บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ สแนปบริดจ์ (SnapBridge) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อดีไวซ์แบบต่อเนื่องด้วยมาตรฐานบลูทูธ แบบพลังงานต่ำ ในงาน CES 2016 โดยสแนปบริดจ์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ แห่งอนาคตจากนิคอน
ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ สแนปบริดจ์ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพของนิคอน ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ให้ช่างภาพทุกคนได้เข้าถึงบริการออนไลน์เพื่อความสะดวกสบายแบบครบครัน ทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงทิศทางของ นิคอนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย มีศักยภาพในการยกระดับให้กล้องถ่ายรูปกลายเป็นอีกหนึ่ง “สมาร์ท ดีไวซ์” ในโลกดิจิตอล
ทั้งนี้ การเชื่อมต่อระบบ สแนปบริดจ์ จะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานในกล้องนิคอนแทบทุกรุ่นที่จะเปิดตัวออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
“มุมมองการถ่ายภาพเป็นสื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายทอดเรื่องราว ข้อเท็จจริง หรือแนวคิดให้ผู้อื่นได้รับรู้ ดังนั้น กล้องถ่ายรูป จึงมีหน้าที่ในการสื่อสารหรือเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ในโลกรอบตัวเรา เพื่อให้สามารถแบ่งปันภาพถ่ายเหล่านั้นให้ผู้อื่นได้รับชมได้ทันที สแนปบริดจ์จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการในส่วนนี้ ให้กล้องของคุณเชื่อมต่อกับดีไวซ์อื่นๆ ได้อย่างราบรื่น สะดวกสบาย และสามารถเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายได้แบบเรียลไทม์” มร.ฮิโรชิ โอเซกิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “กล่าวได้ว่าสแนปบริดจ์เป็นก้าวแรกสู่การสร้างสรรค์ภาษากลางระดับสากลที่เชื่อมทุกคนในโลกของการถ่ายภาพให้เข้าถึงกันได้”
ด้วยเทคโนโลยีบลูทูธแบบพลังงานต่ำ สแนปบริดจ์จะช่วยให้คุณสามารถส่งภาพจากกล้องไปยังดีไวซ์อื่นได้ทันทีที่กดชัตเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดฟังก์ชั่นการถ่ายโอนรูปของตัวกล้องแต่อย่างใด ช่วยประหยัดพลังงานในการรับส่งข้อมูลสำหรับอุปกรณ์ทุกตัว สำหรับด้านผู้ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้น ก็สามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเช็คอีเมลหรือติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ทางโซเชียลมีเดียได้ แม้ในขณะรับส่งภาพถ่ายจากกล้อง
แอพพลิเคชั่น สแนปบริดจ์ พร้อมแล้วที่จะเชื่อมต่อกล้องนิคอนของคุณเข้ากับดีไวซ์อัจฉริยะบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS และแอนดรอยด์ TM โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทันทีทาง AppStoreSM และ GooglePlay TM
คุณสมบัติเด่นของแอพพลิเคชั่น สแนปบริดจ์
• ตั้งค่าใช้งานง่าย ก่อนจับคู่กับดีไวซ์ของคุณ
กล้องนิคอนที่รองรับฟังก์ชั่นสแนปบริดจ์จะสามารถเชื่อมต่อกับดีไวซ์อื่น ที่มีแอพพลิเคชั่นสแนปบริดจ์ติดตั้งไว้ โดยทำการตั้งค่าก่อนการเชื่อมต่อครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงไม่วุ่นวายหรือเสียเวลาเหมือนการส่งภาพผ่านไวไฟในแบบเก่า ซึ่งต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง นอกจากนี้ สแนปบริดจ์ไม่ต้องใช้ชื่อเครือข่ายหรือรหัสผ่านใด ๆ และยังสามารถจับคู่กล้องได้กับดีไวซ์สูงสุดถึงห้าเครื่อง
• อัพเดทข้อมูลสถานที่และเวลาแบบอัตโนมัติ
เมื่อคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศ สแนปบริดจ์จะตั้งค่าสถานที่และเวลาตามสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณทันที คุณจึงสามารถกดชัตเตอร์ถ่ายภาพได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าไฟล์ภาพจะมีพิกัดสถานที่หรือเวลาที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง
• ส่งภาพได้อย่างราบรื่น แม้ขณะกำลังถ่าย
คุณสามารถตั้งค่าให้สแนปบริดจ์ส่งภาพโดยอัตโนมัติขณะถ่าย หรือส่งภาพทันทีที่ถ่ายเสร็จได้ตามต้องการ โดยตัวกล้องจะเลือกสลับระหว่างบลูทูธโหมดปกติและโหมดพลังงานต่ำโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เต็มประสิทธิภาพแม้ขณะปิดกล้องไว้ ผู้ใช้สามารถเลือกส่งภาพได้ 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ ขนาด 2 ล้านพิกเซล (ระดับ Full HD) ในฟอร์แมท JPEG หรือเลือกส่งไฟล์ภาพ JPEG ต้นฉบับที่บันทึกได้ด้วยเช่นกัน
• ฝังข้อมูลเครดิตภาพในตัว
แอพพลิเคชั่นสแนปบริดจ์สามารถใส่ข้อมูลเครดิตภาพลงในไฟล์ภาพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทั้งข้อมูลด้านลิขสิทธิ์และข้อมูลค่าการบันทึกภาพ, ข้อความประกอบ และโลโก้ เพื่อปกป้องสิทธิในผลงานของคุณ
• อิสระกว่าที่เคย ด้วยฟังก์ชั่น รีโมท คอนโทรล ขณะถ่ายภาพ
ฟังก์ชั่นถ่ายภาพระยะไกล ของแอพสแนปบริดจ์ช่วยให้คุณสามารถเช็คภาพที่ผ่านมายังเลนส์กล้องได้ทางหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก่อนที่จะกดชัตเตอร์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ ตัวแอพพลิเคชั่นยังสามารถควบคุมฟังก์ชั่นการซูมและตั้งเวลาของกล้องได้ จึงช่วยให้คุณมีอิสระในการถ่ายภาพมากกว่าที่เคย
• แชร์รูปสู่โลกโซเชียลได้ทันที พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล นิคอน อิมเมจ สเปซ
คุณสามารถแชร์ภาพถ่ายขึ้นสู่โซเชียลมีเดียอย่างง่ายดายด้วยแอพพลิเคชั่นสแนปบริดจ์ นอกจากนี้ หากคุณได้ลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้กับนิคอนไว้แล้ว คุณก็จะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลแบบไม่จำกัดสำหรับภาพถ่ายขนาด 2 ล้านพิกเซลได้ ผ่านทางบริการ นิคอน อิมเมจ สเปซ โดยภาพถ่ายในขนาดดังกล่าวนั้น สามารถตั้งค่าให้อัพโหลดไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตและพื้นที่เก็บข้อมูลในบัญชี นิคอน อิมเมจ สเปซ ได้โดยอัตโนมัติในแอพสแนปบริดจ์
