Epson สานต่อตลาดธุรกิจปี 2018 มั่นใจ Inkjet Printer เป็นมาตรฐานใหม่ทุกออฟฟิศ

Epson ประกาศทิศทางการทำตลาดประจำปี 2018 สานต่อตลาดธุรกิจ พร้อมโฟกัส 3 เรื่องหลัก ได้แก่ Inkjet Printer, Projector Laser Light Source และ Robot Business

มร.โตชิมิตสุ ทานากะ กรรมการผู้จัดการ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) บริษัท เอปสัน สิงคโปร์ จำกัด

มร.โตชิมิตสุ ทานากะ กรรมการผู้จัดการ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) บริษัท เอปสัน สิงคโปร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2017 Epson ได้มีการลงทุนด้าน R&D กว่า 5.4 หมื่นล้านเยน คิดเป็น 5.2% ของรายได้ประมาณการตลอดทั้งปี หรือเท่ากับทุกๆ วัน Epson ลงทุนทำ R&D วันละ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการสร้างนวัตกรรรม ที่ก่อให้เกิดเป็นจุดแข็งให้กับธุรกิจของ Epson

Epson 25 วิสัยทัศน์เพื่อสร้าง “Connected Age”

Epson ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “Epson 25” ตั้งเป้าให้ปี 2025 สามารถสร้าง “Connected Age” หรือยุคแห่งการเชื่อมโยงคน สิ่งของ และข้อมูลเข้าด้วยกัน ผ่าน 4 เทคโนโลยีของเอปสันที่ทรง ประสิทธิภาพ แม่นยำ และมีขนาดกระทัดรัด ได้แก่ พรินเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารทางภาพ อุปกรณ์สวมใส่ติดตัว และหุ่นยนต์ หวังช่วยผลักดันให้ธุรกิจเกิดการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 7%

Laser Printer ลด, Inkjet Printer เพิ่ม

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไปด้านการขาย ผลิตภัณฑ์ และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไปด้านการขาย ผลิตภัณฑ์ และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2017 ว่า สามารถคงระดับการเติบโตไว้ได้ตามเป้าที่ 7% โดยแบ่งเป็นตลาดประเทศไทย เอปสันทำรายได้เติบโต 6% และตลาดต่างประเทศภายใต้การดูแลของเอปสัน ประเทศไทย ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และปากีสถาน รวมมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 14%

ที่่น่าสนใจสำหรับจำนวนพริ้นเตอร์ทั้งหมดที่จำหน่ายกว่า 1.3 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา พบว่า 78% อยู่ในองค์กรธุรกิจ และ 22% ในตลาดคอนซูเมอร์ และปริมาณความต้องการใช้เลเซอร์พรินเตอร์ในตลาดธุรกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับยอดขาย ของอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เอปสันมั่นใจว่าภายใน 3 ปีนี้ Inkjet Printer จะขึ้นมาเป็น มาตรฐานการพิมพ์ใหม่ขององค์กรธุรกิจอย่างแน่นอน ด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 75% หรือ 3 ใน 4 ของพรินเตอร์ ทั้งหมดในตลาดองค์กรธุรกิจ

ทิศทางที่สดใสของเลเซอร์โปรเจคเตอร์

นายยรรยง กล่าวว่า ไฮไลท์ในปี 2018 ในส่วนของโปรเจคเตอร์ จะอยู่ที่เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่กำลังได้รับความนิยม ให้ทั้งความทนทานใช้งานได้นาน ถึง 20,000 ชั่วโมง ทั้งยังใช้ LCD Panel และ Phosphor Wheel แบบ Inorganic ที่ทนความร้อนสูงได้นาน ทำให้ สามารถเปิดใช้งานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง สำหรับในปีนี้ เอปสันมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 5 รุ่น ในทุกช่วงระดับความสว่างทั้ง 2,000 ลูเมนท์ สำหรับลูกค้าในธุรกิจร้านค้าขนาดเล็ก หรือใช้ตามบ้าน เครื่อง 4,000 – 6,000 ลูเมนท์ สำหรับสถาบันศึกษาและองค์กรธุรกิจ และ 6,000 ลูเมนท์ขึ้นไป เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่และต้องการภาพขนาดใหญ่ที่มีความสว่างและความละเอียดของภาพสูง เช่น ห้องจัดงานเลี้ยง หอประชุม โรงละคร พิพิธภัณฑ์ หรืองานอีเว้นท์เอาท์ดอร์

ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 พัฒนากลุ่มหุ่นยนต์แขนกลเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม

จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ทำให้หลายอุตสาหกรรมตื่นตัวในการนำ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในสายการผลิต เพื่อเพิ่มผลิตผล ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน และ พัฒนาศักยภาพการทำงาน มีการคาดการณ์ว่าภาคการผลิตของประเทศไทยราว 50% จะเริ่มใช้งานหุ่นยนต์และ ระบบอัตโนมัติภายใน 1 – 3 ปี ขณะที่ธุรกิจขนาดกลางจะพร้อมในอีก 3 – 5 ปี ซึ่งเอปสันได้เริ่มนำหุ่นยนต์แขนกล SCARA Robot และ 6-Axis Robot เข้ามาทำตลาด ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำสูง ใช้งานในพื้นที่จำกัดได้ดี เพราะมีขนาดกระทัดรัด ซึ่งเป้าหมายของเอปสันจะอยู่ที่กลุ่มโรงงานผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ยกระดับการให้บริการลูกค้า

นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปด้านการบริการและบริหารองค์กร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอปสันมีการพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า โดยล่าสุดได้มีการนำระบบ CRM แบบบูรณาการ หรือ Service CRM Integrate System ซึ่งประกอบด้วย Call Center Management ที่นอกจากจะตอบคำถาม ให้คำแนะนำ และรับเรื่องจากลูกค้าแล้ว ยังรวบรวมข้อมูลคำถามและความสนใจด้านต่างๆ ของลูกค้าไว้ เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นความรู้ใน ระบบ Integrated Knowledge Management โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังระบบต่างๆ เพื่อใช้กำหนดรูปแบบงานบริการด้านต่างๆ ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละประเภท ทั้งด้านการรับประกันและการเคลม การบริการ ซ่อมแซม รวมถึงการตรวจซ่อมหน้างาน

First Touch Point Services

เอปสันยังเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ณ จุดสัมผัสบริการจุดแรก (First Touch Point Services) โดยจะมีทีมช่างเทคนิคที่พร้อมจะเข้าระบบ Service CRM Mobile ทันที เพื่อทำการวิเคราะห์ วินิจฉัยอาการเครื่อง แบบเรียลไทม์จากระยะไกล ไปพร้อมกับการตรวจสอบเครื่องหน้างานของช่างจากศูนย์บริการ ทั้ง 147 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับการแก้ปัญหาที่ตรงจุด หลีกเลี่ยงการเสียค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน ประหยัดเวลา ทั้งยังสามารถทราบถึงการดูแลในลำดับต่อไป หรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต