แม้ว่าใครจะบอกว่าอนิเมะคือการ์ตูนหรือเรื่องของเด็กก็ตามที แต่สำหรับคนที่เข้าใจ อนิเมะคือโลกแห่งจินตนาการที่มอบความสุขให้ไม่รู้จบ คือแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ที่บ่อยครั้งทำให้เราได้สนุกทะลุจอ โดยเฉพาะความอินที่มาจากเสียงพากย์ที่ผลักดันให้คออนิเมะไทยจำนวนไม่น้อยลุกขึ้นแปลงร่างจากคนดูมาเป็นคนพากย์เพียงเพราะมันน่าสนุก และพอได้ทำแล้วก็พบว่ามันทำให้มีความสุขจริงๆ แถมบางครั้งยังสามารถสร้างรายได้และเปลี่ยนเป็นอาชีพในอนาคตได้อีกด้วย!
“ความสุขจากการเล่นกลายร่างเป็นตัวละครไม่รู้จบ”
นักพากย์สาวนาม Nuguse_Dub ในวัย 20 ปี ก้าวเข้าสู่วงการพากย์เมื่อ 5 ปีที่แล้วจากการเข้ากลุ่มแฟนนักพากย์การ์ตูนกลุ่มหนึ่งโดยบังเอิญจนกระทั่งจับพลัดจับผลูได้มาพากย์การ์ตูนอนิเมะเป็นเรื่องเป็นราว โดยสำหรับ Nuguse_Dub ตัวละครใหม่ๆ ที่มาพร้อมบุคลิกและอารมณ์อันน่าค้นหาคือสิ่งที่เธอไม่เคยหยุดมองหาเพื่อที่จะท้าทายตัวเอง
“การได้ลองเป็นตัวละครใหม่ๆ ทำให้เราได้ฝึกฝนทักษะการพากย์ไปในตัว การพากย์เสียง ก็เหมือนกับเราได้สวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นๆ ค่ะ มันทำให้เรามีความสุขมาก เพราะมันสนุกที่ได้ลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ แถมพอพากย์ไปเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นความผูกพันระหว่างเรากับตัวละครนั้นๆด้วย”
Nuguse_Dub บอกว่าตอนที่เธอมีความสุขที่สุด คือตอนที่ได้พากย์โดยใช้ภาษาใต้ซึ่งเป็นภาษาถิ่นเกิดของเธอ และอาจจะเป็นเพราะพลังอินเนอร์ของสาวใต้ตัวจริง ที่ทำให้วิดีโอคอนเทนต์ของเธอมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะวิดีโอ “เบื้องหลังอดีตของคานาโอะ” เห็นได้จากยอดวิวที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 45% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นการเล่าเรื่องราว ตอนน้องคานาโอะไม่มีครอบครัวและกำลังจะถูกไปขาย แต่ชิโนบุดันมาพบและช่วยไว้ได้ทัน
“ช่วงแรกๆ ของการพากย์ก็จะยากหน่อย เพราะเรายังต้องฝึกควบคุมการใช้เสียง พอเราหัดไป เราก็คิดว่า ทำไมเราไม่ลองเอาภาษาพื้นบ้านตัวเองมาใช้ดูบ้าง ตอนนี้เลยเอาภาษาท้องถิ่นตัวเองมาใช้บ่อย เพราะมันสนุกมาก พากย์ไปแล้วมีความสุขสุดๆ แล้วพอได้เห็นว่ามีผลตอบรับดี คนชอบ เราก็ยิ่งมีความสุข เพราะความสุขของเราส่งต่อได้”
นอกจากนี้ Nuguse_Dub เชื่อว่าการพากย์อนิเมะ เป็นมากกว่าความสุขเล็กๆ แต่การมีพอร์ตโฟลิโอผลงานก็สามารถทำให้ความสนุกนี้เปลียนเป็นอาชีพในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน
“จากแต่ก่อนที่หลายคนจะมองว่าอนิเมะมีไว้สำหรับเด็กดูเท่านั้น ในวันนี้วงการอนิเมะไทยค่อนข้างเฟื่องฟูขึ้นแล้วนะคะ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร อนิเมะก็สร้างความสุขให้ได้ และบางคนอาจได้ค้นพบแพชชั่นของตัวเองในรูปแบบของการพากย์อนิเมะเหมือนกับเรา อยากจะบอกว่าตอนนี้เรามีตัวช่วยที่ทำให้เราไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นได้เร็วขึ้น มีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เราสนุกกับการสร้างผลงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย แชร์ง่าย รวบรวมง่าย รวมไปถึงการฟังคอมเมนต์และเจอเพื่อนใหม่ ขอแค่เริ่มลองเท่านั้น แล้วโอกาสของเราก็จะเข้ามาเอง”
“ความสุขจากการสร้างรอยยิ้มให้คนอื่นในแบบฟรีสไตล์”
JKD__Studio นักเรียนชายวัย 18 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่ฝันว่าวันหนึ่งตนเองจะก้าวเข้าสู่การเป็นนักพากย์มืออาชีพ เขาฝึกฝนตนเองมาแล้วถึง 3 ปี โดยขยันทำวิดีโอคอนเทนต์ถึง 7 วันต่อสัปดาห์
“ผมชอบดูอนิเมะอยู่แล้วครับ เริ่มมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น โดยเฉพาะอนิเมะพากย์เสียงญี่ปุ่นมีซับไทย ดูแล้วความอยากมันมาเอง ดูแล้วเราอยากลองให้เสียงตัวละครนั้นๆ บ้าง และพอลงคลิปไปเรื่อยๆดันมีคนมาดูเยอะ ก็เริ่มมีคนติดตาม หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาดูและติชมเรื่อยๆ ผมก็เลยได้ปรับปรุงพัฒนาตัวเอง จนเก่งและเชี่ยวชาญขึ้น”
หากคุณเข้าไปดูวิดีโอของ JKD__Studio คุณจะเข้าใจว่าเสน่ห์ของเขาอยู่ที่สไตล์การพากย์แบบฟรีสไตล์ หรือที่เรียกกันว่า ซับนรก ซึ่งเขาเลือกทำแค่เพราะชอบ จนกลายเป็นเอกลักษณ์การพากย์ของเขาที่ทำให้ JKD__Studio เป็นที่รู้จักในวงการนักพากย์อนิเมะรุ่นใหม่ของไทย โดยหนึ่งในวิดีโอชิ้นโบว์แดงที่มียอดวิวพุ่งขึ้นเกือบ 700% จากยอดวิวโดยเฉลี่ยของวิดีโอตัวอื่นๆ ของเขา คือ “โกหกหัวใจตัวเองไม่ได้อีกแล้วววว – ยูริ” เป็นเรื่องราวของ วิคเตอร์ นิกิฟอรอฟ นักแข่งสเกตลีลาที่ถูกเรียกว่าตำนานแห่งรัสเซีย และเกิดแรงบันดาลใจในการเล่นสเกตลีลาต่าง ๆ จนสามารถเข้ามาเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นได้
“ผมคิดว่าการพากย์แบบฟรีสไตล์หรือซับนรกมันน่าสนใจกว่าการพูดแบบปกตินะ โดยเสียงที่ผมจะใช้บ่อยๆ คือเสียงโทนกลางหรือต่ำๆ หน่อย ผมมีความสุขทุกครั้งกับทุกงานพากย์เลย อธิบายไม่ถูก เราชอบ เรามีใจรัก แล้วเราก็จะหมั่นพยายามทำมันให้ดีขึ้น ทำผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ดีที่สุด แต่ไม่กดดันตัวเองนะ เราสนุก สบาย ไม่เครียด แล้วงานจะออกมาดี ใส่พลังบวกลงไป แค่สามารถส่งต่อความสุขให้คนดูได้มีความสุขไปพร้อมๆกัน แค่นี้ผมก็แฮปปี้แล้วครับ”
JKD__Studio เชื่อว่า ความชอบคือเรื่องส่วนบุคคลที่เราทุกคนควรกล้าที่จะลงมือทำ โดยไม่ต้องสนใจคำพูดของคนอื่น
“อยากจะทำอะไรก็ทำออกมาเลย ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมองเราว่ายังไง เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบ ทำแล้วมีความสุข สนุก เกิดแรงบันดาลใจ และฮึกเหิม และมันคือความภาคภูมิใจของตัวคุณ ซึ่งจะติดตัวคุณไปตลอดชีวิต ถ้าคุณรักการพากย์แบบผม จะเป็นสไตล์อะไรก็ตาม เริ่มทำเลยครับ มองหาพื้นที่ที่พร้อมเสริมสร้างทักษะและเปิดโอกาสให้เราได้แสดงฝีมือ วันแรกคุณอาจจะยังไม่เก่งที่สุด แต่ถ้าคุณพยายาม ฝึกฝน และอดทน ความเชี่ยวชาญของคุณจะมาเอง แชร์ผลงานของคุณไปเรื่อยๆ ครับ คนในวงการพากย์พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ แล้วเราจะมีความสุขไปด้วยกัน”
“ความสุขในวัยเด็กของเราที่ไม่เคยหายไปไหน”
LimCord Studio คือนักพากย์การ์ตูนอนิเมชั่นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากกิจกรรมนักพากย์เสียงอนิเมะสตาร์ Bilibili ปี 2564 ที่มีเงินรางวัลใหญ่ถึง 405,000 บาท เสน่ห์ของคลิปที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และได้ถูกใจคนดูมากที่สุด ที่ได้รับยอดวิว ยอดไลค์ และคอมเมนต์มาอย่างล้นหลาม หลังจากนั้นเขาจึงได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางนักพากย์นับตั้งแต่วัย 17 ปี ด้วยแรงบันดาลใจสำคัญคือน้าต๋อย เซมเบ้ (นิรันดร์ บุณยรัตพันธุ์) นักพากย์ระดับตำนานที่คนไทยรุ่น 90 ได้ยินเสียงแล้วต้องร้องอ๋อ
“ผมโตมากับอนิเมะครับ ตอนเด็กๆ ชอบดูการ์ตูนพากย์ไทยมาก ดูแล้วมีความสุข เรื่องแรกที่ดูคือ “ดราก้อนบอล” ซึ่งพากย์เสียงโดยน้าต๋อยเซมเบ้ เรื่องนี้เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนของผมเลย เพราะดูแล้วผมตัดสินใจเลยว่าอยากจะพากย์ให้ได้แบบคนนี้”
LimCord Studio เดินหน้าพัฒนาทักษะของเขาอย่างต่อเนื่อง และได้รับโอกาสไปเรียนการพากย์กับนักพากย์มืออาชีพแบบจริงจังมากมาย จนกระทั่งเขาได้มีโอกาสพากย์การ์ตูนเรื่องแรกคือ Monster strike ในบทตัวเอกชื่อ โฮมุระ เรน และอีกหลากหลายเรื่องจนเขากลายเป็นนักพากย์ที่เริ่มมีชื่อเสียง โดยจุดเด่นของเขาก็คือเสียงไทยออริจินัลที่แฟนอนิเมะต่างหลงใหล เรียกได้ว่าเขาก้าวเดินตามรอยเท้าไอดอลของเขาได้แล้วจริงๆ
หนึ่งในคอนเทนต์โปรดของแฟนๆ ของ LimCord Studio คือ “รูปแบบว่างเปล่าสีม่วง” ที่นำเสนอการใช้สุดยอดท่าไม้ตายอันทรงพลังที่มีความหลากหลายของอาจารย์โกโจ จนคนดูก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ด้วยความสนุกนี้เลยทำให้ยอดวิววิดีโอตัวนี้พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 710% เมื่อเทียบกับวิดีโอตัวอื่นๆ ของเขา
“ตอนแรกๆ ก็มีความคิดอยากจะไปพากย์หนังเหมือนกันครับ แต่มันยากกว่าการพากย์การ์ตูนมาก เพราะเราต้องรู้ทักษะการแสดง (Acting) และสีหน้าของตัวละครก็เปลี่ยนเร็วมาก ผมจึงหันมาฝึกพากย์การ์ตูนก่อน พอพากย์ไปพากย์มามันก็สนุกขึ้นเรื่อยๆ ถลำลึกลงไปจนกลายเป็นความรักในที่สุด โดยผมจะอินมากๆ ที่หน้างานการพากย์ซึ่งเราจะได้เห็นภาพตัวละคร ได้ยินเสียง ได้เห็นการดำเนินเรื่อง เพราะเราได้สื่อสารกับตัวละครนั้น และได้เห็นตัวละครสื่อสารออกมาในเสียงของเราจริงๆ นอกจากนี้การพากย์ที่เราสามารถใส่ตัวเราลงไปได้ เช่น การครีเอทเสียงตัวเอง การยิงมุกตลก หรือการโต้ตอบบทกับทีมงาน ก็ยิ่งทำให้ผมมีความสุขมากๆ”
ปัจจุบัน LimCord Studio มีความสุขอย่างมากกับการพากย์การ์ตูนอนิเมะ จนสามารถทำคอนเทนต์ได้ถึงประมาณ 10 คลิปต่อสัปดาห์ โดยในวันนี้แม้จะก้าวสู่วัย 27 ปีแล้ว เขายังคงมองว่าโลกแห่งอนิเมะพากย์เสียงยังคงเป็นโลกที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจไม่ต่างไปจากวันที่เขาได้ยินเสียงน้าต๋อยเซมเบ้เป็นครั้งแรก
“สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นนักพากย์ ผมอยากบอกว่าอย่าลังเลครับ มันทั้งไม่ยากและไม่ง่าย ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝนและความขยัน ผมเองก็ใช้เวลาฝึกฝีมือนานพอสมควรกว่าจะได้รับโอกาส ถ้าคุณมีดีในตัว อย่ากลัวครับ ต้องกล้าแสดงออก ในวันนี้เทคโนโลยีล้ำหน้าไปมาก ทำให้เรามีแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันซึ่งตอบโจทย์ทั้งการส่งเสริมแรงบันดาลใจและการแสดงออกทางความสามารถของคนรุ่นใหม่ทุกคน อยากให้ทุกคนลุกขึ้นมาโชว์เลยครับ ว่าคุณทำได้”
คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่กำลังอินกับการพากย์เสียงอนิเมะ? อย่ารอช้า เริ่มลงมือฝึกฝนและแชร์ผลงานกันเลย ไม่แน่นะ วันหนึ่งคุณก็สามารถกลายเป็นนักพากย์มืออาชีพที่มีแฟนคลับมากมายได้เช่นกัน!
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Bilibili ได้ฟรี ผ่านทาง Google Play หรือ App Store แล้วเติมเต็มชีวิตคนรักที่จะพากย์อนิเมะไปด้วยกัน กับแรงบันดาลใจจากคลังอนิเมะที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่เพื่อการแชร์วิดีโอคอนเทนต์โดยผู้บริโภคสุดสร้างสรรค์มากมาย