ในขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา Nancy Pelosi ได้ไปเยือนไต้หวันในช่วงสั้น ๆ ในสัปดาห์นี้ แน่นอนว่ามันทำให้จีนขุ่นเคืองมาก ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐบาล แต่รวมถึงประชาชนจีนบางส่วนด้วยเช่นกัน
.
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จู่ ๆ หน้าจอแคชเชียร์ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 บางสาขาในไต้หวัน ก็ขึ้นแจ้งเตือนคำว่า “Warmonger Pelosi, get out of Taiwan!” ซึ่งเป็นความพยายามที่จะให้ประชาชนชาวไต้หวันขับไล่ Pelosi ออกไป
.
นอกจากร้านสะดวกซื้อ เว็บไซต์รัฐบาล ทำเนียบประธานาธิปบดี กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น หน้าจอที่สถานีรถไฟ ก็ชึ้นข้อความดังกล่าวเพื่อประท้วงการมาเยือนของเปโลซี
.
ออเดรย์ ทัง รัฐมนตรีดิจิทัลของไต้หวันกล่าวว่าปริมาณการโจมตีทางไซเบอร์ต่อหน่วยงานของรัฐบาลไต้หวันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้นสูงกว่าสถิติรายวันก่อนหน้านี้ถึง 23 เท่า โดยคิดเป็นปริมาณการโจมตีเกิน 15,000 กิกะบิตครับ
.
ต้องยอมรับว่า การเยือนของเจ้าหน้าทีระดับสูงของสหรัฐในครั้งนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้อย่างแรงจากประชาชนชาวจีนและปักกิ่ง โดยถือว่าสหรัฐกำลังละเมิดอำนาจอธิปไตยของจีน ซึ่งรัฐบาลจีนเองก็ได้ตอบโต้โดยการยิงขีปนาวุธรอบ ๆ ไต้หวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบทางทหารที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
.
องค์กรวิจัยความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่า การโจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาลไต้หวันก่อนการเยี่ยมชมของ Pelosi นั้นน่าจะเกิดขึ้นโดยแฮกเกอร์ หรือนักเคลื่อนไหวชาวจีนมากกว่ารัฐบาลจีน
.
หลังจากการโจมตี กลุ่มแฮกเกอร์ขื่อว่า APT 27 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกทางการตะวันตกหมายหัวว่า เป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีไต้หวันผ่านชาแนลบน Youtube เพื่อประท้วง Pelosi ที่ไม่สนคำเตือนของจีน และแสดงให้เห็นว่า หากเธอมาเยือน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกจากนี้พวกเขายังอ้างว่าได้ปิดอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกว่า 60,000 เครื่องในไต้หวันไปแล้วด้วย
.
จากเหตุการข้างต้น เราอาจสรุปได้ว่า ก่อนจะเกิดสงครามจริง ๆ ที่ใช้กำลังทหารเข้าต่อสู้ ประเทศที่พร้อมจะเข้าสู่งสงครามอาจต้องเจอกับสภาวะที่จะโดนกดดันทางเศรษฐกิจก่อน จากนั้นอาจโดนอาจโจมตีทางไซเบอร์อย่างหนักหน่วง และหากยังไม่ได้ตามที่ต้องการจริง ๆ จึงอาจใช้กำลังทางทหารครับ สงครามยุคนี้ น่ากลัวกว่าที่คิด…
.
ที่มาข้อมูล