ผู้ช่วย AI ของ BOTNOI สามารถรองรับภาษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากกว่า 20 ภาษา ด้วยระดับความแม่นยำสูงถึง 95% ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้สามารถปรับปรุงคุณภาพการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้
ด้วยการใช้บริการคลาวด์ของ AWS ทำให้ BOTNOI สามารถพัฒนาผู้ช่วย AI รุ่นใหม่และนำออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ลูกค้ามากขึ้นถึง 300% และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการลงได้มากถึง 70%
AWS มีโปรแกรมเฉพาะสำหรับสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า AWS Activate ซึ่งช่วยให้ BOTNOI เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการมอบเครดิตสำหรับใช้บริการคลาวด์ ให้การสนับสนุนด้านเทคนิค และเปิดโอกาสให้ได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS เพื่อแปลงข้อความเป็นเสียงพูดและแปลงเสียงพูดเป็นข้อความ โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับภาษาและวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยข้อมูลภาษาที่ได้รับความยินยอมแล้ว ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
BOTNOI Voice เป็นเทคโนโลยีสร้างเสียงสนทนาเสมือนมนุษย์ที่สามารถสร้างเสียงพูดได้มากกว่า 200 เสียงจากกว่า 20 ภาษาทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ภาษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ภาษาไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว เมียนมา และกัมพูชา
BOTNOI ได้นำระบบผู้ช่วยเสมือนจริงไปใช้งานในองค์กรชั้นนำของไทยมากกว่า 70 แห่ง เช่น เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) โรงพยาบาลกรุงเทพ อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง (APFP) เป็นต้น โดยระบบผู้ช่วย AI เหล่านี้มีผู้ใช้งานจริงมากถึงกว่า 10 ล้านคน
ผู้ใช้ BOTNOI Voice ได้พัฒนาผู้ช่วย AI หลากหลายประเภท เช่น พยาบาล AI ที่ทำหน้าที่คัดกรองและลงทะเบียนผู้ป่วยก่อนเข้ารับการรักษา ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถประเมินระดับความรุนแรงของอาการได้ตั้งแต่แรกเริ่ม ส่งผลให้การรักษาพยาบาลที่เร่งด่วนเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และกรมสุขภาพจิต ในธุรกิจโรงแรมอย่าง HOP INN ก็นำแพลตฟอร์มนี้มาใช้พัฒนาผู้ช่วย AI สำหรับบริการจองห้องพัก ส่วนสถาบันการเงินอย่างเงินติดล้อก็ใช้ผู้ช่วย AI ด้านการขายในการดูแลลูกค้าใหม่ ผู้ช่วย AI เหล่านี้สามารถปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างใกล้เคียงกับผู้เชี่ยวชาญคนไทย โดยมีความแม่นยำสูงถึง 95%
ดร. วินน์ วรวุฒิคุณชัย ผู้ก่อตั้ง BOTNOI กล่าวว่า “เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น และทำให้เราสามารถช่วยเหลือครูกว่า 3,000 คนทั่วประเทศ ในการสร้างบทเรียนที่ทำให้การศึกษาเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังใช้ AWS ในการพัฒนา BOTNOI Voice ซึ่งเป็นระบบที่พูดคุยโต้ตอบได้เหมือนคนจริง ๆ ใช้ได้หลายภาษา และเข้าใจวัฒนธรรมในแต่ละประเทศที่แตกต่างกันด้วย”
ดร. วินน์ กล่าวเสริมว่า “Amazon Bedrock ช่วยให้เราปรับเปลี่ยนการใช้งาน AI ได้หลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งสำคัญมากสำหรับ BOTNOI Voice เพราะช่วยให้เราตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีความต้องการที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังได้เข้าร่วมโปรแกรม AWS Activate ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ โปรแกรมนี้ช่วยเหลือเราได้มากในการเติบโตบน AWS ทำให้เราสามารถพัฒนา ขยายธุรกิจ และสร้างรายได้จาก BOTNOI Voice ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
- BOTNOI ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่คำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรม เพื่อสร้างเสียงพูดจากข้อความและข้อความจากเสียงพูดให้ดูเป็นธรรมชาติ บริษัทใช้บริการ AWS EC2 G4DN instances ซึ่งเป็นอินสแตนซ์ GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านต้นทุนสำหรับการประมวลผลด้าน Machine Learning (ML) และแอปพลิเคชันที่ต้องใช้งานกราฟิกสูง อินสแตนซ์เหล่านี้ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สามารถขยายได้บนคลาวด์ ทำให้รองรับปริมาณงานด้าน Generative AI ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นได้อย่างดี ในปี 2568 BOTNOI วางแผนที่จะทดลองใช้ชิป Trainium2 ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ AI ชิปนี้สามารถฝึกฝนโมเดลได้เร็วกว่าชิป Trainium รุ่นแรกถึง 4 เท่า
- Amazon Bedrock เป็นบริการที่ช่วยให้สร้างและขยายขนาดแอปพลิเคชัน Generative AI ด้วยโมเดลพื้นฐาน (Foundation Models หรือ FMs) ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนผู้ช่วย AI ของ BOTNOI บริการนี้ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงโมเดลพื้นฐานประสิทธิภาพสูงจากบริษัท AI ชั้นนำอย่าง AI21 Labs, Anthropic, Cohere, Meta, Mistral AI, Stability AI และ Amazon ได้อย่างง่ายดายผ่าน API เพียงช่องทางเดียว
- BOTNOI Voice ใช้ Amazon Bedrock Guardrails เพื่อกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกตามระดับที่ต้องการ โดยตั้งค่าการป้องกันเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชันตามนโยบายการใช้ AI อย่างรับผิดชอบของ BOTNOI ระบบนี้ช่วยให้สามารถกำหนดระดับการกรองเนื้อหาในหมวดต่าง ๆ เช่น คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง คำดูถูก ภาษาที่เกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง นอกจากนี้ BOTNOI ยังมีแผนที่จะพัฒนาโมเดลบน AWS เพื่อป้องกันการใช้คำไม่สุภาพหรือไม่เหมาะสม รวมถึงการใช้หรือละเมิดเสียงของผู้อื่นบนแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต
- Amazon SageMaker JumpStart เป็นศูนย์รวมเทคโนโลยี ML ที่มีทั้งโมเดลพื้นฐาน อัลกอริธึมสำเร็จรูป และโซลูชัน ML สำเร็จรูปให้เลือกใช้งาน ช่วยให้ BOTNOI สามารถฝึก ปรับปรุง และนำโมเดลไปใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยใช้ข้อมูลเสียงพูด ภาษา และวัฒนธรรมไทยจากผู้ใช้ที่ยินยอมให้ข้อมูล
- BOTNOI ทำงานร่วมกับ Amazon Connect ซึ่งเป็นบริการศูนย์บริการลูกค้าที่ใช้ AI ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่นผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ แชท หรืออีเมล บริการนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้องค์กรสามารถจัดการการรับสายจากลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ คัดกรองสายเรียกเข้า และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาเร่งด่วน ทำให้พนักงานสามารถแก้ไขปัญหาที่สำคัญได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
- ตอนนี้ลูกค้าของ AWS หลายล้านรายสามารถใช้บริการ BOTNOI Voice ได้แล้วผ่าน AWS Marketplace ซึ่งเป็นแค็ตตาล็อกดิจิทัลที่รวบรวมซอฟต์แวร์ ข้อมูล และบริการจากบริษัทคู่ค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหา ซื้อ ติดตั้ง และจัดการผลิตภัณฑ์เหล่านั้นบนคลาวด์ AWS ภายใต้ AWS Partner Network (APN) AWS Marketplace จะสนับสนุนผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) และบริษัทที่ปรึกษา (Consulting Partners) ในการพัฒนาบริการ ทำการตลาด และวางจำหน่ายบริการบน AWS ด้วยการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ เทคนิค และการตลาดอย่างครบวงจร
BOTNOI ทำงานร่วมกับ AWS Advanced Technology Partner ที่ชื่อว่า DoiT เพื่อปรับปรุงวิธีการออกแบบและการนำระบบกับแอปพลิเคชันไปใช้งานบน AWS ด้วยความช่วยเหลือจากทีมวิศวกรของ DoiT BOTNOI สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์และแมชชีนเลิร์นนิงได้มากกว่า 75% โดยการทำให้การใช้บริการคลาวด์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความต้องการด้านภาษาที่แตกต่างกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดโอกาสที่น่าสนใจให้กับบริษัทอย่าง BOTNOI ในการพัฒนาโซลูชันด้าน AI ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละประเทศ เรารู้สึกภูมิใจที่ได้สนับสนุนพันธกิจของ BOTNOI ในการทำให้ AI สำหรับการสนทนานั้นเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ความสำเร็จของ BOTNOI เป็นตัวอย่างที่ดีว่า AWS ช่วยให้สตาร์ทอัพในภูมิภาคนี้สามารถทดลองไอเดียใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ และประสบความสำเร็จในการเติบโตทางธุรกิจอย่างน่าทึ่ง”