[ไม่ตรงเป้า] ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกกฏคุมเข้มการเล่นเกม เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะถูกจำกัดเวลาเล่นตามอายุ ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งเล่นได้น้อย ทั้งหมดก็เพื่อป้องกันเด็กติดเกม ทว่านโยบายดังกล่าว พบอาจให้ผลตรงกันข้าม เจอสถิติเล่นเกมมากกว่าเดิม
ย้อนไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2019 ทาง Chinese Communist Party (CCP) หรือพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ใช้กฎระเบียบป้องกันการติดเกมออนไลน์ในเยาวชน โดยให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ภายในช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น และเล่นได้เฉพาะวันหยุดเท่านั้น ต่อมาในเดือนกันยายนปี 2021 ก็คุมเข้มขึ้นอีก คล้ายเดิม แต่ลดเวลาจาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง และเล่นได้ในเวลา 20.00 น. 21.00 น. เท่านั้น
จนถึงปัจจุบัน กฎระเบียบดังกล่าวกลับไม่พบผลสำรวจหรือหลักฐานใด ๆ เลยว่า ช่วยให้ลดการติดเกมของเด็กในจีนได้จริงไหม กระทั่งทางสื่อ PC Gamer ได้ออกมาเผยรายงานน่าสนใจจากทาง Unity Technologies ผู้พัฒนาเอนจิ้นดังอย่าง Unity ที่ 61% ของเกมทั่วโลกใช้งานอยู่ และส่วนมากเป็นเกมในสมาร์ทโฟน
มีนักวิจัยได้ข้อมูลผู้เล่นชาวจีนแบบไม่ระบุตัวตนจากเอนจิ้นดังกล่าว โดยอิงจากโปรไฟล์ผู้เล่นที่มีประมาณ 2.4 พันล้านราย (อาจเป็นหนึ่งผู้ใช้แต่หลายบัญชี) กับมีเวลาเล่นกว่า 7.04 พันล้านชั่วโมง และรวบรวมข้อมูลในระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2019 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2020 ช่วงก่อนที่จะมีการใช้กฏคุมเข้มในอีกไม่กี่เดือน ไปจนถึงช่วงท้ายปี 2020 นั้นเอง ส่วนที่ไม่เอาข้อมูลถึงปัจจุบัน เนื่องจากช่วงปีหลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อมูลคาดเคลื่อนได้
ส่วนผลการสำรวจก็พบว่า มีการใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงกฎระเบียบ แม้ข้อมูลจะไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้เล่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปีหรือไม่ แต่ก็พบพฤติกรรมการเล่นเกมที่เพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่มีการออกกฏ โดยพบผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เคยเล่นน้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็กลายเป็นเล่น 4 ชั่วโมง ใน 6 วันต่อสัปดาห์
จากผลลัพท์นี้เอง ทางนักวิจัยก็ได้ระบุเลยว่า นโยบายคุมเข้มนี้ อาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ตามที่ทางการหวังได้เลย และอาจส่งผลตรงกันข้ามในยิ่งกว่านี้ด้วย
ที่มา : Techspot