ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ฉลอง 20 ปีจัดสัมมนาใหญ่ ‘SME Transformation’ ติดปีกความรู้ผู้ประกอบการ-พร้อมคลินิกให้คำปรึกษาธุรกิจครบวงจร หนุนปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล เติบโตอย่างยั่งยืน
ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ฉลองครบรอบ 20 ปี จัดสัมมนาใหญ่ “SME Transformation” ดึงสุดยอดมือบริหารองค์กรชั้นนำและกลุ่มธุรกิจดาวเด่น ร่วมเวทีแชร์ประสบการณ์ตรง ติดปีกความรู้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พร้อมเปิด “คลินิก” ให้คำปรึกษาธุรกิจแบบครบวงจร เร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล หนุนเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 20 ปี ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ทางกรรมการบริหารชมรมได้จัดงานสัมมนา “SME Transformation : เปลี่ยนผ่านธุรกิจ เติบโต ยั่งยืน” เพื่อส่งมอบสิ่งสำคัญคือการเติมความรู้ เสริมศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยได้รับเกียรติจากสุดยอดผู้บริหารองค์กรชั้นนำมาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรง ทั้งธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ องค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ บริษัท ปูนชิเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) หรือ SCG รวมทั้งสมาชิกดาวเด่นของชมรมที่เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อต่างๆ เตรียมพร้อมให้ธุรกิจรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดจากภาวะเศรษฐกิจ และกฎระเบียบต่างๆในโลกยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ภายในงานนี้นอกจากจะได้รับความรู้จากสุดยอดผู้บริหารองค์กรชั้นนำแล้ว ผู้ประกอบการยังจะได้เห็นตัวอย่างของกลุ่มเอสเอ็มอีดาวเด่น 10 ธุรกิจจากชมรมฯ ที่นำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ รวมทั้งบริการ “คลินิก” ให้คำปรึกษาจากหน่วยงานพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น บูธ BOI ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ, บูธ DEPA แนะนำวิธีการเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัล, บูธ NIA ส่งเสริมการปั้นธุรกิจ SME สู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และ บูธ สวทช. สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคการผลิตและบริการ และยังสามารถขอคำปรึกษาด้านการลงทุนกับบูธธนาคารกรุงเทพ โดยมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เช่น สินเชื่อ Bualuang Green เป็นต้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รับมือต่อความท้าทายของธุรกิจและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายพิเชฐ กล่าว
ด้านนายศุภชัย จินตนาเลิศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุขสมบูรณ์ น้ำมันปาล์ม จำกัด สมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี กล่าวว่า บริษัทเข้าร่วมชมรมฯ ตั้งแต่รุ่นแรก และเป็นช่วงที่บริษัทได้เริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มแห่งแรกในภาคตะวันออก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเพราะเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มน้อย จนได้รับความรู้ในการดำเนินธุรกิจจากผู้บริหารของธนาคารกรุงเทพ ผ่านชมรมฯ และเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญด้วยการนำ “นวัตกรรม” เข้ามาปรับใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากและดูเหมือนไกลตัว แต่การอบรมกับท่าน
ดร.โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ อดีตประธานกรรมการบริหาร ฯ ธนาคารกรุงเทพ ได้แนะนำให้เห็นว่า นวัตกรรมไม่ใช่เพียงเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีที่ต้องลงทุนสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนบัญชี การบริหารแรงงาน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากเอสเอ็มอี บริการจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะสามารถพาธุรกิจอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์
“ที่ผ่านมาสมาชิกเครือข่ายชมรมฯ มีการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกันอยู่เสมอทั้งจากสมาชิกด้วยกัน และจากฝ่ายเศรษฐกิจของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะเหมือนเป็นคู่มือ ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริษัทเองในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลเชิงลึกนี้ ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส จนมียอดขายเติบโตได้ถึง 3 เท่าจากช่วงปกติ” นายศุภชัย กล่าว
ด้านนายกุลโชค โพธิ์พัฒนชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เอ.ไอ. (A.I. Group) และ บริษัท เอ.ไอ. เทคโนโลยี จำกัด (A.I.Technology) อีกหนึ่งสมาชิกของชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ถือเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจไทย แต่มีจุดอ่อน คือ ขาดองค์ความรู้ในการบริการจัดการธุรกิจ ซึ่งชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีได้เห็นถึงความสำคัญและเข้ามาสนับสนุนในส่วนนี้ โดยนอกจากกิจกรรมการอบรมสัมมนา ศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ การจับคู่ธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจระหว่างกัน ซึ่งข้อมูลจากธุรกิจกิจที่ใกล้เคียงกันก็สามารถนำมาปรับใช้ต่อยอดในธุรกิจของตนเองได้ ทั้งนี้ แนะนำว่าธุรกิจรุ่นใหม่ ๆ ควรต้องทำความเข้าใจว่าตนเองมีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไร ต้องประเมินสถานการณ์ธุรกิจในอนาคต รู้จักลดความเสี่ยงจากการลงทุน รวมทั้งพัฒนาความรู้ทั้งด้านทักษะแรงงาน บริหารทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพพร้อมกับผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่
สำหรับชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี เป็นหนึ่งในการสนับสนุนเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการของธนาคารกรุงเทพจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 จากดำริของ ดร.โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ อดีตประธานกรรมการบริหาร ที่ต้องการให้เกิดการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเริ่มต้นจากการรวมตัวของผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมจากธนาคารและจัดตั้งเป็น “ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี” โดยธนาคารได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นศูนย์กลางเครือข่ายทางธุรกิจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ชมรมฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อขยายฐานการสร้างเครือข่ายสมาชิกที่แข็งแรง ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีเครือข่ายสมาชิกเอสเอ็มอีจากทั่วประเทศกว่า 2,000 ราย ภายใต้สโลแกน “สัมพันธ์ดี มีเครือข่าย ได้ความรู้ อุ้มชูธุรกิจ”