รู้ทัน Bloatware ภัยเงียบบนสมาร์ทโฟน ที่คนไทยมักมองข้าม

รู้ทัน Bloatware

คิดว่าหลายคนน่าจะพอเห็นข่าวที่มีสมาร์ทโฟน 2 แบรนด์แอบติดตั้งแอปเงินกู้ในเครื่อง ซึ่งเป็นแอปที่ลบออกไม่ได้ เพราะแอปได้ถูกติดตั้งแอปมาจากโรงงาน กลายเป็นข่าวใหญ่โต รวมถึงแถลงการณ์ ยังมีการพาดพิงถึงบริษัทอีกแห่ง ทำให้ต้องรีบออกมาชี้แจงด่วน ๆ

Techhub อยากพาทุกคนทุกคนไปรู้จักกับ Bloatware (อีกครั้ง) มันคือสิ่งที่คนไทยควรให้ความสำคัญมานานแล้ว โดยทั่วไปแล้ว Bloatware นั้น จะติดตั้งมาในอุปกรณ์แบบที่เราไม่ได้ขอ เปรียบเสมือนปรสิตที่คอยสูบทรัพยากรเครื่องไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หน่วยความจำ(RAM) และพลังงานแบตเตอรี่ ส่งผลให้สมาร์ทโฟนทำงานช้าลง อืดอาด ค้างบ่อย และแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ร้ายกว่านั้นคือ แอปพลิเคชันบางตัวยังอาจทำงานอยู่เบื้องหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว แอบเก็บข้อมูลการใช้งาน และส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ผลิตหรือบุคคลที่สาม

สิ่งที่คนไทยบางกลุุ่มมองข้าม Bloatware ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากขาดความตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่แท้จริง อาจมองข้าม หรือไม่ได้ใส่ใจ หลายคนอาจไม่เคยสังเกตว่าสมาร์ทโฟนของตนทำงานช้าลงเพราะอะไร หรืออาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทโฟนที่ใช้ไปนานๆ

นอกจากนี้ การที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและผู้ให้บริการเครือข่ายในไทย มักจะติดตั้ง Bloatware จำนวนมากลงในเครื่อง โดยไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งได้ง่ายๆ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภคคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ยอมรับได้ ต่างจากในบางประเทศที่ผู้ใช้มีสิทธิ์เลือกติดตั้งเฉพาะแอปพลิเคชันที่ต้องการ หรือสามารถถอนการติดตั้ง Bloatware ได้อย่างอิสระ

ในกรณีของแอป Fineasy ที่กำลังเป็นข่าว ผมถือว่าเป็น Bloatware แอปหนึ่งนะนะ เพราะมัดมือชกผู้ใช้ ทางแบรนด์ (อาจจะ) หวังดีให้มีแอปเงินกู้ในเครื่อง แต่ดันไม่ทำให้ถูกกฏหมายเสียก่อน หรือทีมงาน อาจจะลืมตรวจสอบแอปก่อน (นี่มองในแง่ดีสุด ๆ แล้วนะ) แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะหากเราซื้อ Smartphone มาสักเครื่องหนึ่ง เราย่อมมีสิทธิ์เบ็ดเสร็จในเครื่องของเรา ที่จะติดตั้ง หรือไม่ติดตั้งแอปใด ๆ ลงในเครื่อง (จริง ๆ ไม่ควรติดตั้งมาให้ด้วยซ้ำ แต่นี่ยังลบไม่ได้อีก)

และที่เป็นเกิดเป็นดราม่าต่อเนื่อง เพราะแถลงการณ์ ได้มีการพาดพิงไปยังบริษัท True Money ซึ่งเป็นแอปให้บริการทางการเงินอีกแอป ซึ่งบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เจ้าของแอป ก็ได้ออกแถลงการณ์ทันทีว่า True Money นั้นเป็นแอปที่ถูกกฏหมาย ให้ความสำคัญกับเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องติดตั้งแอปจาก Play Store หรือ App Store เท่านั้น นอกจากนี้ True Money ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 3X Protection ที่ใช้ตรวจ–จับ-หยุด มาใช้เพื่อสร้างความรัดกุมในการเข้าใช้บัญชีด้วยการยืนยันตัวตนหลายชั้น จึงแตกต่างจากแอป Fineasy ชัดเจน

จริง ๆ Bloatware ไม่ได้มีใน Smartphone อย่างเดียวนะ ใน Windows เองก็เจอมาไม่น้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ใช้จำนวนมากที่ออกมาวิจารณ์ Microsoft ว่ามี Bloatware ติดตั้งมาใน Windows 10 จำนวนมาก จนปัจจุบันก็เริ่มน้อยลง และที่สำคัญคือ มันลบออกไม่ยาก

สุดท้ายนี้ การกำจัด Bloatware ให้หมดไปจากสมาร์ทโฟนอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้ถึงปัญหา และพยายามจัดการกับมันอย่างเหมาะสม กรณีของ Fineasy ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ

เราในฐานะผู้ใช้ มีสิทธิ์ที่จะควบคุมอุปกรณ์ของเราเอง และมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้ผู้ผลิตและผู้ให้บริการเคารพในสิทธิและความเป็นส่วนตัวของเรา อย่าปล่อยให้ Bloatware กลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามทั้งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเราอีกต่อไป

ที่มา จดหมายข่าว Oppo , True Money