นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดิมได้ถึง 3 เท่า และลดความเสี่ยงที่แบตจะติดไฟได้มากขึ้นอีก
.
โดยนักวิจัยได้ใช้พัฒนาสารละลายเคมีตัวใหม่ที่จะนำไปใส่ในแบตเตอรี่ สารตัวนี้จะมีความคงตัวเหมือนเจล ทำให้เพิ่มความอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้มากขึ้นครับ ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์รถไฟฟ้า (EV Car) ในตลาดจีนที่กำลังเฟื่องฟู
.
ปกติแล้ว ความจุของแบตเตอรี่จะลดลงด้วยการชาร์จและการคายประจุซ้ำ ๆ กัน ยิ่งมีการชาร์จบ่อยขึ้น อัตราการเก็บประจุก็จะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้น ตัวบ่งชี้สำคัญของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ความคือความจุ
.
นักวิจัยทดสอบสารละลายเจลนี้ด้วยวิธีการให้ที่แบตคลายประจุ 100 เปอร์เซ็นต์( 100 per cent depth of discharge (DoD 100%) ) ภาษาบ้าน ๆ ก็คือใช้แบตจนเกลี้่ยงนั่นแหละ วิธีเป็นการสร้างความเสียให้กับแบตอย่างมาก แต่พวกเขาบอกว่า มันเป็นวิธีการที่จะทำให้ประสิทธิภาพของแบตแบบใหม่อย่างแท้จริง
.
จากผลทดสอบการชาร์จและการคายประจุ 300 รอบด้วย DoD 100 เปอร์เซ็นต์ แบตเตอรี่แบบใหม่ยังคงมีความจุอยู่ที่ 92 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แบตเตอรี่ [ดั้งเดิม] จะเหลือความจุเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นั่นทำให้เห็นว่า สารละลายแบบใหม่จะช่วยแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่แบบเดิมมาก
.
ปัจจุบัน แบตเตอรี่ลิเธียมมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานอื่น ๆ แต่ขั้วบวกของโลหะลิเธียมที่ทำงานกับสารละลายเคมีแบบเดิมที่เรียกว่าอิเล็กโทรไลต์เหลว ทำให้เกิดการสูญเสียประสิทธิภาพมากเกินไป รวมทั้งยังมีปัญหาด้านความปลอดภัยอีกด้วย
.
สารละลายแบบใหม่มีชื่อว่า Gel polymer electrolytes (GPEs) ซึ่งเป็นวัสดุกึ่งแข็งหรือกึ่งของเหลว พัฒนาขึ้่นโดยการดึงข้อดีของสารละลายแบบดั้งเดิมมาใช้รวมทั้งยังลดทอนเปอร์เซ็นที่จะเกิดอัคคีภัยได้มากขึ้นครับ
.
ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลบอกว่า สารละลายแบบใหม่นี้จะถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ตอนไหน แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า ตอนนี้จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำหน้ามากที่สุดในโลก
.
ที่มาข้อมูล