***อัปเดต 11/04/68 ทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 125% เป็น 145% แล้ว***
[นิวเคลียร์ภาษี] แม้จะมีข่าวดีว่า ‘ทรัมป์’ หรือประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก (75 ประเทศ) โดยยืดเวลาออกไป 90 วันสำหรับเจรจา แต่ไม่ใช่สำหรับประเทศจีน หลังล่าสุดได้ปรับขึ้นภาษีจีนเพิ่มเป็น 125% เชื่อกระทบตลาดไอทีอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าไอทีรายสำคัญของโลก
ย้อนไปก่อนหน้านี้ Apple มีมูลค่าตลาดลดลงถึง 20% ภายในเวลาไม่กี่วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก และยังทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องสูญเสียมูลค่าตลาดไปเป็นจำนวนมาก
ที่ผ่านมาโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนให้ Apple ย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังสหรัฐฯ เพื่อลดการพึ่งพาจีน แต่หลายฝ่ายมองว่า “แทบเป็นไปไม่ได้” หรือหากเป็นไปได้ ก็อาจทำให้ iPhone มีราคาพุ่งขึ้นอย่างมากแน่นอน เนื่องจากจีนมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า หากเทียบกับการตั้งฐานผลิตในสหรัฐฯ
กลับมาปัจจุบัน แม้จะไม่ได้ย้ายฐานการผลิต แต่ราคา iPhone อาจพุ่งขึ้นอยู่ดี เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขึ้นภาษีจีนจากเดิม 104% เป็น 125% แล้ว และประกาศเริ่มใช้ทันที หลังจีนมีการตอบโต้ต่อมาตรการดังกล่าว สร้างความปั่นป่วนทั้งในและนอกประเทศของสหรัฐฯ
จากเหตุขึ้นภาษีจีน ก็ทำให้มีลูกค้าแห่กันไปที่ Apple Store เพราะกลัวว่าราคาจะขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ส่วน Apple มีแผนนำเข้าสินค้าจากอินเดียแทน เป็นมาตรการระยะสั้น
นอกจาก Apple แล้ว ทางสำนักข่าว Bloomberg รายงานด้วยว่า สินค้าไอทีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แบตเตอรี่ และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอื่น ๆ ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ได้ประกอบอุปกรณ์ในจีน แต่ก็ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่ดำเนินการผ่านจีนและประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศอยู่ดี
การขึ้นภาษีในจีน ยังส่งผลให้ Nintendo ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวเครื่องเล่นเกมใหม่อย่าง Nintendo Switch 2 ก็ต้องเลื่อนการสั่งซื้อล่วงหน้าออกไป และมีรายงานด้วยว่า Nintendo กำลังย้ายฐานการผลิตออกจากจีนกันเลย แม้จะเป็นเรื่องยากก็ตาม
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้น และนอกจากตลาดไอทีแล้ว ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคาและความพร้อมจำหน่ายของสินค้าอื่น ๆ จำนวนมากด้วย
ที่มา : Techspot