กลับมาทวงบังลังก์ BlackBerry ปล่อย “KEY 2 Red Edition” ลงตลาด US.

KEY 2 Red Edition

หากเอ่ยชื่อแบรนด์ BlackBerry เชื่อว่าหลายท่านคงหนึกถึงโทรศัพท์ที่เป็นตำนานในด้านการแชท อย่างแน่นอน แต่ การกลับมาลุยตลาดโทรศัพท์ในครั้งนี้ของแบรนด์ BB นั้นไม่ได้มาเล่นๆ เพราะได้ปล่อยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “KEY 2 Red Edition” ที่ถูกถามถึงเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้เปิดตัวในงาน MWC 2019 ที่ผ่านมา…

Highlight

  • BlackBerry เผยโฉฒ KEY II Red Edition สีแดงพิเศษ!! ที่มาพร้อมหน่วยความจำเพิ่ม 128GB พร้อมจำน่ายในราคา 22,500 บาท ในเว็บ Amazon เฉพาะตลาด US.

BlackBerry KEY 2 Red Edition

หากจะกล่าวว่าเป็นการรีเทิร์นก็คงอาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะในความเป็นจริง BlackBerry ได้พยายามที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ด้วยการออกแบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ทำงานบนระบบฏิบัติการแอนดรอย์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่ ปัง!! ซักเท่าใด แต่เดี๋ยวก่อน…เราไม่ได้ความว่า KEY One ในรุ่นก่อนหน้านั้นไม่ดี

เพราะในรุ่นของ BlackBerry KEY One นั้นถือว่าพัฒนามาได้แย่ซะทีเดียว เนื่องจากออกตัวเครื่องด้วยวัสดุที่ค่อนข้างแข็งแรง (แม้จะดูเหลี่ยมเยอะไปหน่อย) ก็ตาม แต่ก็พอให้อภัยได้ และแม้ว่าเพิ่งจะปล่อยตัว BlackBerry KEY2 ได้ไม่นาน BlackBerry ก็ส่งตัว Red Editionออกมายั่วเหล่าสาวกกันต่อเนื่องเลยทีเดียว

และดูเหมือนว่าจะได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีเสียด้วย เพราะในการเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า (Pre-order) ไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา แล้วยังขนไปโชว์ในงาน MWC 2019 ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยแว่วมาว่าได้รับความสนใจไม่นานจากผู้ที่เข้าชม

KEY 2 Red Edition

ในด้านประสิทธิภาพของตัว KEY II Red Editionนี้ เรียกได้ว่าแทบไม่ได้แตกต่างกับสีอื่น ๆ ทีได้เปิดเผยสเปคมาก่อนหน้านั้นมากนัก ไม่ว่าจะเป็น 

  • ตัวบอดีี้ผลิตจากอลูมิเนียมแข็งแรงสูง
  • ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว (ความละเอียด 1080 x 1620) *ระบบสัมผัส Multi-Touch
  • หน่วยประมวลผล Snapdragon 660
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 (Oreo)
  • กล้องหน้า 8MP ไฟแฟลช Dual LED
  • กล้องหลังคู่ 12 MP *ถ่ายวีดีโอรองรับสูงสุดถึง 4K แบบ 30 เฟรมต่อวินาที (กรณีไม่ใช้ฟังก์ชั่นกันสั่น)
  • หน่วยความจำ 32 GB (ตัวเครื่อง) รอง microSD สูงสุด 256 GB
  • หน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ (RAM) 4-6GB **เฉพาะ Red Edition ได้เพิ่มมาให้ถึง 128GB
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 / NFC / Type-C USB 2.0
  • รองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ
  • ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,500 mAh
  • แป้นพิมพ์แบบปุ่มกด QWERTY (Integrated Full Keyboard)

แต่ที่ดูจะพิเศษขึ้นมานิดหน่อย คือทาง BlackBerry ได้ออกแบบให้ BlackBerry Hub+ มีความแปลกตาขึ้นไปเล็กน้อย และอัปเดต UX เพิ่มในส่วนของ “Action bar” ใหม่ เพื่อการเข้าถึงทางลัดได้สะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการค้นหาเรียงลำดับ และพิมพ์นั่นเอง

แต่หากถามว่าจะมาขายในประเทศไทยหรือไม่นั้น แอดมินว่า อาจจะมีคนหิ้วมาบ้าง แต่ไม่น่าจะขายเป็นจริงจังซักเท่าใด เพราะเท่าที่ผ่านมาตลาดผู้เล่นไทยไม่ค่อยนิยมปุ่มพิมพ์แล้ว แต่สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บ Amazon นะครับ สนนราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ $699 (22,500 บาทเท่านั่นเอง) (-_____-“)

ที่มา : www.gsmarena.com

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.gsmarena.com