การ์ตูนโดราเอมอนถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1969 ผลงานของ ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ โดยโดราเอมอนเดินทางมาจากอนาคตในปี 2112 ซึ่งเป็นปีที่โดราเอมอนเกิด ไฮไลต์ของแต่ละตอนจะอยู่ที่โดราเอมอนจะหยิบของวิเศษอะไรจากกระเป๋า 4 มิติอะไรออกมาให้โนบิตะได้ใช้
ใครเป็นสาวกโดราเอมอนบ้างยกมือขึ้น… พี่มิ้งค์ขอยกมือเป็นคนแรกเลยครับ
การ์ตูนโดราเอมอนถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1969 ผลงานของ ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ โดยโดราเอมอนเดินทางมาจากอนาคตในปี 2112 ซึ่งเป็นปีที่โดราเอมอนเกิด ไฮไลต์ของแต่ละตอนจะอยู่ที่โดราเอมอนจะหยิบของวิเศษอะไรจากกระเป๋า 4 มิติอะไรออกมาให้โนบิตะได้ใช้
ว่ากันว่าของวิเศษในเรื่องโดราเอมอนนั้นมีประมาณ 4,500 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะปรากฏออกมาให้เห็นเพียงตอนเดียว แต่ก็ยังมีของวิเศษบางชิ้นที่โดราเอมอนหยิบออกจากกระเป๋านำมาใช้บ่อยครั้ง อย่างประตูที่ไปที่ไหนก็ได้ ผ้าคลุมกาลเวลา โดยของวิเศษจากโดราเอมอนทุกอย่างล้วนมาจากจินตนาการของ ฟูจิโกะ ฟูจิโอะทั้งสิ้น
ถ้านับอายุของการ์ตูนโดราเอมอนจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ปาไป 49 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นขวัญใจของเด็กมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ มีของวิเศษหลายชิ้น ที่ไม่ได้เป็นแค่จินตนาการในการ์ตูนอีกต่อไป แต่ด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ทำให้ของวิเศษเหล่านั้นกลายเป็นของวิเศษที่ใช้งานได้จริง
เรามาดูกันสิว่ามีของวิเศษชิ้นไหนบ้าง ที่มีอยู่จริงแล้วในปัจจุบัน
“นาฬิกาที่ถูกฉายโดยปืนรังสีเพิ่มลดวิวัฒนาการ” โดยเป็นตอนที่โดราเอมอนเอาปืนรังสีเพิ่มลดวิวัฒนาการไปฉายกับอุปกรณ์ในบ้านเพื่อทำให้มันกลายเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกฉายก็คือ “นาฬิกา” จากที่แค่ดูเวลาได้อย่างเดียว ก็สามารถดูหนังฟังเพลงและสื่อสาร ซึ่งเทียบกับปัจจุบันก็คือ Apple Watch นั่นเอง
“กล่องของชอบ” ที่ในโดราเอมอนไม่ได้เป็นแค่กล่องธรรมดา แต่เป็นกล่องที่สามารถใช้เป็นทีวีหรือเครื่องเล่นแผ่นเสียง ปัจจุบันก็คือ “แท็บแล็ต” ที่เราใช้ดูหนังฟังเพลงและอ่านอีบุ๊กไงครับ
“วุ้นแปลภาษา” เป็นของวิเศษที่พีมิ้งค์ชอบมากตอนเด็กๆ เพราะจะช่วยให้คนอ่อนภาษาอย่างพี่มิ้งค์สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างสบายๆ ปัจจุบันก็คือ Google Translate ที่ปัจจุบันเก่งกล้าสามารถขนาดแปลได้แม้จะเป็นภาพถ่าย หรือให้มันช่วยเปล่งเสียงให้กับเราก็ยังได้
“เครื่องฉายภาพสามมิติ” ไม่ต้องพูดเยอะครับอันนี้ เพราะชื่อก็บอกว่าใช้ภาพแบบสามมิติ ปัจจุบันก็มีทั้งเครื่องฉายสามมิติ และโปรเจ็กเตอร์สามมิติ
“หุ่นยนต์หมากรุก” ที่ในเรื่องเอาไว้เล่นหมากรุกเป็นเพื่อนโนบิตะ ซึ่งปัจจุบันถ้าติดตามข่าวกันเรื่อยๆ ก็คงเคยได้ยินว่ามีการสร้าง AI อัลฟาโกะ’ ที่เล่นหมากรุกเก่งขนาดที่โค่นเซียนโกะระดับโลกอย่าง ‘อี เซดอล’ 3-0 เกมมาแล้ว
”สถานีโทรทัศน์เคลื่อนที่” ในยุคนั้นการจะได้ออกทีวีนั้นไม่ใช่ใครก็ทำได้ แต่ด้วยของวิเศษก็ทำให้โนบิตะได้ออกทีวีกลายเป็นคนดังชั่วค้ามคืน ซึ่งปัจจุบันคนบ้านๆ อย่างเราก็สามารถออกทีวีได้ ผ่าน YouTube หรือ Facebook Live หลายคนก็ดังเป็นเน็ตไอดอลจากการไลฟ์สดๆ
“เครื่องพิมพ์สามมิติ” ที่โดราเอมอนช่วยเอามาสร้างเรือจำลองออกมาให้โนบิตะเอาไปอวดเพื่อนๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้ซื้อมาใช้ได้ในราคาทุกคนเอื้อมถึง
“แว่นสร้างภาพหลอน” ที่พอสวมใส่ก็จะเหมือนได้ไปอยู่อีกโลก สมัยนั้นแค่คิดก็สนุกอยากลิ้มรสความรู้สึกแบบนั้น ซึ่งปัจจุบันก็สนุกกันได้ผ่านแว่น VR หรือเทคโนโลยี AR (Augmented Reality)
“สติกเกอร์พรีเมี่ยม” เป็นของวิเศษที่มาช่วยแก้ปัญหาให้โนบิตะสามารถทำให้ของเก่าเก็บในบ้านอย่างโคมไฟกระดาษ ที่ไม่มีค่าในสายตาคนทั่วไป กลายเป็นของสะสมหายาก แน่นอนว่าซูเนโอะถึงกับนั่งไม่ติดเพราะโนบิตะมีของพรีเมี่ยมกว่าซึ่งปัจจุบันก็มีเครื่องพิมพ์ฉลาก P-Touch รุ่น PT-D200DR จากบราเดอร์ ที่เอาใจสาวก “โดราเอมอน” โดยมีไอคอนพิเศษของโดราเอมอนและผองเพื่อนให้เลือกมากถึง 34 แบบ กับอีก 22 กรอบสุดน่ารัก ใช้งานง่ายด้วยคีย์บอร์ด ที่รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
ฉลากเป็นลายโดราเอมอน มีคุณสมบัติกันน้ำ ทนความร้อน ติดแน่น ที่พอเอาไปแปะของใช้ต่างๆ ก็ช่วยทำให้ดูมีความพรีเมียมเลอค่าน่าสะสม และน่าร๊ากกกก จะเก็บไว้ใช้เองก็ดี หรือจะทำให้เป็นของขวัญคนที่คุณรักก็ได้นะ
พี่มิ้งค์เชื่อว่าเทคโนโลยีดีๆ ที่เราได้ใช้กันในปัจจุบัน ล้วนเกิดจากพลังของจินตนาการ ลองนึกดูว่านี่เพิ่งปี 2018 ยังเหลือเวลาตั้งอีก 94 ปีกว่าจะถึงปีที่โดราเอมอนมา ไม่แน่นะว่าถึงวันนั้นจริง โลกก็อาจมี AI เป็นแมวสีฟ้าไม่มีหูอย่าง “โดราเอมอน” มาช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็กๆ ก็เป็นได้ครับ
โดย พี่มิ้งค์ คอมทูเดย์