แคนนอนเปิดตัวกล้อง DSLR รุ่น Canon EOS 80D พร้อมเลนส์นาโนตัวใหม่ล่าสุด EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS USM (Nano) ที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ล่าสุด Power Zoom Adapter PZ-E1 โดยกล้อง EOS 80D มาพร้อมฟีเจอร์เด่น เช่น ระบบออโต้โฟกัสแบบ cross type ทั้งหมด 45 จุด ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6 ที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล และค่า ISO ที่ขยายได้ถึง ISO 25600
นาย วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “หลังจากความสำเร็จของ EOS 70D แคนนอนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของกล้องถ่ายภาพ โดยกล้อง Canon EOS 80D จะช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถสร้างสรรค์แนวทางการถ่ายภาพใหม่ๆ รวมทั้งตอบสนองความต้องการของผู้รักการถ่ายภาพที่อยากพัฒนาทักษะการถ่ายภาพไปอีกระดับ ด้วยเลนส์รุ่นใหม่และฟีเจอร์ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม EOS 80D พร้อมให้ภาพที่มีความคมชัดและคุณภาพสูงในทุกๆ เฟรม”
ระบบออโต้โฟกัสใหม่ ความแม่นยำสูง&ควบคุมสะดวกยิ่งขึ้น
Canon EOS 80D มีระบบออโต้โฟกัส 45 จุด ทั้งหมดเป็นแบบ cross-type แม้ที่ขนาดรูรับแสง f/8 ยังสามารถออโต้โฟกัสแบบ cross-type ได้ 27 จุด นับเป็นก้าวกระโดดจากรุ่นก่อนหน้าคือ EOS
70D ที่มีระบบออโต้โฟกัสแบบ cross-type 19 จุด ยิ่งไปกว่านั้น ขอบเขตการโฟกัสยังกว้างกว่ารุ่นก่อนทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพิ่มความแม่นยำในการติดตามจับภาพสิ่งที่เคลื่อนไหว และสามารถโฟกัสบริเวณกลางภาพได้ที่ค่าความสว่างต่ำสุดถึง EV-3 ผู้ใช้จึงมั่นใจได้เมื่อใช้งานในสภาพแสงน้อย ระบบออโต้โฟกัส 45 จุดช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้นในการจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวแบบคาดเดาไม่ได้ โดยสามารถเลือกเปลี่ยนไปมาระหว่างการโฟกัสที่จุดเดียว โฟกัสบริเวณกว้าง และโฟกัสอัตโนมัติ 45 จุด
Canon EOS 80D เป็นรุ่นแรกๆ ในบรรดากล้อง DSLR ระดับกลางของแคนนอนที่มาพร้อมช่องมองภาพอัจฉริยะที่ครอบคลุมพื้นที่ในภาพ 100% ทั้งยังแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น พื้นที่โฟกัส สัดส่วนของภาพ มาตรวัดระนาบภาพ การกะพริบของแสง ให้ผู้ใช้เห็นได้ชัดเจน เมื่อเห็นขอบเขตของภาพที่จะถ่ายได้ทั้งหมด ผู้ใช้จึงสามารถจดจ่อกับการจัดองค์ประกอบภาพโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีสิ่งแปลกปลอมติดเข้ามาตรงขอบภาพโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับกล้อง DSLR ที่ช่องมองภาพครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า
ระบบออโต้โฟกัสอันล้ำหน้าและกลไกควบคุมกระจกสะท้อนภาพแบบใหม่ช่วยลดการสั่นไหวของตัวกระจกและเสียงของชัตเตอร์ จึงสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 7 ภาพต่อวินาทีได้อย่างรวดเร็วและเงียบยิ่งขึ้น คุณสมบัตินี้ทำให้ EOS 80D เป็นกล้องที่เหมาะเจาะสำหรับการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาหรือสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบ เช่น ระหว่างการแสดงละครเวที
คุณภาพขั้นสุดยอดของภาพถ่ายมาพร้อมระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Canon EOS 80D มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าเดิม ด้วยเซนเซอร์ CMOS รุ่นใหม่ ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพความละเอียดสูงพร้อมรายละเอียดคมชัด ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6 ที่รวดเร็ว และการตั้งค่า ISO ได้สูงถึง ISO 16,000 (ขยายได้ถึง 25,600 และขยายสูงสุดได้ที่ 12,800 ในโหมดถ่ายวิดีโอ) ผู้ใช้จึงได้ภาพคุณภาพสูงไม่ว่าจะใช้ในการถ่ายภาพตอนกลางคืน ภาพสัตว์ป่า กีฬา ถ่ายในอาคารโดยไม่ใช้แฟลช และอื่นๆ
กล้องรุ่นนี้ยังมีระบบวิเคราะห์ซีนภาพรุ่นใหม่ที่สามารถวิเคราะห์ AF, Auto white Balance และ Auto Exposure เพื่อจัดประเภทของภาพที่จะถ่ายและปรับตั้งค่าระบบต่างๆ ให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ เซนเซอร์วัดแสง RGB + IR ความละเอียด 7,560 พิกเซล ของ EOS Scene Analysis สามารถตรวจจับการกะพริบของคลื่นแสงความถี่สูงที่ตามองไม่เห็น และผู้ใช้สามารถเปิดโหมด Anti-flicker สำหรับการถ่ายภาพในอาคารโดยใช้แสงจากหลอดไฟ เพื่อลดปัญหาแสงในภาพไม่สม่ำเสมอและสีเพี้ยนได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะ Colour Tracking AF ที่ค้นหาจุดโฟกัสด้วยการตรวจจับสีผิว และทำการโฟกัสโดยเน้นที่คนในรูป ช่วยเพิ่มความแม่นยำของ auto exposure และทำให้สีหน้าอารมณ์ของคนในภาพดูเด่นขึ้นมา เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพอร์เทรต
ถ่ายวิดีโอคุณภาพเยี่ยมด้วย EOS Movie
ด้วยเทคโนโลยีด้านภาพอันล้ำสมัยของของแคนนอน การถ่ายวิดีโอ Full HD 60p ที่คมชัดและเปี่ยมด้วยอารมณ์จึงเป็นเรื่องง่ายอย่างไม่น่าเชื่อด้วยกล้อง Canon EOS 80D ที่มีระบบ Dual Pixel CMOS AF แบบเดียวกับในกล้อง DSLR เรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Canon EOS 1DX Mark II ช่วยในการเปลี่ยนระยะโฟกัสจากด้านหน้าไปยังฉากหลังของภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยการแตะบนหน้าจอแอลซีดีที่ปรับหมุนได้หลายทิศทาง อีกทั้งมีฟังก์ชั่น Movie Servo AF Custom Speed ช่วยในการติดตามโฟกัสด้วยความเร็วที่ปรับได้ถึง 10 ระดับ ผู้ใช้จึงสามารถสร้างสรรค์งานวิดีโอที่มีคุณภาพระดับภาพยนตร์
สำหรับการถ่ายวิดีโอในสภาพแสงไม่คงที่ Canon EOS 80D มีฟีเจอร์ HDR ที่ช่วยในการถ่ายภาพที่มีความแตกต่างของแสงมากๆ โดยยังคงรักษารายละเอียดของภาพไว้ได้แม้ถ่ายแบบ Full HD ด้วยการถ่ายภาพแต่ละเฟรมทั้งแบบ standard exposure และแบบ underexposed ที่ช่วยคงรายละเอียด
ของภาพเอาไว้ แล้วนำเฟรมทั้งสองแบบมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นภาพวิดีโอที่มีสภาพแสงเหมาะสมที่สุดและมีความคมชัดเป็นเยี่ยม
อีกทั้งยังมี Creative Filters เพื่อสร้างลุคใหม่ให้กับภาพวิดีโอได้หลายแบบ เช่น Dream, Memory, Miniature, Old Movies และ Dramatic B&W ให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการทดลองสร้างสรรค์วิดีโอแล้วแชร์ให้เพื่อนๆ และครอบครัวผ่านหลากหลายช่องทางเชื่อมต่อ เช่น Wi-Fi, NFC, Canon iMAGE GATEWAY (CiG) และ Canon Camera Connect
เลนส์ซูมรุ่นใหม่ Nano Ultrasonic และอุปกรณ์เสริมออกแบบมาเอาใจช่างภาพยุคใหม่
ทั้งนี้ Canon EOS 80D มาพร้อมเลนส์รุ่นใหม่ คือ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS USM (Nano) และอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โดยเลนส์รุ่นใหม่นี้มีระยะซูมที่หลากหลายและใช้มอเตอร์ Nano ultrasonic (USM) เพื่อการโฟกัสที่ฉับไว เงียบเชียบ และราบรื่นทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ เมื่อใช้ร่วมกับ Power Zoom Adapter PZ-E1 ยิ่งทำให้การซูมเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ควบคุมความเร็วในการซูมได้ถึง 10 ระดับด้วยปุ่มปรับความเร็ว ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือกับจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi บนตัวกล้อง เพื่อควบคุมการซูมจากระยะไกลได้ถึง 15 ระดับ ผ่านแอปพลิเคชั่น Canon Camera Connect
อุปกรณ์เสริมที่เปิดตัวพร้อมกัน คือ Directional Stereo Microphone DM-E1 ใช้ในการรับเสียงระหว่างการถ่ายวิดีโอให้มีคุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น สามารถใช้ร่วมกับ EOS 80D และกล้องตระกูล EOS ทุกรุ่นที่มีฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอและแจ็คเชื่อมต่อไมโครโฟนภายนอก
Canon EOS 80D พร้อมชุดคิท และเลนส์ EF-S 18-135mm f/3.5-5.6 IS USM (Nano) มีจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้ ในราคา ดังนี้ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.th
– EOS 80D body 43,190 บาท
– EOS 80D w/18-55 STM 48,290 บาท
– EOS 80D w/18-135 IS USM 58,590 บาท
– EOS 80D w/18-200 IS 59,590 บาท
– EF-S 18-135mm f/3.5-5.6 IS USM (Nano) 22,990 บาท