เบลนเดต้า (Blendata) บริษัท Deep Tech ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ เผยได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากลูกค้าองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าเดิม ลูกค้าใหม่ และพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย ดันยอดขายปีที่ผ่านมาโต 50% และรายได้เติบโตกว่า 80% เป้าหมายปี 66 ตั้งเป้ายอดขายโตเพิ่ม 50% และรายได้โต 100% จากการเดินหน้ายกระดับบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น ด้วย Cloud SaaS แบบบริการตนเองตามปริมาณการใช้งาน พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านข้อมูลครบวงจร
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา เบลนเดต้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าองค์กร ทั้งจากการขยายการใช้งานลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของลูกค้ารายเดิม ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์ของลูกค้ารายใหม่ อาทิเช่นโครงการหนึ่งที่ลูกค้าตัดสินใจนำแพลตฟอร์มของเบลนเดต้าไปทดแทนแพลตฟอร์ม Big Data ที่เป็นมาตรฐานขององค์กรเดิมอย่าง Hadoop กว่าร้อยเครื่อง สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ ซึ่งรวมไปถึงความเชื่อมั่นจากพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Distributor Partner อย่าง Get On Technology หนึ่งในผู้จัดจำหน่ายเทคโนโลยีองค์กรชั้นนำอย่าง Dell รวมถึง Cloud Partner อย่าง AIS Cloud X ที่นอกจากจะนำแพลตฟอร์มของเบลนเดต้าขึ้นไปให้บริการอยู่บน Cloud แล้ว ยังร่วมผลิตซอฟต์แวร์อย่าง AIS B-Log เพื่อตอบโจทย์ตลาดการเก็บข้อมูลจราจร (Log) ในองค์กรในลักษณะจ่ายตามจริง (Pay-Per-Use) และความร่วมมือระหว่าง PTT Digital และ G-Able ที่นอกจากจะนำเทคโนโลยีของเบลนเดต้าเข้าไปช่วยยกระดับการใช้ข้อมูลของบริษัทในเครือปตท.แล้ว ยังตั้งเป้าที่จะหาโอกาสในการใช้ข้อมูลเพื่อค้นหาธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกันอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ส่งผลผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยยอดขายเติบโต 50% และรายได้เติบโตกว่า 80% มีกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากลูกค้าเดิมที่ขยายลิขสิทธิ์การใช้งานแพลตฟอร์ม เพิ่มการบริการจัดเตรียมและวิเคราะห์ข้อมูล และลูกค้าใหม่ ทั้งลูกค้าองค์กรในกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน การผลิต สุขภาพ น้ำมันและพลังงาน ค้าปลีก ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าในประเทศไทยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาคธุรกิจให้ความสำคัญและมองการใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของการทำธุรกิจยุคนี้ จากผลสำรวจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) อุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าในปี 2564 มีมูลค่ารวม 1.59 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14.25% ซึ่งหากรวมปัจจัยเร่งต่าง ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งการเติบโตของ Digital การเติบโตของ Cloud การทำ Data Analytics ที่เป็นมาตรฐานของธุรกิจในยุคปัจจุบัน และยุคแห่ง AI ที่ต้องอาศัยข้อมูลคุณภาพดีจาก Big Data ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ และเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจ และนั่นเป็นโอกาสอันมหาศาลของเบลนเดต้าเช่นเดียวกัน
โดยในปี 2566 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานเดิมที่แข็งแกร่งอย่างการมีลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ชั้นนำในไทยหลายแห่ง โครงการต่อเนื่องทั้งโครงการใหม่ รายได้รอการรับรู้ รวมถึงการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจตามกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ด้าน Big Data & Analytics เพื่อให้บริการลูกค้าใหม่ ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม หรือการใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต
“นอกจากนี้ในปี 2566 นอกจากแพลตฟอร์มเดิมที่เป็น Big Data Lakehouse ที่ให้บริการได้ทั้ง On-Premise และ On-Cloud แล้ว Blendata มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Data Cloud SaaS แบบบริการตนเองตามปริมาณการใช้งาน และ Blendata Consult Service ให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ด้าน Big Data ที่จะทำให้สามารถตอบสนองต่อ Big Data & Analytics ในองค์กรได้อย่างครบวงจร จากปัจจัยทั้งหมดนี้จึงได้ตั้งเป้ายอดขายเติบโตก้าวกระโดดจากทุกบริการรวม 50% และคาดการณ์รายได้โตกว่า 100% พร้อมเป้าหมายในการผลักดันเทคโนโลยีของไทยสู่ระดับภูมิภาคในระยะเวลาอันใกล้นี้” นายณัฐนภัส กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ Blendata (เบลนเดต้า)
Blendata มุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการ Big Data เพื่อเป็นตัวกลางในการลดขั้นตอน ที่ยุ่งยากระหว่างข้อมูลที่ซับซ้อนกับผู้ใช้งาน (End-User) ด้วยระบบที่ถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันที่ จำเป็นต่อการบริหารจัดการข้อมูลอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวอย่างครบถ้วน ตอบโจทย์การใช้งานแบบ All-in-one เป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนวิธีการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ด้าน IT ทำให้ธุรกิจและองค์กรสามารถก้าวเข้าสู่ยุคของการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) ได้อย่าง รวดเร็ว พร้อมตอบรับโอกาสใหม่ ๆ และก้าวข้ามขีดจำกัดแบบเดิม ๆ ในยุคที่ธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล