เคยเชื่อไหมว่า ถ้าหากคนสร้าง AI มีอคติ AI ตัวนั้นมันก็จะอคติตามคนสร้าง..
นักวิจัยที่ King’s College ที่ลอนดอน ได้ทดสอบระบบ AI ในรถยนต์ที่ใช้สำหรับตรวจจับคนเดินเท้า จำนวน 8 ระบบ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ มันก็น่าเศร้า
ในการทดสอบได้ใช้รูปภาพทั้งหมด 8,000 ภาพ และพบว่า ความสามารถในการตรวจจับผู้ใหญ่นั้นสูงกว่าเด็กถึง 20% นั้นแปลว่า เด็กจะมีโอกาสถูกรถเหล่านี้ชนมากกว่า และยังยังพบอีกว่า ซอฟต์แวร์จะมีความแม่นยำมากขึ้น 7.5% สำหรับคนที่มีผิวสีแทน มากกว่าคนที่มีผิวสีเข้ม
นักวิจัยต้องข้อสังเกตว่า ปัญหาของโมเดล AI เหล่านี้ อาจเกิดขึ้นจากการที่พวกมันถูกฝึกฝนด้วยภาพที่มีคนผิวขาวมากกว่าคนผิวเข้ม เป็นผลให้โปรแกรมสามารถตรวจจับคนเดินถนนที่มีผิวสีแทนได้ง่ายขึ้น เพราะมันถูกฝึกมาแบบนั้น
นอกจากนี้ ระบบจะทำงานได้น้อยลงในสถานการณ์ที่มีคอนทราสต์ต่ำและความสว่างต่ำ ซึ่งอาจนำไปสู่สภาวะที่เป็นอันตรายมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้ระบบตรวจจับคนเดินถนนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในเวลากลางคืน นี่คือ อคติอย่างหนึ่งที่เริ่มต้นมาตั้งแต่การฝึก AI
ทำไมกันนะ….
เราต้องยอมรับว่า ปัจจุบันมี AI เกิดขึ้นมากมาย ออกแบบตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ และก็มี AI ที่ไม่มีความยุติธรรมเนื่องจากอัลกอริทึ่มที่ถูกเขียนไว้ เช่น AI รับสมัครงานที่เอื้อต่อผู้สมัครชายมากกว่า หรือ AI ที่มีความแม่นยำต่อคนผิวขาวมากกว่า …
แต่เรื่องของอุบัติเหตุนั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ มีข่าวบ่อยครั้งว่า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ชนคนระหว่างเดินข้ามถนนเสียชีวิต ฉะนั้น อย่าเพิ่งเชื่อใจระบบมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เรากลายเป็นผู้ต้องหาได้ ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าระบบไร้คนขับ 8 ระบบ ที่พวกนิจัยทดสอบ น่าจะรวมถึงแบรนด์ระดับโลกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายรถยนต์ในไทยที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยเช่นกันครับ
ที่มาข้อมูล
kcl
