แคนนอน ประกาศความภูมิใจกับ 6 ผลิตภัณฑ์ที่คว้ารางวัล TIPA World Awards ประจำปี 2018 โดยสมาคมของนิตยสารด้านการถ่ายภาพ 30 ฉบับจาก 15 ประเทศทั่วโลก เพื่อคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ด้านการถ่ายภาพที่มีคุณภาพและความโดดเด่นในแต่ละปี
แคนนอน ผู้นำด้านเทคโนโลยีกล้องดิจิทัลและอิมเมจจิ้งระดับโลก ประกาศความภูมิใจกับ 6 ผลิตภัณฑ์ที่คว้ารางวัล TIPA World Awards ประจำปี 2018 โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลประกอบด้วยกล้องดิจิตอล 4 รุ่น ได้แก่ EOS 200D, EOS 6D Mark II, EOS M50 และ Powershot G1X Mark III รวมถึงเลนส์ EF85 f/1.4L IS USM และแฟลช Speed lite 470EX-AI
รางวัล TIPA World Awards 2018 มอบโดย Technical Image Press Association (TIPA) ) ซึ่งเป็นสมาคมของนิตยสารด้านการถ่ายภาพ 30 ฉบับจาก 15 ประเทศทั่วโลก เพื่อคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ด้านการถ่ายภาพที่มีคุณภาพและความโดดเด่นในแต่ละปี โดยปีนี้ แคนนอนได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
1. Canon EOS 200D ได้รางวัล “กล้องดีเอสแอลอาร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด” (Best DSLR Enthusiast) กล้องดีเอสแอลอาร์ขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบา เพียง 402กรัม* มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดทั้ง Dual Pixel CMOS AF เซ็นเซอร์ APS-C CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล และชิปประมวลผลภาพ DIGIC 7 รองรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพระดับ Full HD 60p อัดแน่นด้วยฟีเจอร์และลูกเล่นมากมาย รองรับ Wi-Fi และ NFC ในตัวกล้อง เพื่อความสะดวกในการย้ายไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอจากกล้องไปยังอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ รวมถึงการแชร์ภาพในโซเชียลมีเดีย
2. Canon EOS 6D Mark II ได้รางวัล “กล้องดีเอสแอลอาร์แบบฟูลเฟรมระดับมืออาชีพยอดเยี่ยม” (Best Full-Frame DSLR Expert) กล้องฟูลเฟรมพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ความสามารถเหนือชั้น คล่องตัวด้วยจอ LCD ทัชสกรีนปรับหมุนได้ โฟกัสฉับไวด้วยระบบออโต้โฟกัส 45 จุด เซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ภาพคมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 7 ที่ให้ภาพคุณภาพสูง ความละเอียดสูงสุด 26.2 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 6.5 ภาพต่อวินาที รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD ความเร็ว 60p มีระบบป้องกันการสั่นไหวของภาพแบบ 5 แกน มีระบบ Wi-Fi และ NFC ในตัวกล้อง สามารถโอนไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอจากกล้องไปยังอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ แล้วอัพโหลดไปยัง Canon Image Gateway หรือแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว
3. Canon EOS M50 ได้รางวัล “กล้องมิเรอร์เลสที่ได้รับความนิยมสูงสุด” (Best Mirrorless CSC Enthusiast ) กล้องมิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับคนรักการถ่ายภาพหรือผู้เริ่มต้นที่ต้องการกล้องที่ฉลาด ด้วยเซ็นเซอร์ CMOS (APS-C) ให้ภาพถ่ายคมชัดความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซล และวิดีโอคุณภาพความคมชัดสูงระดับ 4K โฟกัสแม่นยำไม่สะดุดด้วยเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF และระบบป้องกันภาพสั่นไหว 7 แกน (ในตัวกล้อง 5 แกน ผสานการทำงานคู่กับในตัวเลนส์ 2 แกน) พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ แบบ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านจุด ในตัว ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 10 ภาพต่อวินาที มีระบบ Touch and Drag AF ให้สามารถเลือกตำแหน่งโฟกัสโดย touch ที่หน้าจอแอลซีดีได้โดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ โดดเด่นทันสมัยเอาใจคนยุคใหม่ด้วยฟังก์ชั่น Wi-fi โอนภาพไปยังสมาร์ทโฟนอัตโนมัติทันทีที่ถ่ายภาพ (ผ่านแอป Canon Camera Connect) หรือสามารถเลือกแชร์ภาพไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คได้โดยตรงจากตัวกล้อง
4. Canon PowerShot G1X Mark III ได้รางวัล “กล้องคอมแพคท์ระดับมืออาชีพยอดเยี่ยม” (Best Professional Compact Camera) กล้องคอมแพคท์ขนาดกะทัดรัดทนทาน มีระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF และเซ็นเซอร์ APS-C CMOS ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เทียบเท่ากล้องดีเอสแอลอาร์ ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล พร้อมชิปประมวลผลภาพ DIGIC 7 ฟังก์ชันถ่ายวิดีโอ Full HD 60p สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอขณะเคลื่อนไหวได้ง่ายด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว Dual Sensing IS 5 แกน มีฟังก์ชัน Touch & Drag AF ใช้ในการเลื่อนจุดโฟกัสผ่านหน้าจอทัชสกรีนได้ในขณะมองช่องมองภาพ เพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพ ตอบโจทย์การใช้งานทั้งผู้ใช้งานมือใหม่ และนักถ่ายภาพแบบจริงจัง
5. Canon EF85 f/1.4L IS USM ได้รางวัล “เลนส์ไพรม์สำหรับกล้องดีเอสแอลอาร์ยอดเยี่ยม” (Best DSLR Prime Lens) เลนส์ทางยาวโฟกัส 85 มม.ที่มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (IS) สูงสุดถึง 4 สต็อป รูรับแสงแบบกลมพร้อมม่านรูรับแสง 9 กลีบ มีรูรับแสงขนาดใหญ่ถึง f/1.4 ช่วยให้ถ่ายภาพชัดตื้นได้ดี และมอเตอร์ USM ที่ทำงานเงียบสนิท เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพมืออาชีพและสมัครเล่นที่ต้องการถ่ายภาพให้มีคุณภาพสูง โฟกัสเฉียบคม และมีโบเก้สวยงาม มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาและสะดวกสบายในการใช้งาน
6. Canon Speedlite 470EX-AI ได้รางวัล “นวัตกรรมด้านการถ่ายภาพยอดเยี่ยม” (Best Photo Innovation) แฟลชรุ่นแรกของโลกที่มีเทคโนโลยี Auto-Intelligent bounce ทำให้การใช้งานแฟลชง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วย AI bounce แฟลชจะคำนวณระยะห่างจากวัตถุและเพดาน พร้อมปรับหมุนตัวมันเองเข้าสู่ตำแหน่งสำหรับการสะท้อนแสงแฟลชในองศาที่เหมาะสมที่สุดให้เองอัตโนมัติ