Boston Dynamics เผยหุ่นยนต์ Atlas รุ่นที่สอง สามารถเดินสองขาแบบมนุษย์ได้ดียิ่งกว่าเดิม ปรับปรุงการทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น สามารถยกของเปิดประตูได้เอง และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางที่อยู่โดยรอบที่แม่นยำกว่าเก่า
เหมือนคนขึ้นเรื่อย ๆ Boston Dynamics บริษัทในเครือ Google เจ้าเก่า ที่เคยผลิตหุ่นยนต์หน้าแปลก ๆ แต่ประสิทธิภาพสูงมาแล้วมากมาย ล่าสุดก็ได้เผยคลิปวิดีโอโชว์ศักยภาพของเจ้า “ATLAS” หุ่นเดินสองขาแบบมนุษย์รุ่นปรับปรุง ที่สามารถเคลื่อนไหวแบบเดียวกับมนุษย์ได้ดียิ่งกว่าเก่า
ATLAS ถือเป็นหุ่นที่มีรูปร่างและการเคลื่อนไหวคล้ายมนุษย์อย่างมาก โดยขนาดตัวของมัน มีความสูง 175 เซนติเมตร หนัก 82 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าตัวเล็กกว่ารุ่นก่อนมากทีเดียว ที่แต่ก่อนมีความสูงถึง 190 เซนติเมตร หนักถึง 156 กิโลกรัมกันเลย แต่กลไกการเคลื่อนไหว ยังคงใช้ระบบไฮดรอลิกเหมือนเคย แต่ดูเหมือนจะปรับปรุงในเรื่องของเซ็นเซอร์ประเมินสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว ให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนในรุ่นปรับปรุงนี้เอง ทาง Boston Dynamics ก็ได้อัดคลิกโชว์ความสามารถของเจ้า ATLAS รุ่นที่สองนี้ อาทิ
- การเดินสองขาแบบมนุษย์ที่ดูคล่องตัวมาก ๆ
- สามารถผลักเปิดประตูได้ด้วยตัวเอง
- เดินบนพื้นที่ขรุขระได้โดยไม่ล้ม (จากคลิปจะเห็นได้ว่า มันเกือบจะล้มทีหนึ่ง แต่มันกลับเอาขายันไม่ให้ล้มได้ทันทวงที)
- เดินตามจังหวะการก้าวเดินพร้อมกับคนได้
- ยกของแล้ววางในชั้นได้ตรงตำแหน่ง
- เมื่อมันถูกคน (แกล้ง) ดันกล่องออกจากตัวมันตอนกำลังจะยก มันยังคงติดตามเพื่อจะยกกล่องใบนั้นต่อไป
- ตอนถูกคนดันจนล้ม มันก็สามารถพยุงตัวขึ้นยืนได้ทันที (ใช้เวลาประมวลผลเล็กน้อย)
หากสังเกตุในคลิปดี ๆ จะเห็นได้ว่า ทั้งบานประตู และตัวกล่อง จะมีสัญลักษณ (คล้าย ๆ QR Code) แปะเอาไว้ด้วย เชื่อว่า คงเป็นตัวช่วยให้ระบบเซ็นเซอร์ของหุ่นตัวนี้ ประมวลผลได้ง่ายขึ้น ให้มันสามารถผลักหรือยกของได้อัตโนมัตินี้เอง แต่อาจยังต้องอาศัยคนบังคับจากระยะไกลอยู่
อย่างที่เคยทราบกันดีว่า แต่เดิมแล้ว Boston Dynamics เคยเป็นหน่วยงานทางด้านทหารมาก่อน แต่ภายหลังก็ถูก Google ซื้อไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดังนั้นจะเห็นได้ว่า หุ่นแต่ล่ะตัวของบริษัท ล้วนมีหน้าตาดูน่ากลัวแปลก ๆ เกือบทุกตัว บางคนถึงกับบอกว่า Google จะกลายเป็น “Skynet” หลังซื้อบริษัทนี้เลยก็มี แต่ถึงอย่างไรแล้ว เป้าหมายของบริษัทนี้คือการพัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถทำงานแทนมนุษย์ในอนาคต ส่วนจะกลายเป็นแบบ “คนเหล็ก” ไหม อันนี้คงต้องรอดูกันยาว ๆ ครับ…..
ที่มา : The Verge