การควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์ของ Dell และ EMC เสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมขึ้นแท่นบริษัทเทคโนโลยีนอกตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Dell Technologies พร้อมมอบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อเปลี่ยนโฉมระบบไอทีให้แก่องค์กรธุรกิจทั่วโลกสู่การก้าวเป็นธุรกิจดิจิตอล
Dell Technologies ประกาศการดำเนินการซื้อกิจการบริษัท EMC Corporation ได้ทำเสร็จสมบูรณ์ และส่งผลให้ทั้งสองบริษัทมีกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายที่จะช่วยมอบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่จำเป็น เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างอนาคตในยุคดิจิตอล เปลี่ยนโฉมระบบไอทีของตนเอง และปกป้องดูแลทรัพย์สิน รวมถึงข้อมูลที่สำคัญขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การควบรวมกิจการเข้าด้วยกันครั้งนี้ส่งผลให้ Dell Technologies มีมูลค่าสูงถึง 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและกลายเป็นผู้นำตลาด โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอันหลากหลายที่พร้อมช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าและเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรม ประกอบไปด้วย ไฮบริด คลาวด์ (Hybrid Cloud), ซอฟต์แวร์ ดีฟาย ดาต้าเซ็นเตอร์ (Software-Defined Data Center), คอนเวิร์จ อินฟราสตรักเจอร์ (Converged Infrastructure), แพลตฟอร์ม แอส อะ เซอร์วิส (Platform-as-a-Service: PaaS), ดาต้า อนาไลติกส์ (Data Analytics), โมบิลิตี้ (Mobility) และไซเบอร์ซิเคียวริตี้ (Cybersecurity)
ปัจจุบัน กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งติดอันดับนิตยสาร Fortune 500 และเป็นผู้นำในตลาด ล้วนเป็นลูกค้าของ Dell Technologies ทั้งสิ้น ภายใต้ Dell Technologies ประกอบด้วยธุรกิจ Dell client solutions และ Dell EMC infrastructure solutions ซึ่งเป็นสองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดในตลาด และจะมี Dell EMC Services คอยให้การสนับสนุน นอกจากนี้ Dell Technologies ยังประกอบด้วยบริษัทย่อยอื่นๆ ได้แก่ Boomi, Pivotal, RSA, SecureWorks, Virtustream และ VMware โดยการวางโครงสร้างใหม่นี้ทำให้ Dell Technologies สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างบริษัทสตาร์ทอัพบนสเกลระดับโลก และให้บริการแก่องค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ด้วยขนาดองค์กร จะช่วยให้ Dell Technologies สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์, พัฒนาการขายและการตลาด, การให้บริการและสนับสนุน และส่งมอบโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งแม้บริษัทฯ จะเปิดเผยผลประกอบการด้านการเงินแก่สาธารณะ แต่รายงานดังกล่าวจะยังอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯ สามารถโฟกัสที่การลงทุนกับลูกค้าและระบบนิเวศน์ของพันธมิตรทางธุรกิจได้ในระยะยาว
นายไมเคิล เดลล์ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Dell Technologies กล่าวว่า “เราอยู่ในยุคใหม่ของวิวัฒนาการด้านอุตสาหกรรม โลกของเราฉลาดขึ้นและเชื่อมต่อกันมากขึ้นทุกนาที โดยท้ายที่สุดทุกอย่างจะถูกประสานเข้าด้วยกันด้วยพลังของอินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่เราสร้าง Dell Technologies ขึ้นมา เพราะเรามีทั้งสินค้า บริการ บุคลากรที่มีความสามารถ รวมถึงสเกลการทำธุรกิจระดับโลก ที่จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและนำทางให้ลูกค้าของเราไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือเล็กเดินหน้าสู่การเป็นธุรกิจดิจิตอล”
Dell Technologies ผนวกความสามารถของ Dell ที่แข็งแกร่งในฐานลูกค้าขนาดเล็กและขนาดกลาง และความสามารถของ EMC ที่แข็งแกร่งในฐานลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง Dell Technologies เป็นผู้นำตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศในหลายๆ ส่วนที่มีความสำคัญและได้รับความนิยม โดยมีมูลค่าตลาดรวมถึง 2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำตลาดถึง 20 Magic Quadrants ของ Gartner รวมถึงมีการจดสิทธิบัตรและแอพพลิเคชั่นทั้งหมดกว่า 20,000 รายการ
เจมี ไดมอน ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan Chase กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจด้านการเงิน คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อช่วยยกระดับการให้บริการลูกค้า และคลื่นลูกต่อไปของโลกดิจิตอลจะยังคงเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิตของเรา ในฐานะที่เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Dell และ EMC เราลงทุนประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในด้านเทคโนโลยี รวมถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และการใช้งานคลาวด์ คอมพิวต์ติ้ง, บิ๊กดาต้า อนาไลติกส์ และไซเบอร์ซิเคียวรีตี้ เรามั่นใจว่าได้มีการจัดสรรงบลงทุนอย่างเหมาะสม และมีการเลือกพันธมิตรทางธุรกิจอย่างระมัดระวัง ผมรู้จักกับไมเคิล เดลล์ มามากกว่า 30 ปี เขาคือเบอร์หนึ่งในวงการ เขามีจรรยาบรรณ และให้ความใส่ใจอย่างมากกับทุกคนที่เขาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในองค์กร หรือจากต่างอุตสาหกรรมก็ตาม ผมตื่นเต้นกับไมเคิลและบริษัทใหม่ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นสิ่งที่พวกเขาจะสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต”
มาร์ค เบอนีออฟ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Salesforce กล่าวว่า “พันธมิตรระหว่าง Salesforce, Dell และ EMC ได้ร่วมผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในอุตสาหกรรมมาโดยตลอด ไมเคิล มีวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่ง และเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีความสำคัญมากที่สุดในอุตสาหกรรมของเรา เขาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยนำพาธุรกิจของเราสู่ความสำเร็จ สำหรับ Dell Technologies นี่คือก้าวใหม่ของเขาในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง”
ทิม แมคกราธ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PC Connection, Inc. กล่าวเสริมว่า “ความสัมพันธ์ของเรากับ Dell เติบโตอย่างมากในระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา โดยเราได้รับรางวัลคู่ค้ายอดเยี่ยมของ Dell อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2015 และธุรกิจของเราเติบโตมากขึ้น ในฐานะที่เราเป็นพันธมิตรของ Dell, EMC, VMware และ RSA เราสามารถส่งมอบนวัตกรรมโซลูชั่นไอทีซึ่งขับเคลื่อนด้วยคุณค่า มีความปลอดภัย และครอบคลุมตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการทำงานให้กับลูกค้า ด้วยกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายภายใต้ Dell Technologies บริษัท PC Connection, Inc. เองก็มีความพร้อมที่จะขยับขยายความสามารถในการนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน เรามุ่งมั่นที่สร้างความแข็งแกร่งในการเป็นพันธิตรกับ Dell Technologies มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิค คำแนะนำต่างๆ รวมถึงการเลือกสินค้าที่จำเป็นในการช่วยจัดการกับความท้าทายด้านไอทีต่างๆที่ธุรกิจของพวกเขาต้องประสบ”