Nvidia สะเทือน เปิดเบื้องหลัง DeepSeek ใช้ชิปรุ่นเก่าประมวลผล

[มาเหนือเมฆ] เปิดตัวไม่นาน ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการแล้ว และบริษัทที่ดูสะเทือนหนักเป็นพิเศษ ก็คงไม่พ้น Nvidia ที่อยู่ดี ๆ ก็หุ้นร่วง 17% มูลค่าบริษัทหายไปกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ฯ หลังมีสตาร์ทอัพหน้าใหม่ในจีนเปิดตัว DeepSeek โมเดล AI ตัวใหม่ล่าสุด ที่สามารถท้าชน ChatGPT ของ OpenAI ได้ แม้ใช้ชิประมวลผลรุ่นเก่าอย่าง Nvidia H800 ก็ตาม ทั้งยังใช้ต้นทุนกับพลังงานที่น้อยกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ด้วย จนเกิดเป็นคำถามมากมายจากนักลงทุนตามมา

แม้จะสะเทือนไปบ้าง แต่ดูเหมือนทาง Nvidia ก็ยังมองว่าเป็นโอกาสอันดี หลังได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เผย DeepSeek ได้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของชิปของ Nvidia สำหรับตลาดจีน และคาดว่าในอนาคตจะมีความต้องการชิป AI ที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการบริการดังกล่าวนั้นเอง

***และเป็นไปตามนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 29/01/68 หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 10% และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในเร็ว ๆ นี้ด้วย***

มีข้อมูลเผยว่า DeepSeek ใช้ชิป H800 จำนวน 2,000 ตัว ในการประมวลผล AI ซึ่งเป็นชิปรุ่น “ลดสเปก” ที่สอดคล้องกับการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ในปี 2022 แน่นอนว่าประสิทธิภาพตัว H800 จึงน้อยกว่าชิป H100 ที่เป็นรุ่นเรือธงของ Nvidia ในปี 2023 และห่างจากตัว Blackwell B200 อยู่พอควร

สำหรับตัว H800 ก็เป็นชิปที่ทาง Nvidia ลดสเปกเพื่อจำหน่ายในประเทศจีนโดยเฉพาะ (ตามคำสั่งของสหรัฐฯ) โดยมีการลดความเร็วโอนถ่ายข้อมูลที่ 300 GBps จากเดิม 600 GBps และยังมีประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่า H100 ชัดเจน ทั้งนี้ทาง Nvidia ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Blackwell ซึ่งก็มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีกว่า H100 ถึง 5 เท่าด้วย

ฉะนั้นจึงบอกได้เลยว่า DeepSeek กำลังใช้ชิปประมวลผล Nvidia ที่ตกรุ่นและโดนลดสเปกอย่างตั้งใจ แต่ถึงอย่างนั้นกลับสามารถพัฒนาตัว LLM ท้าชนค่ายดังได้ โดยใช้เวลาพัฒนาเพียง 2 เดือนเท่านั้น กับงบเพียง 6 ล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 200 ล้านบาท) แสดงให้เห็นเลยว่า คำสั่งลดสเปกของสหรัฐฯ นั้น แทบไม่มีผลต่อความก้าวหน้าด้าน AI ของจีนเลย และการลงทุน AI ก็อาจไม่จำเป็นต้อง ‘มหาศาล’ เหมือนก่อนแล้ว

“DeepSeek ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไร้สาเหตุ พวกเขาอยู่ในแวดวงนี้มาหลายปีแล้ว”

แม้จะมีข่าวระบุว่า DeepSeek ใช้เวลาพัฒนาเพียงไม่นาน แต่ทาง Jimmy Goodrich ที่ปรึกษาอาวุโสของ RAND Corp มองว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มีมานานแล้ว และกล่าวด้วยว่าจีน มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวหลักอย่างน้อย 12 เครื่อง พร้อมชิป Nvidia จำนวนมาก ซึ่งยังสามารถซื้อได้อย่างถูกกฎหมาย และปัจจุบันทาง Nvidia ก็กำลังพัฒนาชิปรุ่นลดสเปกตัวใหม่อย่าง H20 ที่จะมาแทนที่ H800 โดยเร็วกว่าชิป H100 อยู่ที่ 20%

ท้ายนี้ทาง DeepSeek ยังมีตัว DeepSeek-R1 ซึ่งเป็นโมเดล AI ประสิทธิภาพสูง ที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี โดยสามารถใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์ (คล้ายกับ ChatGPT) หรือจะโหลดตัว Open-Source มาใช้งานแบบออฟไลน์ก็ยังได้อีก (ผ่านเว็บ Ollama) จนปัจจุบันกลายบริษัทเทคโนโลยีจากจีนมาแรง ที่ถูกจับตามองทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการ AI ทั่วโลก

ที่มา : Reuters