เคยไหม? ที่ต้องมานั่งปวดหัวกับบรรดาอุปกรณ์สำคัญและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ต้องเสียเงินและเวลาไปกับการซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่อยู่เสมอ ใครที่เป็นผู้ประกอบการณ์ เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่คนทั่วไปอย่างคุณ ถ้าไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้ยังเกิดขึ้นซ้ำๆ ควรใช้เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า เพื่อช่วยป้องกันและยืดอายุเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำคัญให้อยู่กับคุณไปได้อีกนาน แต่คงมีหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ถ้าอยากรู้คำตอบก็ไปอ่านกันเลย
ทำความรู้จักเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า AVR Stabilizer
เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า หรือเครื่องปรับระดับแรงดันไฟฟ้า ที่นิยมเรียกกันว่า Stabilizer หรือ AVR ซึ่งย่อมาจาก Automatic Voltage Regulator นั้นคือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟฟ้า โดยทั่วไปแล้ว AVR จะใช้ร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หน้าที่หลักของ Stabilizer หรือ AVR คือการปรับแรงดันขาออกของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ โดยไม่คำนึงถึงโหลดหรือความต้องการพลังงาน
Stabilizer หรือ AVR ทำงานโดยการตรวจสอบแรงดันขาออกของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเปรียบเทียบกับแรงดันอ้างอิง หากแรงดันไฟฟ้าขาออกเบี่ยงเบนไปจากแรงดันอ้างอิง ตัว stabilizer จะปรับการกระตุ้นของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (กระแสสนาม) เพื่อนำแรงดันกลับไปยังจุดที่ตั้งไว้ สิ่งนี้ทำได้โดยใช้วงจรป้อนกลับ และตรวจสอบแรงดันขาออกรวมถึงปรับค่าแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
Stabilizer หรือ AVR ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต่างๆ เนื่องจากช่วยให้มั่นใจได้ถึงแรงดันไฟฟ้าขาออกที่คงที่และสม่ำเสมอ ซึ่งสำคัญต่อการปกป้องอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และช่วยให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า
- รักษาค่าแรงดันไฟฟ้าขาออกให้คงที่
- ปกป้องอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
- ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
- ช่วยยืดอายุเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยลดการสึกหรอของอุปกรณ์ต่างๆ
โดยทั่วไปแล้ว AVR จะถูกนำไปใช้ในระบบไฟฟ้าสำรอง ระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม และการผลิตไฟฟ้าสำหรับพื้นที่ห่างไกล และการใช้งานอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย
เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าแตกต่างจากเครื่องสำรองไฟอย่างไร
สำหรับคนที่ยังสงสัยว่า 2 อุปกรณ์นี้มีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะทั้งสองอุปกรณ์นั้นทำหน้าที่คล้ายกัน แต่มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า Stabilizer หรือ AVR จะใช้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นหลัก มีหน้าที่ตรวจสอบแรงดันขาออกให้อยู่ในระดับที่ตั้งไว้โดยอัตโนมัติ และปรับการกระตุ้นของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าหรือ Stabilizer ได้รับการออกแบบเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบผลิตไฟฟ้า และให้แรงดันไฟฟ้าที่เสถียรสำหรับโหลดที่เชื่อมต่ออยู่
เครื่องสำรองไฟ (UPS) ในขณะที่เครื่องสำรองไฟ หรือ uninterruptible power supplies (UPS) ออกแบบมาเพื่อให้พลังงานแก่อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ชั่วคราว ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ ไฟตก ไฟกระชาก หรือเจอปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้าด้านอื่นๆ UPS ประกอบด้วยแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์ที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ เมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักขัดข้อง UPS จะเปลี่ยนไปใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่ง UPS จะยังคงทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่จนกว่าแหล่งจ่ายไฟหลักจะกลับมาทำงาน หรือจนกว่าแบตเตอรี่จะหมด หน้าที่หลักของ UPS คือป้องกันและเป็นแหล่งพลังงานสำรองเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการจ่ายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
สรุปง่ายๆ ว่าทั้งสองอุปกรณ์นี้สามารถควบคุมและปรับแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟให้คงที่ได้เหมือนกัน แต่จะมีหน้าที่หลักในการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่ Stabilizer หรือ AVR จะทำหน้าที่ปรับแรงดันไฟฟ้าให้เสถียร ส่วน UPS ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองนั่นเอง ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมสามารถเข้าไปหาข้อมูลและสาระน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์สินค้าเกี่ยวกับไฟฟ้าต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chuphotic แบรนด์คนไทย ผู้นำด้านเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าและเครื่องสำรองไฟที่มีทีมวิศวกรคุณภาพ พร้อมให้คำปรึกษาและบริการคุณทุกช่องทาง