อาจจะงงกันว่า CAT6 นั้นคืออะไร ในยุคที่ใครๆ ต่างเปลี่ยนไปใช้ระบบ Wireless กันเกือบหมดแล้ว และเราก็สนใจแต่มาตรฐานของ Wireless ที่เป็น g, n หรือ ac กันมากกว่า แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าสามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก สายแลนเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้มากที่สุด … ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงสายแลนกันอยู่
สายแลนที่เราใช้งานกันตามบ้านนั้น เรียกว่าสาย UTP ซึ่งจะมีมาตรฐานแบ่งตาม CAT (Categories) ซึ่งในยุคนี้เราคงจะได้เห็นแค่ CAT5 ขึ้นไป ส่วนถ้าเก่ากว่านี้อาจจะเหลือน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีแล้ว เพราะคุณสมบัติในการทำงานของสายแลนแต่ละรุ่น แต่ละ CAT นั้นจะมีความแตกต่างกัน เหมือนกับเวอร์ชัน หรือมาตรฐานของ Wireless นั้นแหละครับ ฉะนั้นจึงเป็นคำถามว่า แล้วเราควรจะเลือกซื้อสายแลนแบบไหนดี
CAT5e vs CAT6
เมื่อมาตรฐานมีความแตกต่างกัน แน่นอนว่ามันย่อมมีประสิทธิภาพ คุณภาพ และการใช้งานที่ต่างกันไปด้วย เราจะมาดูถึงความแตกต่างของมาตรฐานทั้ง 2 อย่างนี้กัน
CAT5e มาดูสายที่เรียกว่าเป็นมาตรฐานของตลาดในตอนนี้กันก่อน เพราะถ้าหาซื้อสายแลนตอนนี้ก็จะได้เป็น CAT5e นี้แหละ ราคาประมาณเมตรละ 10 บาท โดยได้รับการเพิ่มขีดความสามารถจากสาย CAT5 ธรรมดา ให้สามารถรองรับความเร็วระดับ Gigabit Ethernet ได้นั่นเอง
CAT6 เป็นสายแลนมาตรฐานใหม่ ซึ่งก็ออกมานานแล้วเหมือนกัน เพียงแค่ราคาที่สูงกว่า ทำให้ความนิยมในการใช้งานน้อยกว่า ยกเว้นว่าจะนำไปใช้งานในระดับมืออาชีพ เช่นเดินสายแลนในออฟฟิศ หรือในห้องเซิร์ฟเวอร์นั่นเอง ส่วนความสามารถนั้นรองรับ Gigabit Ethernet ได้อย่างสบายๆ และรองรับได้สูงสุดถึง 10Gb Ethernet ด้วยซ้ำ
สำหรับรายละเอียดการเปรียบเทียบนั้นอยู่ในตารางข้างล่างนี้แล้ว
จะเห็นว่าทั้ง CAT5e และ CAT6 นั้นจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือความถี่ของสัญญาณที่ใช้ส่ง ซึ่งมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2.5 เท่าตัว และนั่นทำให้ช่องสัญญาณที่กว้าง ช่วยให้ส่งข้อมูลได้เป็นปริมาณที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เสียเงินเปลี่ยนเลยดีไหม?
นี่อาจจะเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่า ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากถึง 10 เท่าแบบนี้ ในราคาที่ไม่ได้แพงขึ้นเกิน 2 เท่าเลยด้วยซ้ำ ควรจะซื้อมาเปลี่ยนเลยดีไหม
สำหรับผู้ใช้งานตามบ้านก่อนแล้วกัน ต้องคิดแบบนี้ว่า ที่บ้านใช้สายแลนเป็นหลักขนาดไหน ที่ใช้สายเพราะสะดวกในการเชื่อมต่อ เพื่อให้คุณภาพสัญญาณเสถียร ไม่หลุด หรือว่าต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลสูงๆ อย่างเห็นการทำ Home Media Server เพื่อสตรีมหนัง Full HD ขึ้นไปดูบนจอทีวี
ซึ่งถ้าคำตอบคือต้องการความเร็วในการทำงานสูงๆ CAT6 ดูจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เพราะสามารถวิ่งได้ถึง 10Gb และสามารถวิ่ง Gigabit ได้สบายอยู่แล้ว แต่สวิตซ์หรือเราเตอร์ที่เชื่อมต่อก็ต้องรองรับ Gigabit ด้วยนะ ไม่งั้นก็ไร้ความหมาย
และเนื่องจากการใช้งานในบ้านไม่ได้มีสายจำนวนมาก อย่างดีก็แค่ 4-5 เส้นเป็นหลัก ที่เหลือใช้ WiFi ดังนั้นค่าใช้จ่ายคงไม่ได้เยอะในการเปลี่ยนจาก CAT5 มาเป็น CAT6
แต่ถ้าคำตอบนั้นไม่ได้ต้องการความเร็วแบบสุดๆ หรือที่บ้านเราเตอร์เป็นแค่แลน 10/100Mbps ทั่วไป ก็ใช้แค่ CAT5e ก็พอ เพราะความเร็วที่เราใช้ส่วนใหญ่ก็คงอยู่ที่ระดับ 100-500Mbps ซึ่งสาย CAT5e รองรับได้อยู่แล้ว หรือแม้แต่ Gigabit ก็ยังรับได้ แม้ว่าจะไม่เต็มที่ก็ตาม ยิ่งถ้าใช้เล่นเน็ตแล้ว เผลอๆ ใช้สายแลนที่รองรับความเร็ว 100Mbps อย่าง CAT5 มาก็ยังใช้งานได้สบายๆ เลย
ส่วนผู้ใช้ในองค์กรบริษัทต่างๆ การเดินสายในออฟฟิศเองถ้าเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายไม่มากจนเกินรับได้ ก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็น CAT6 ไปเลยดีกว่า แต่ถ้าสำหรับคอมพ์หรือห้องเซิร์ฟเวอร์ (Data Center) ที่มีสายแลนเต็มไปหมด ถ้าที่ใช้อยู่คือ CAT5e อยู่แล้ว ก็ใช้ไปก่อนได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อสายใหม่มาลง รวมกับความยุ่งยากที่ต้องรื้อสายออกมาหมด ก็คงไม่คุ้มเท่าไหร่นะครับ