ย้อนกลับไปในปี 2014 Project Natick ของ Microsoft ได้เริ่มทดลองวางศูนย์ข้อมูลใต้น้ำ ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานในด้านการจัดการความร้อน แถมยังประหยัดพื้นไปได้อีกด้วย
นับตั้งแต่นั้นมา เทรนด์การวางศูนย์ข้อมูลก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ตามรายงานของ China Central Television (CCTV) จีนเริ่มได้เริ่มวางศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์ แห่งแรกของโลก นอกชายฝั่งซานย่า เมืองชายฝั่งทางใต้ของเกาะไหหลำ
จากข้อมูลของ CCTV หน่วยจัดเก็บข้อมูลแต่ละหน่วยสามารถประมวลผลภาพความละเอียดสูงมากกว่าสี่ล้านภาพใน 30 วินาที ซึ่งอาจเทียบได้กับคอมพิวเตอร์ปกติประมาณ 60,000 เครื่องที่ทำงานพร้อมกัน โดยจีนมีแผนจะสร้างขึ้นทั้งหมด 100 หน่วย ซึ่งจะมีพลังประมวลผลเทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์มากถึง 6 ล้านเครื่อง
ศูนย์ข้อมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มีขนาดมหึมา โดยมีขนาดถึง 68,000 ตารางเมตรหรือสนามฟุตบอลเกือบสิบสนาม แต่หากนำไปไว้ในน้ำ ข้อ พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากก้นทะเลที่กว้างขวางวางศูนย์ข้อมูลได้
ในเรื่องของการประหยัดไฟ พวกเขาสามารถประหยัดไฟได้มากถึง 122 ล้าน kWh และประหยัดน้ำจืดที่จะใช้ในการหล่อเย็นได้มากถึง 105,000 ตันต่อปี โดยจะใช้ประโยชน์จากน้ำทะเลที่เย็นจัด เพื่อระบายความร้อนตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม แม้จะประหยัดพลังงาน แต่เรื่องนี้ก็สร้างความกังวลเช่นกัน เพราะหากเมื่อมีการวางศูนย์ข้อมูลใต้น้ำมากขึ้น มากจนมันไปเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิใต้น้ำ อาจทำให้เกิดความผันผวนในทะเลได้ ซึ่งต้องมานั่งวิเคราะห์หาจุดตรงกลางที่จะไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงในทะเลมากจนเกินไปครับ
ที่มา
tomshardware