“GEN C” (Connectedness) ยุคที่ผู้คนมีความต้องการใช้เทคโนโลยีอย่างมหาศาล แต่ “เทคโนโลยีจะไม่เกิดประโยชน์ที่แท้จริง ถ้าคนไม่ปรับตัวตาม” ดังนั้นคำถามคือ ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตร่วมกับมันยังไงดีให้คุ้มค่าที่สุด ใช้มันยังไงให้เกิดประโยช์นสูงสุด เราต้อง Connect กับอะไรบ้าง ถึงจะเรียกว่า “Connected Life” ที่แท้จริง
ต่อจาก Connected Life ข้อควรรู้ของคนในยุค Gen C ตอนที่ 1
4.เข้าถึงธุรกรรมออนไลน์
โอนเงิน ชำระบิล เช็คยอด และอายัด เดี๋ยวนี้เราสามารถทำทุกอย่างได้ในมือถือเครื่องเดียวแล้ว เชื่อว่าคนในยุค Gen C คงแทบไม่ได้เข้าธนาคารมานานแน่ ๆ เพราะเจ้า “Mobile banking” หรือบริการธุรกรรมออนไลน์บนมือถือนี้เอง ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการพัฒนาให้ใช้งานง่ายกว่าเดิมมาก ๆ รองรับบริการชำระเงินออนไลน์ได้มากขึ้น และมีความปลอดภัยสูงขึ้น ปัจจุบันจึงกลายเป็น Connected Life ที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ (ใครยังไม่มี ไปติดต่อธนาคารที่ใช้บริการอยู่ให้ไวเลยครับ) ในหัวข้อนี้ก็จะขอว่าด้วยความสำคัญของ Online Banking หรือ ธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ด้วย
Mobile banking สำคัญไฉน
Mobile banking หรือจะเรียกว่า Internet banking ก็ได้ หลังเข้าสู่ยุคออนไลน์ได้พักใหญ่ ก็เริ่มมีร้านขายของออนไลน์กับที่ชำระค่าบริการผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เพื่อให้บริหารค่าใช้จ่ายในนี้ได้สะดวก จึงควรมีบัญชี Mobile banking ติดตัวไว้เลย เราจะได้สามารถเช็ตยอดเงินที่มีอยู่แบบเรียลไทม์ เพื่อวางแผนใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น
สมัครบัตรเดบิตเพื่อความสมาร์ท
หากมีบัญชี Mobile banking แล้ว ก็ควรมีบัตรเดบิตร่วมด้วย แต่ในที่นี้ขอสงวนเฉพาะบัตรเดบิตของ “ธนาคารกรุงเทพ” และ “ธนาคารกสิกร” เท่านั้น เนื่องจากทั้งสองธนาคารนี้ สามารถใช้ชำระซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ต “แบบไม่ต้องโอน” ได้เลย ซึ่งหากตามปกติแล้ว เราต้องใช้วิธีโอนเงินแล้วต้องไปแจ้งให้กับผู้รับเงินอีกที แต่หากเป็นการชำระด้วยบัตรเดบิตของสองธนาคารนี้ มีเพียงแค่ กดซื้อ กดยืนยัน รอเมล์ตอบกลับ (หรือไม่ต้อง) เสร็จล่ะ !!
ข้อควรรู้
1.การชำระเงินของบัตรเดบิต จะเป็นการหักเงินจากยอดในบัญชีของเราโดยตรง ซึ่งเราฝากเงินในบัญชีนี้เท่าไร ก็มีเท่านั้นตามสภาพ แต่ถ้าเป็นบัตรเดบิตของกรุงเทพกับกสิกร จะสามารถใช้ซื้อซอฟต์แวร์ (หรือไอเทมในเกม) จากต่างประเทศได้เลย แต่ถ้าไม่มีบัตรเดบิตของสองธนาคารนี้ ก็ให้ใช้เครดิตของทุกธนาคารแทนก็ได้
2.แนะนำว่าควรใช้บัตรเดบิตแยกกับบัตร ATM ที่เราใช้ถอนเงินซื้อของในชีวิตประจำวันดีกว่า เนื่องจากบัตรเดบิต เป็นเหมือนกระเป๋าเงินออนไลน์ ที่ใช้จ่ายง่าย ไปได้รอบทิศ จึงเกรงว่า อาจมีเหตุการณ์ “กดเพลิน” (แบบเดียวกับ “รูดเพลิน”) จนไม่มีเงินซื้อข้าวเอาได้ครับ
ตัวอย่างการใช้บัตรเดบิตซื้อของออนไลน์
ซื้อเกม เช่น Steam, Origin
ซื้อซอฟต์แวร์ เช่น MS Office 365 (รายเดือน), โปรแกรมฆ่าไวรัส (รายปี)
ซื้อแอพฯ เช่น Google Play, App Store
PayPal คือ อะไร
หากบัตรเดบิตกรุงเทพกับกสิกรเป็นเหมือนกระเป๋าเงินออนไลน์แล้ว PayPal ก็คือโคตรกระเป๋าเงินออนไลน์เลยครับ PayPal คือ ระบบการรับเงินหรือโอนเงินออนไลน์ที่นิยมใช้กันทั่วโลก มีความน่าเชื่อถือสูง รวดเร็ว และใช้งานง่าย ทำให้เหมาะแก่ซื้อ – ขายสินค้าออนไลน์ จากเว็บไซต์ระดับโลกอย่าง Amazon, ebey และร้านค้าออนไลน์อีกหลายพันแห่งทั่วโลก ทั้งยังเหมาะแก่การทำธุรกิจออนไลน์อีกด้วย ถ้าใครมีแผนจะ Go Inter ทำธุรกิจหรือธุรกรรมเมืองนอก ไปสมัครเลย แต่เราควรมีบัญชีบัตรเดบิตด้วยนะ จะได้สมัครง่าย ๆ
5.เข้าถึงความบันเทิงสมัยใหม่
จบด้วยการ Connect เพื่อความบันเทิง ในนี้คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก เพราะถือเป็นอีกกิจกรรมหลัก รองจากสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้การบ่อยมาก แน่นอนมันคือเกมออนไลน์ โดยเฉพาะเกมบนมือถือ แต่เพื่อให้ตรงคอนเซ็ปต์ของ Cover Story ฉบับนี้คือ Connected Life จึงขอพูดถึงการ Connect เพื่อความบันเทิงสมัยใหม่ ที่บางคนอาจยังไม่เคยทราบมาก่อนเลยดังนี้
Bluetooth Audio Adapter เข้าถึงเสียงเพลงแบบไร้สาย
เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสกให้หูฟังสาย 3.5mm หายไปพริบตา จนกลายสภาพเป็นหูฟังไร้สายในที่สุด แต่คุณภาพเสียงยังไม่หายไปไหน แถมยังดีกว่าเดิมด้วย นับเป็นอุปกรณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่อยากเจอปัญหาสายเกี่ยวจนหลุด หรือเสียเวลานั่งแก้สายพันกัน แต่อาจมีข้อเสียตรงที่ ต้องคอยมานั่งชาร์จแบตฯ ตัวมัน เพื่อให้ใช้งานแบบพกพาร่วมกับสมาร์ทโฟนได้นี้เอง ส่วนคำถามว่า “หูฟังไร้สายกับมีสายแบบไหนฟังเพลงเพราะกว่า?” คำตอบคือ แล้วแต่ความชอบเลยครับ บางคนบอกมีสายดีกว่าชัวร์ บางคนบอกไร้สายสิดีกว่าเยอะ แต่ถ้าเอาตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมแล้ว ผมว่าไร้สายดีกว่า ไม่ใช่ในแง่ของเสียง แต่เป็นความสะดวกที่ดีกว่าสุด ๆ
Fitness Tracker ออกกำลังกายแบบดิจิตอล
ช่วงที่กระแสการออกกำลังกายมาแรงนี้เอง เราอาจจะเห็นคนที่มาออกกำลังกายในยุคนี้ สวมใส่อุปกรณ์แปลก ๆ หน้าตาคล้ายสายรัดหรือนาฟิกากันให้เพียบ พวกนี้คือ Fitness Tracker อุปกรณ์ช่วยวิเคราะห์แสดงผลจากการออกกำลังกาย ช่วยให้เราสามารถวางแผนหรือสร้างจุดมุ่งหมายในการออกกำลังกายได้ จนส่งผลที่ดีในอนาคต เอาง่าย ๆ มันคืออุปกรณ์ช่วยกระตุ้นการออกกำลังกายนั้นเอง
ดูวิดีโอ 360 องศาจาก Youtube
วิดีโอ 360 องศา อีกความบันเทิงรูปแบบใหม่ ที่หลายคนยังไม่เคยเห็นมาก่อน ถามว่าเราจะไปหาดูได้ที่ไหน คำตอบคือ Youtube เลยครับ แต่ก่อนจะไปดูนั้น แนะนำว่าเราควรมีแว่น VR ที่ติดตั้งกับสมาร์ทโฟนด้วย เพื่อจะได้สัมผัสกับวิดีโอ 360 องศาได้เต็มอิ่ม ส่วนการดูวิดีโอ 360 องศา ใน Youtube นั้น ให้ไปพิมพ์คำว่า “Video 360” ในช่องค้นหา จากนั้นก็เปิดคลิปที่ต้องการ สังเกตุที่มุมล่างขวาของหน้าจอ จะเห็นรูปไอคอนคล้าย ๆ แว่นตา ให้จิ้มไปเลยครับ หลังจากนี้ก็เชิญทัศนา
สัมผัสประสบการณ์ 3 มิติผ่านมือถือ
อันดับแรก ไปหาซื้อแว่น VR (Virtual Reality) รุ่นอะไรก็ได้สำหรับสมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้วขึ้นไป (จะหาซื้อจอย Wireless Controller มาเล่นด้วยก็ได้) จากนั้นให้ลองติดตั้งแอพฯ “Vanguard V Google Cardboard” หรือค้นหาแอพฯ อะไรก็ได้ ที่ต้องมีคำว่า “VR” หรือ “Cardboard” เสร็จแล้วให้เอาสมาร์ทโฟนของเรา ติดตั้งเข้ากับแว่น VR ที่เราซื้อมาให้เรียบร้อย โดยก่อนติดตั้ง ให้เปิดตัวแอพฯ ที่เราโหลดมาค้างไว้ด้วย สุดท้ายก็ขอเชิญพบประสบการณ์ 3 มิติให้จุใจครับ
 ยุคที่ผู้คนมีความต้องการใช้เทคโนโลยีอย่างมหาศาล แต่ “เทคโนโลยีจะไม่เกิดประโยชน์ที่แท้จริง ถ้าคนไม่ปรับตัวตาม” ดังนั้นคำถามคือ ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตร่วมกับมันยังไงดีให้คุ้มค่าที่สุด ใช้มันยังไงให้เกิดประโยช์นสูงสุด เราต้อง Connect กับอะไรบ้าง ถึงจะเรียกว่า “Connected Life” ที่แท้จริง){kind=link}