VPN เป็นบริการเพิ่มความปลอดภัยให้กับกิจกรรมออนไลน์ของเราด้วยการเข้ารหัสระหว่างการรับส่งข้อมูลของเรากับใครก็ตามที่พยายามสอดแนมเรา
.
VPN เหมาะนั้นกับหมาะสำหรับเวลาที่เราออกไปข้างนอกโดยใช้เครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ใช่เครือข่ายในบ้าน VPN ยังสามารถช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของเราที่บ้านและยังช่วยให้สามรถเข้าถึงเนื้อเว็บต่าง ๆ ที่ถูกบล็อคโดยรัฐบาล เช่น Pornhub
.
แล้ว VPN ทำอะไรไม่ได้
เพื่อให้ VPN มีประโยชน์มากที่สุด เราต้องเข้าใจข้อจำกัดของ VPN ด้วย ซึ่งหน้าที่หลักของมันคือปกป้องการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตและทำให้ผู้ที่ชอบส่องเราหาเราไม่เจอ เช่นรัฐบาลหรือหน่วยงานด้านการตลาดจะรู้ข้อมมูลเราได้ยากขึ้น
.
แต่การมี VPN ไม่ได้แปลจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นนะ ซึ่งอาจต้องใช้ Extension อย่าง Privacy Badger ของ Eff ซึ่งจะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นครับ
.
กลับมาที่ VPN ยังจำเป็นต้องไหม ?
หากอยู่บ้านแล้วมั่นในว่าเครือข่ายในบ้านปลอดภัย เราอาจไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะมันจะมีค่าบริการที่เพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง แต่หากอยากเข้าเว็บที่ถูกบล็อค เราก็ไม่เหลือเหตุผลที่จะไม่ใช่แล้วล่ะ…..
.
อีกส่วน VPN มีประโยชน์อย่างมากหากเราไม่ได้นั่งทำงานทื่บ้าน เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า Wifi สาธารณะจะปลอดภัยแค่ไหน แฮกเกอร์ส่วนใหญ่ใช้ Wifi เป็นฐานในการโจมตีหลายแห่ง
ซึ่งแฮกเกอร์ไม่จำเป็นต้องหลอกล่อเราให้เชื่อมต่อ แต่เพียงแค่ต้องหลอกล่อโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของเรา อุปกรณ์ส่วนใหญ่ได้รับการกำหนดค่าให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่คุ้นเคยอีกครั้งโดยค่าเริ่มต้น แต่ถ้าผู้โจมตีใช้ชื่อเครือข่าย Wifi เดียวกัน เราก็ไม่มีทางรู้ว่าเครือข่ายนั้นปลอดภัยไหม
.
ให้นึกถึง Starbucks หรือ ร้านการแฟนอื่น ๆ ที่แฮกเกอร์จะปลอมอุปกรณ์ทั้งชื่อและ SSID ให้เหมือนกับร้านกาแฟนั้น ทำให้อุปกรณ์ของเราอาจเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติแม้ว่าเราจะไม่รู้ตัวก็ตาม นั่นทำให้แฮกเกอร์อาจแฮกมือถือเราในตอนนี้ที่เรากำลังนั่งจิบกาแฟชิล ๆ
.
การโจมตีนี้อาจต้องใช้การคาดเดาเป็นอย่างมาก แต่พวกแฮกเกอร์นั้นก็ไม่หวั่น พวกเขาสามารถกำหนดค่าจุดเชื่อมต่อของตนเพื่อเปลี่ยน SSID ให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ต้องการ
.
รูปแบบการโจมตีค่อนข้างใหม่แต่ก็สามารถทำได้สำเร็จมาแล้ว ในการประชุม Black Hat เมื่อไม่เดือนที่ผ่านมา บริษัทด้านความปลอดภัยตรวจพบจุดเชื่อมต่อที่ถูกเปลี่ยน SSID ให้เหมือนกันมากถึง 1,047 ครั้งโดยหลอกให้อุปกรณ์มากกว่า 35,000 เครื่องเชื่อมต่อเข้าไป
.
นี่คือสถานการณ์ที่เราต้องใช้ VPN อย่างแน่นอน อุโมงค์ที่เข้ารหัสนี้จะสร้างการบล็อกทุกคนในเครือข่ายเดียวกับเราแม้แต่คนที่จัดการเครือข่ายก็ไม่ให้เห็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ครับ
.
VPN สร้างความสนุกได้เช่นกัน
อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นนะว่า VPN เข้าสามารถช่วยให้เราเข้าถึง Content ที่หน่วยงานหรือรัฐบาลบล็อค เป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อไม่ให้เราถูกปิดกั้น อย่างในอดีตที่บางประเทศถูกบล็อคไม่ให้เข้าถึง Netflix พวกเขาก็ใช้ VPN เพื่อให้เข้าได้ครับ
.
สรุป VPN ควรมีใช้ในบ้านไหม ?
คำตอบของคำถามที่ว่าเรา “ต้องการ” VPN ในบ้านนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของเราเองหรือไม่ มีเหตุผลดีๆมากมายที่ทำให้ใช้ VPN ในบ้านอาจเป็นส่วนเสริมที่มีค่าสำหรับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเรา แต่สิ่งที่สำคัญคือมันอาจลดความเร็วอินเตอร์เน็ตลงนิดหน่อย
.
ส่วนตัวคิดว่า หากไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป เราควรจะมี VPN ติดเครื่องไว้ก็ดีครับ แม้เราจะใช้งานอยู่บ้าน เราก็อาจจะอยากใช้โดยไม่มีคนติดตาม หรือปิดกั้นข้อมูลสำคัญอย่างรหัสบัญชีหรือรหัสธนาคารออนไลน์
.
แต่การเลือกใช้ VPN ก็ต้องเลือกผู้ให้บริการด้วยนะครับ เพราะบางรายก็ไม่ได้เปิดให้เราใช้จริง ๆ เป็นบริการหลอกไว้ หรือไม่ก็เป็น VPN ไม่มีคุณภาพและไม่เสถียร
.
ผมทดสอบใช้งานโดยเปิด VPN แล้วลองเข้าเว็บที่รัฐบาลบล็อคอย่าง Change.org ถ้าเข้าได้ นั่นแปลว่าก็ใช้งานได้ในระดับหนึ่งครับ และหวังว่าคนที่ได้อ่านบทความนี้จะได้หลักในการนำ VPN ไปใช้นะ