ดีเจไอ เปิดตัว Spark ที่ทำให้การถ่ายภาพจากโดรนเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

ดีเจไอ (DJI) ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศและผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ของโลก เปิดตัว Spark (สปาร์ค) โดรนขนาดพกพาที่สามารถควบคุมการบินได้อย่างง่ายดาย ด้วยสั่งการทางฝ่ามือ เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ตัวช่วยใหม่ในการถ่ายภาพและแชร์ช่วงเวลาพิเศษในทุกๆ ที่ของคุณ

คุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซินเน็ค และ มร.เควิน ออน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารดีเจไอ

ด้วยเทคโนโลยีอันทรงพลังของดีเจไอ ที่คิดค้น Spark ปรากฏการณ์ครั้งแรกในการใช้โดรนที่ควบคุมด้วยท่าทางของมือเพียงอย่างเดียว นับว่าเป็นการทำลายทุกขีดจำกัดของการถ่ายภาพบนอากาศ และเป็นการใช้งานที่ง่ายมากแม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้โดรนมาก่อน คุณก็สามารถสั่งการด้วยการใช้มือ หรือ รีโมทคอนโทรลเพียงแค่เครื่องเดียว

เมื่อ Spark บินออกจากจากมือคุณ มันก็จะเข้าสู่โหมดท่าทาง (Gesture mode)โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการจับท่าทางการควบคุมด้วยฝ่ามือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการได้ด้วยการเคลื่อนไหวของมือ โดยสามารถสั่งให้Spark บินออกไปเพื่อที่จะถ่ายภาพเซลฟี่ และเรียกให้โดรนบินกลับมาได้ด้วยมือเพียงอย่างเดียว

มิสเตอร์ เควิน ออน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของ บริษัท ดีเจไอ จำกัด กล่าวว่า “ฟังก์ชั่นการควบคุมโดรนด้วยการใช้ท่าทางและเคลื่อนไหวของมือเพียงอย่างเดียวของ DJI Spark นับว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เทคโนโลยีทางอากาศจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การทำงานจนถึงการท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีม หรือในช่วงเวลาสำคัญกับเพื่อนและครอบครัว และ DJI Spark ก็ถือว่าเป็นการปฏิวัติการถ่ายภาพทางอากาศมุมมองใหม่ๆ ที่ทำได้ง่ายขึ้น และพร้อมที่จะแชร์ภาพเหล่านั้นให้คนทั้งโลกได้เห็น”

Spark ได้ถูกออกแบบให้เป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพทางอากาศที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาไปทุกที่ได้อย่างสะดวก และช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยน้ำหนักเพียงแค่ 300 กรัม ที่มีขนาดเบากว่ากระป๋องน้ำอัดลม แค่เพียงหยิบออกมาจากกระเป๋า โดรนตัวนี้ก็พร้อมใช้งานทันที โดยสามารถควบคุมได้ด้วยมือ รีโมทคอนโทรล หรือโทรศัพท์มือถือ โดยที่ DJI Spark จะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว สีฟ้า สีเขียว สีแดง และสีเหลือง

จับภาพได้อย่างฉลาด และใช้งานง่ายอย่างเหลือเชื่อ

Spark มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการบินแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจับภาพและแชร์ช่วงเวลาที่น่าจดจำของคุณได้อย่างง่ายดาย กับโหมดการบินอัจฉริยะแบบ QuickShot ที่จะช่วยสร้างวิดีโอได้แบบมืออาชีพ ใช้งานง่าย และสนุกมากขึ้น แค่กดเลือกQuickShot โดรน Spark จะบินไปตามเส้นทางการบินที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในขณะเดียวกันก็สามารถบันทึกวิดิโอ และจับภาพต่างๆ ตลอดเส้นทางการบิน

คำสั่งของ QuickShot มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ คือ Rocket คำสั่งให้บินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยกล้องยังจับภาพวัตถุนั้นๆ Dronie คำสั่งให้บินถอยออก และขึ้นบนพร้อมจับภาพ Circle คำสั่งให้บนวนเป็นวงกลม และHelix คำสั่งให้บินขึ้นและหมุนรอบตัววัตถุ โดยการถ่ายแบบ QuickShot นั้น Sparkจะสร้างตัดต่อวิดิโอเป็นแบบ 10 วินาที จากเที่ยวบินของคุณโดยอัตโนมัติ พร้อมที่จะแชร์บนโซเชียลมีเดียให้ทุกคนได้เห็นช่วงเวลาพิเศษของคุณ

นอกจากนี้ ยังมีโหมดการบินอัจฉริยะอื่นๆ ทั้งTapFly และ ActiveTrack ซึ่งพัฒนาจากเทคโนโลยีการจับภาพของ DJI โดยโหมดย่อยใหม่ของTapFly ที่เรียกว่า Coordinate จะสั่งการให้โดรนบินไปยังสถานที่ที่กำหนดได้อย่างง่ายดายเพียงแค่แตะเลือกบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สำหรับโหมด ActiveTrack จะทำให้โดรนจดจำและติดตามสิ่งที่เราต้องการถ่ายโดยอัตโนมัติ ทั้งยังบันทึกภาพให้อยู่กึ่งกลางในขณะที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีหลุดเฟรม มาพร้อมเซนเซอร์ช่วยหลบสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ

และถ้าใช้รีโมทคอนโทรล ผู้ใช้ก็สามารถสลับไปโหมด Sport ที่มีความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในโหมดนี้จะเซ็ทค่าเริ่มต้นที่ FPV ที่จะช่วยสามารถสร้างมุมมองใหม่โดยกล้องจะเคลื่อนไหวตามไปติดไปกับคุณราวบินอยู่บนท้องฟ้าจริงๆ ทั้งนี้ Spark ยังสามารถใช้ได้กับ แว่น DJI Goggles เพื่อให้ได้ประสบการณ์การบิน FPV ที่น่าทึ่ง

ถ่ายภาพได้ราวกับมืออาชีพ

Spark มาพร้อมกับกล้องไซส์เล็ก เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว รองรับการบันทึกภาพวิดีโอในแบบ 1080p และภาพนิ่งในขนาด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับมอเตอร์กิมบอลแบบสองแกน (2-axis) ทำให้ชัตเตอร์จับภาพได้อย่างชัดเจน และเทคโนโลยี UltraSmooth ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน และอาการภาพล้มในการถ่ายวิดิโอ

ทั้งนี้ Spark ยังเพิ่มโหมดการถ่ายภาพใหม่อีก 2 แบบ Pano และ ShallowFocus โดยโหมด Pano สามารถสร้างภาพพาโนรามาได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยการปรับแบบอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพคมชัดไม่สั่นไหว ในขณะที่โหมด Shallow Focus สามารถทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือทำภาพแบบชัดลึกและชัดตื้น ได้ นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขรูปภาพหรือวิดีโออัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้แอปพลิเคชั่น DJI GO 4 ผู้ใช้จึงสามารถแก้ไขวิดีโอ และแชร์ไปยัง Facebook, YouTube, Twitter, Instagram และแพลตฟอร์มอื่นๆ ในสื่อโซเชียลได้อย่างง่ายดาย

บินอย่างปลอดภัย และแม่นยำ

ด้วยระบบกล้อง Flight Autonomy ของ Spark ประกอบไปด้วยกล้องหลัก ระบบมองภาพแบบก้มลง ระบบการมองเห็นแบบ3D ระบบGPS แบบ dual-band และ GLONASS ที่มีความแม่นยำสูง เพราะมีหน่วยการวัดขนาด 24 แกนคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพมาก สามารถมองเห็นได้ไกลถึง 30 เมตร และมองเห็นสิ่งกีดขวางที่อยู่ห่างออกไปได้ถึง 5 เมตร

โดรน DJI Spark ยังสามารถบินกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้เองโดยอัตโนมัติด้วยสัญญาณ GPS หาก แบตเตอรี่มีพลังงานต่ำเกินไป สัญญาณการเชื่อมต่อหายไป หรือผู้ใช้กดย้อนกลับไปที่ปุ่ม Home (RTH) โดรนSpark ก็จะบินกลับไปที่จุดตั้งต้นและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบGEO DJI หรือ Geofencing NFZ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบินในพื้นที่จำกัด ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

Spark ขับเคลื่อนด้วยพลังงานของแบตเตอรี่ LiPo เมื่อใช้รีโมทคอนโทรล ทำให้สามารถบินได้นานถึง 16 นาที และสามารถส่งวิดีโอ 720p แบบ real-time ได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร

ราคาและการจัดจำหน่าย

สำหรับราคาของ DJI Spark ในประเทศไทย ที่เป็นชุดมาตรฐาน จะประกอบไปด้วย ตัวโดรน แบตเตอรี่ อุปกรณ์ชาร์จ และใบพัด 3 คู่ จะอยู่ที่ 20,000 บาท ส่วนอีกทางเลือกซึ่งเป็นชุดคอมโบ้ หรือ Spark Fly More Combo ที่ประกอบด้วย ตัวโดรน แบตเตอรี่สำรอง ใบพัดสำรอง 4 คู่ รีโมทควบคุม ตัวป้องกันใบพัด แท่นชาร์จ กระเป๋าสะพาย และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ ที่จำเป็น จะมีราคา 28,000 บาท ราคาละการจัดจำหน่ายของอุปกรณ์อื่นๆของ Spark จะประกาศให้ทราบให้ภายหลัง

สามารถซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ DJI ในประเทศไทย โดยสีและชุดMore combo จะมีวางจำหน่ายในร้านค้าที่แตกต่างกัน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here