เรื่องราวสุดช็อกเกิดขึ้นกับชายชาวนอร์เวย์คนหนึ่ง เมื่อเขาบังเอิญไปเจอข้อมูลใน ChatGPT ที่กล่าวหาเขาอย่างร้ายแรงว่า เป็นฆาตกรฆ่าลูกของตัวเอง
ตามรายงานจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิทางดิจิทัลในสหภาพยุโรป (Noyb) ที่ได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ระบุว่า อาร์เว ฮจาลมาร์ โฮลเมน ที่ได้ลองค้นหาชื่อตัวเองใน ChatGPT ดู และต้องตกใจ เมื่อผลลัพธ์ที่ออกบอกว่า เขาถูกตัดสินจำคุกถึง 21 ปี ในฐานะอาชญากรที่ถูกตัดสินว่าฆ่าลูกสองคน และพยายามฆ่าลูกชายอีกคน
สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือเรื่องสยองขวัญที่กุขึ้นมาของ ChatGPT ไม่เพียงแต่สร้างเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงเท่านั้น แต่ยังนำข้อมูลส่วนตัวที่ระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน เช่น จำนวนและเพศของลูกๆ ของโฮลเมน รวมถึงชื่อเมืองที่เขาอาศัยอยู่ มาปะปนกับข้อมูลเท็จเหล่านั้นด้วย
Noyb ชี้ว่า สิ่งนี้เป็นกาละเมิดข้อกำหนดเรื่องความถูกต้องของข้อมูลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) เนื่องจากโฮลเมนไม่สามารถแก้ไขข้อมูลเหล่านี้ได้โดยง่าย ตามที่ GDPR กำหนด
ในมุมมองของโฮลเมนเอง ตราบใดที่ข้อมูลเท็จนี้ยังคงอยู่ในระบบ ชื่อของเขาก็ตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ว่า ChatGPT จะมีคำเตือนเล็กๆ ว่าให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับ แต่ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่ได้เห็นเรื่องราวปลอมๆ นี้ไปแล้ว และอาจเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงก็นะ
ล่าสุด ChatGPT ไม่มีข้อมูลดังกล่าวแล้วจากการอัปเดตล่าสุด แต่คำถามอื่น มันมีเคสอื่นอีกไหม ทำไมอยู่ AI ต้องเอาข้อมูลมาปะปนกันมั่ว สร้างเรื่องปลอม ๆ ขึ้น และสามารถเล่าได้เป็นฉาก ๆ เลย….
และไม่ใช่แค่เขานะ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเคสลักษณะนี้เกิดขึ้นคือ
– นายกเทศมนตรีชาวออสเตรเลีย ขู่ว่าจะฟ้องร้อง OpenAI หลังจากที่ ChatGPT กล่าวหาเขาอย่างผิดๆ ว่าเคยติดคุก
– ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย ถูก ChatGPT เชื่อมโยงกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศปลอมๆ
– พิธีกรรายการวิทยุแห่งหนึ่ง ฟ้องร้อง OpenAI จากกรณีที่ ChatGPT สร้างข้อมูลกล่าวหาเขาเรื่องการยักยอกเงินปลอมๆ
ส่วนตัวมองว่า นี่อาจเป็นเป็นความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามใส่ข้อมูลเท็จ ๆ เข้าไป เพื่อสร้างเรื่องเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น โดยหวังที่จะกลั่นแกล้ง ซึ่ง OpenAI เอง ก็ควรจะมีหน้าที่ตรวจสอบแหละนะ
