัติ ในช่วงปีที่ผ่านมา ต้องยกให้กับเหตุการณ์ไฟไหม้ตัวรถ และสถานีชาร์จในจีน
ข้อมูลจากกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินจีน ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีรถยนต์ไฟฟ้าถูกเพลิงไหม้ไปแล้วกว่า 640 คัน เพิ่มขึ้น 32% เทียบเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้าเฉลี่ย 7 คันต่อวัน
ในขณะที่สื่อจีนรายงานอุบัติเหตุไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นถึง 86 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แม้แต่ค่ายใหญ่อย่างเทสล่าก็ไม่รอด หลังเจออุบัติเหตุ 5 ครั้ง ทั้งในรุ่น 3 และรุ่น S
สาเหตุหลักของอุบัติเหตุไฟรถยนต์ไฟฟ้า เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบทั้งไฟไหม้ขณะชาร์จ ไฟไหม้ขณะขับรถ ไฟไหม้ขณะจอดรถ และไฟไหม้หลังการชน ไม่รวมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่งระบุว่า 38.5% ของอุบัติเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นในช่วงเวลาปกติ และอีก 27.5% เกิดขึ้นในขณะชาร์จ
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) ให้ข้อมูลว่า ขณะที่ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC อย่างรวดเร็ว ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำมาก หากระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถลดอุณหภูมิของแบตเตอรี่ได้มัน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ได้
ดูเหมือนว่าสภาพอากาศเองก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่พบอุบัติเหตุไฟไหม้มากถึง 66% เนื่องจากความร้อนสูงเกินไป รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อย่างอุบัติเหตุขณะรถชน ที่ทำให้ก้อนแบตเตอรี่จะถูกบีบหรือเจาะ และเกิดลัดวงจรในที่สุด
ยังไม่รวมถึงการตกตะกอนของเบตเตอรี่ลิเธียม ที่พบในรถยนต์ไฟฟ้าต้นทุนต่ำ ซึ่งมักมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากมีการประจุไฟอย่างรวดเร็ว และมีความถี่ในการใช้งานสูง
การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และปัญหาด้านความปลอดภัย อาจต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน แต่ที่น่ากังวลคือเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าในจีนนั้น เกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติ ขณะที่ยอดขายยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และค่ายรถเองก็ต่างมีแผนที่จะยกเลิกผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันในเร็วๆ นี้
ที่มา : https://carnewschina.com/2022/04/18/chinese-electric-vehicles-are-on-fire/
#TechhubUpdate #EV