ต้องยอมรับว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังพลิกโฉมวงการเทคโนโลยีอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านคนภายในเวลาเพียงสองเดือน ทำบริษัททั่วโลกต่าง นำ AI ไปใช้ในงานต่างๆ อย่างรวดเร็ว รวมถึงในด้านการแพทย์ด้วย
คนไข้เสมือน : ล่าสุด เมื่อปลายปีที่ผ่านมา คณะแพทย์ศาสตร์และภาควิชาคอมพิวเตอร์วิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ได้สร้างแชทบอท AI ที่ทำหน้าที่เป็น “ผู้ป่วยเสมือนจริง” ช่วยให้นักศึกษาแพทย์ฝึกฝนทักษะและความสามารถในการซักประวัติคนไข้
โดยอาจารย์สามารถออกแบบผู้ป่วยเสมือนจริงขึ้นมาจากกรณีผ่าตัดจริง นักศึกษาสามารถพูดคุยกับผู้ป่วยที่มีอายุ บุคลิกภาพ และระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะไม่สามารถแทนที่การเรียนรู้การสัมพันธ์กับคนไข้จริง ๆ ได้ แต่ก็เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์
ที่ปรึกษาหมอ : จีนกำลังทดสอบแชทบอท AI สำหรับใช้โดยศัลยแพทย์ประสาทวิทย์ในโรงพยาบาลหลายแห่งที่กรุงปักกิ่ง แชทบอทนี้มีชื่อว่า CARES Copilot 1.0 สามารถตอบคำถามแพทย์พร้อมอ้างอิงแหล่งข้อมู]จากเอกสารวิชาการกว่าหนึ่งล้านเล่ม
นอกจากนี้ ยังสามารถประมวลผลข้อมูลการวินิจฉัยได้อีกด้วย นักวิจัยหวังว่า AI จะมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นในอนาคต เช่น ช่วยเตือนแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงจากการทำหัตถการที่อันตรายเกินไป
นอกจากนี้ หน่วยงานวิจัยจากฮ่องกงภายใต้สถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้เปิดตัวโมเดล AI ใหม่โดยใช้พื้นฐานจากโมเดล Llama 2.0 ของ Meta โดยใช้หน่วยประมวลผลกราฟิกส์ (GPU) ประมาณ 100 ตัวจาก Nvidia ในการฝึกแชทบอท AI เพื่อใช้สำหรับการดูแลสุขภาพ
หากเทียบกับโรงพยาบาลในไทย เราก็ไม่ได้น้อยหน้านะ โดยก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลศิริราช ได้พัฒนาการแพทย์รักษาผู้ป่วยด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อใช้ในการอ่านภาพเอกซเรย์และรายงานผลทางการแพทย์ พร้อมทั้งร่วมมือกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ ในการพัฒนา AI เฉพาะในการรักษาโรคนั้น ๆ แต่เรายังไม่ได้ Advance ขนาดนี้ใช้ AI ที่ปรึกษาของแพทย์ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า มันยังมีข้อที่กังวลอยู่ครับA
อย่างไรก็ตาม รอติดตามกันต่อไปว่า AI ที่ใช้สำหรับการแพทย์จะไปถึงขั้นไหน ซึ่งปัจจุบัน มันอาจช่วยลดภาระบางอย่างของแพทย์ลงไปได้ แต่ก็เชื่อว่า มันอาจจะยังไม่สามารถแทนที่แพทย์จริง ๆ ได้ครับ
ที่มา
https://themilsource.com/2024/03/11/chinas-ai-chatbot-could-revolutionize-the-health-care-industry